xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นบอนด์เกาหลีซ้ำรอยECP กองทุนรวมเสี่ยงเงินไหลออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.หวั่นกองทุนบอนด์เกาหลี ซ้ำรอยตั๋ว ECP เหตุผลตอบแทนพันธบัตรแดนโสมหลังเฮจด์ค่าเงินแล้ว ไม่จูงใจ แถมใก้ลเคียงในประเทศ ทำให้เข็นกองใหม่รองรับกองที่กำลังหมดอายุไม่ได้ "กรุงไทย" ระบุ ทางเลือกค่อนข้างน้อย เหตุทั่วโลกดอกเบี้ยเป็นขาลง แต่ยังเชื่อมั่นหาตราสารใหม่ทดแทนได้ ส่วน"เอวายเอฟ" ลุ้น หากตลาดยังต้องการ ก็พร้อมส่งกองทุนลุย ชี้บอนด์ภาครัฐยังลงทุนได้ หลังค่าเงินวอนมีเสถียรภาพขึ้น

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี ที่เปิดขายหน่วยลงทุนในช่วงต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ขณะนี้เริ่มทยอยครบอายุการลงทุนไปบ้างแล้ว โดยกองทุนแรกครบอายุไปในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงนั้นเองบริษัทได้เปิดกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ออกมารองรับเพิ่มอีก 1 กองทุน หลังจากหยุดไปได้ระยะหนึ่ง และได้รับความสนใจจากนักลงทุนพอสมควร โดยสามารถระดมทุนด้วยยอดจองซื้อหน่วยลงทุนรวมประมาณ 800 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยในประเทศเกาหลีเองปรับลดลงมา ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนหลังจากป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ไม่จูงใจนักลงทุนมากนัก ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต่างจากผลตอบแทนในประเทศเท่าไหร่

"ในช่วงที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างค่าเงินวอนกับเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกับค่าเงินบาท ไม่ได้ช่วยเพิ่มผลตอบแทนของกองทุนพันธบัตรเกาหลี ทำให้การออกกองทุนใหม่มาขายไม่จูงใจนักลงทุนมากนัก และไม่ต่างจากในประเทศเท่าไหร่"นายสมชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากจะพูดถึงความน่าสนใจต่อการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีแล้ว ต้องบอกว่ายังน่าสนใจ ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวไปด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากศึกษาดีๆ รัฐบาลเกาหลีใต้เองมีมาตรการช่วยเหลือออกมาเยอะ ซึ่งต้องยอมรับว่าดีกว่าประเทศไทยพอสมควร ตัวเลขการคลังโดยเฉพาะเงินกู้เองก็น้อย

นายสมชัยกล่าวว่า หลังจากนี้ กองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.กรุงไทยเอง จะทยอยครบอายุการลงทุนไปทุกๆ เดือน จนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งมีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยหลังจากความน่าสนใจในพันธบัตรเกาหลีใต้ลดลงแล้ว ทำให้เป็นเรื่องยากในการหารูปแบบการลงทุนใหม่ๆ เข้ามารองรับ เพราะปัจจุบันการลงทุนในตราสารหนี้เองมีตัวเลือกน้อย ถึงแม้เราจะยังมั่นใจเกาหลีก็ตาม ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเองก็ปรับลดลงเช่นกัน ดังนั้น คงต้องรอดูจังหวะอีกครั้งว่า หลังจากนี้จะมีตราสารประเภทใดที่น่าสนใจลงทุนได้บ้าง

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนที่ครบอายุการลงทุนไปแล้วนั้น ส่วนหนึ่งมีการลงทุนต่อ โดยโยกไปลงทุนในกองทุนตลาดเงิน (มันนี่มาร์เกต) หรือในกองทุนตราสารหนี้ในประเทศแทน แต่จากการปรับลดดอกเบี้ยทำให้ผลตอบแทนลดลงตามไปด้วย ซึ่งบางทีก็ออกมาไม่ต่างจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมากนัก

"ปีนี้การครบกำหนดอายุของกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ เป็นเรื่องที่อุตสาหกรรมกองทุนรวมต้องเป็นห่วง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับช่วงต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่กองทุนที่ลงทุนในตั๋ว ECP ทยอยครบอายุ แต่ในช่วงนั้น ตลาดได้กองทุนเกาหลีออกมารองรับ ทำให้ชดเชยกันได้ ซึ่งในปีนี้เองก็หวังเช่นกันว่า หลังจากนี้ต่อไป จะมีการลงทุนใหม่ๆ ออกมารองรับกองทุนเกาหลีที่กำลังจะครบอายุเช่นกัน"นายสมชัยกล่าว

นายอาสา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายการลงทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยว่า กองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ของเอวายเอฟทยอยครบอายุไปบ้างแล้ว ซึ่งเงินลงทุนส่วนใหญ่ จะโยกไปลงทุนต่อในกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส (AYFCASHPLS) เนื่องจากมีการระบุไว้ในหลังสือชี้ชวน ซึ่งลูกค้าเองสามารถขายคือหน่วยลงทุนออกมาได้หากลูกค้าต้องการ ส่วนการออกกองทุนพันธบัตรเกาหลีกองใหม่ออกมารองรับนั้น ในช่วงนี้คงยังไม่มี

ทั้งนี้ การลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เองถือว่ายังน่าสนใจ โดยเฉพาะผู้ออกตราสารที่เป็นภาครัฐ แต่ความกังวลที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการอ่อนค่าอย่างรุนแรงของค่าเงินวอน แต่หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ราคาน้ำมันปรับลดลงส่งผลให้ค่าเงินวอนสวนทางกลับมาอยู่ใกล้เคียงกับระดับเดิมและเสถียรมากขึ้น เนื่องจากเกาหลีใต้เองเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันค่อนข้างเยอะ ซึ่งการที่ราคาน้ำมันลดลงดังกล่าวทำให้ดุลการค้าติดลบน้อยลงด้วย โดยค่าเงินวอนแข็งค่าขึ้นจากระดับ 1,490 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 1,250 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเดิมที่ในช่วงที่มีกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ออกมาเยอะ ขณะนั้นค่าเงินวอนเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,000-1,100 อนต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายอาสากล่าวว่า ปัจจุบันหากดูผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้หลังจากป้องกันความเสี่ยงค่าเงินแล้ว ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซึ่งยังสูงกว่าผลตอบแทนในประเทศที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยทั่วโลก ส่วนจะเปิดขายกองทุนดังกล่าวอีกหรือไม่นั้น คงต้องทอสอบความต้องการของตลาดก่อนว่าเป็นอย่างไร หรือยังพอมีช่องว่างให้สามารถลงทุนได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น