ASTVผู้จัดการรายวัน - L&E ปรับกลยุทธ์ขยายธุรกิจโคมไฟฟ้าแสงสว่างรับตลาดแข่งดุในปี 52 มุ่งขายสินค้าแบบครบวงจร พ่วงการให้บริการเต็มรูปแบบ สอดคล้องความต้องการของลูกค้า ลุยตลาดส่งออกเต็มตัวหลังจากตลาดต่างประเทศเริ่มอิ่มตัว ยอมรับคุณภาพสินค้าของบริษัท ทดแทนสินค้าจากประเทศอื่น "ปกรณ์ " มั่นใจรักษาตำแหน่งผู้นำส่วนงานขายโครงการไว้ได้ ขณะงานขายส่งและปลีก เชื่อยังเติบโตได้ หนุนผลงานปีนี้โตต่อเนื่อง
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทปี 52 ว่า จากภาวะทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศคาดซบเซาต่อเนื่องจากปี 51 และทำให้การแข่งขันในตลาดมีมากขึ้นทั้งด้านราคา การให้บริการ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของตลาด ทั้งกลยุทธ์การขยายธุรกิจ และเป้าหมายการเติบโต โดยปีนี้ บริษัทฯ จะเน้นจุดเด่นที่มีผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างจัดจำหน่ายครบวงจร พร้อมบริการทั้งก่อนและหลังการขายให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมีคุณภาพ พร้อมมุ่งเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ ๆ ให้หลากหลายขึ้นเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวก มีระบบข้อมูลข่าวสารที่ดีและรวดเร็วให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางธุรกิจ
" ปี52 เป็นปีที่ประเมินยากที่สุด แต่เชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาน่าจะสูงขึ้น เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า แต่บริการและความเชื่อมั่น ปีนี้เชื่อว่าคนซื้อต้องการแบบมีบริการต่อเนื่อง ซึ่ง L&E มั่นใจว่ามีทั้งสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี และการเปิดช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ ๆ มีระบบข้อมูลข่าวสารที่ดีและรวดเร็วเพื่อให้ลูกค้ารับรู้ข่าวสารได้ทันท่วงที เสนอโครงการให้เร็วที่สุด เพื่อให้ลูกค้าพอใจในบริการ และเป็นลูกค้าของเราต่อไปในอนาคต " นายปกรณ์กล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ตลาดจะแข่งขันเดือด แต่มั่นใจว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า บวกกับการให้บริการ และตัวสินค้าที่มีอยู่อย่างครบวงจร เป็น One Stop Center และ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัท มุ่งขยายและปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถรับมือกับสถานการณ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี และเริ่มเห็นผลดีตั้งแต่ปี 51 คาดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ส่วนขายปลีกปีนี้บริษัทฯ เปิดโชว์รูมขนาดใหญ่ย่านถนนรัชดา มีสินค้าครบครันตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม จึงเชื่อว่าปี 52 จะเป็นปีที่การส่งออกเติบโตอย่างเด่นชัด และจะยังคงเป็นผู้นำในงานขายโครงการ ส่วนงานขายส่งเชื่อว่าตลาดจะขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น เดียวกับงานขายปลีก คาดว่าจะสามารถผลักดันให้รายได้เติบโตจากปี 51 ไม่ต่ำกว่า 5% ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทปี 52 ว่า จากภาวะทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศคาดซบเซาต่อเนื่องจากปี 51 และทำให้การแข่งขันในตลาดมีมากขึ้นทั้งด้านราคา การให้บริการ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของตลาด ทั้งกลยุทธ์การขยายธุรกิจ และเป้าหมายการเติบโต โดยปีนี้ บริษัทฯ จะเน้นจุดเด่นที่มีผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างจัดจำหน่ายครบวงจร พร้อมบริการทั้งก่อนและหลังการขายให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมีคุณภาพ พร้อมมุ่งเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ ๆ ให้หลากหลายขึ้นเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวก มีระบบข้อมูลข่าวสารที่ดีและรวดเร็วให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางธุรกิจ
" ปี52 เป็นปีที่ประเมินยากที่สุด แต่เชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาน่าจะสูงขึ้น เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า แต่บริการและความเชื่อมั่น ปีนี้เชื่อว่าคนซื้อต้องการแบบมีบริการต่อเนื่อง ซึ่ง L&E มั่นใจว่ามีทั้งสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี และการเปิดช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ ๆ มีระบบข้อมูลข่าวสารที่ดีและรวดเร็วเพื่อให้ลูกค้ารับรู้ข่าวสารได้ทันท่วงที เสนอโครงการให้เร็วที่สุด เพื่อให้ลูกค้าพอใจในบริการ และเป็นลูกค้าของเราต่อไปในอนาคต " นายปกรณ์กล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ตลาดจะแข่งขันเดือด แต่มั่นใจว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า บวกกับการให้บริการ และตัวสินค้าที่มีอยู่อย่างครบวงจร เป็น One Stop Center และ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัท มุ่งขยายและปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถรับมือกับสถานการณ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี และเริ่มเห็นผลดีตั้งแต่ปี 51 คาดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ส่วนขายปลีกปีนี้บริษัทฯ เปิดโชว์รูมขนาดใหญ่ย่านถนนรัชดา มีสินค้าครบครันตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม จึงเชื่อว่าปี 52 จะเป็นปีที่การส่งออกเติบโตอย่างเด่นชัด และจะยังคงเป็นผู้นำในงานขายโครงการ ส่วนงานขายส่งเชื่อว่าตลาดจะขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น เดียวกับงานขายปลีก คาดว่าจะสามารถผลักดันให้รายได้เติบโตจากปี 51 ไม่ต่ำกว่า 5% ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจ