xs
xsm
sm
md
lg

"ไข่แม้ว"ป่วนตลาดหุ้นไทยฉุดวอลุ่มวูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – ตลาดหุ้นไทยเงียบเหงา เหตุนักลงทุนหวั่นการเมืองร้อนแรงอีกรอบ หลังแก๊ง "ไข่แม้ว" ชุมนุมปิดล้อมรัฐบาลไม่ให้รัฐบาล “อภิสิทธิ์” แถลงนโยบาย มูลค่าการซื้อขายแค่ 5 พันล้านบาท ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ด้านโบรกเกอร์ แนะนักลงทุนถือเงินสดรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ ก่อนกลับเข้ามาลงทุนใหม่ปีหน้า
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (29 ธ.ค.) ดัชนีปรับตัวอยู่ในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน จากแรงกดดันทางการเมืองที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา เพื่อไม่ให้รัฐบาลภายใต้แกนนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำรอย วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 440.21 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่มีเข้ามาอย่างเบาบาง ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานช่วงท้ายตลาด ช่วยผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวปิดที่ระดับสูงสุด 446.70 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนเล็กน้อยแค่ 0.08 จุด หรือคิดเป็น 0.02% มูลค่าการซื้อขายรวม 5,072.93 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการซื้อขายต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี 10 เดือน นับจากวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2550 ที่มีมูลค่าการซื้อขายรวม 4,724.20 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มียอดขายสุทธิรวม 749.80 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,120.34 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 370.53 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิดที่ 173 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 1 บาท หรือคิดเป็น 0.58% มูลค่าการซื้อขายรวม 544.90 ล้านบาท บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ปิดที่ 103 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 0.98% มูลค่าการซื้อขาย 375.49 ล้านบาท และบมจ.บ้านปู (BANPU) ปิดที่ 228 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 0.88% มูลค่าการซื้อขาย 266.52 ล้านบาท
นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ SYRUS กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากใกล้วันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้มีปริมาณการซื้อขายไม่มาก บวกกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเริ่มระอุอีกครั้ง จากกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภาเพื่อขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศไม่ได้มีความเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ เพราะตลาดหุ้นบางแห่งปิดทำการซื้อขายประกอบกับนักลงทุนเริ่มหยุดลงทุนเพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุดปีใหม่ และภาพรวมเศรษฐกิจของทั่วโลกยังอยู่ชะลอตัว
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คงจะมีมูลค่าการซื้อขายเข้ามาอย่างเบาบาง เพราะเป็นวันเปิดทำการซื้อขายตลาดหุ้นเป็นวันสุดท้ายของปี 2551 ขณะที่นักลงทุนจะต้องติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยช่วงนี้นักลงทุนควรชะลอการลงทุนและถือเงินสด โดยมีแนวรับที่ 438-440 จุด และแนวต้านที่ 448 จุด
นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่ปิดล้อมรัฐสภา เพื่อไม่ได้รัฐบาลสามารถแถลงนโยบายกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย รวมทั้งนักลงทุนจำนวนมากชะลอการซื้อขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเองปิดทั้งแดนบวกและแดบลบ
“แนวโน้มตลาดหุ้นไทยคงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนต้องติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี จะเป็นไปตามกำหนดหรือไม่ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงแนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ ประเมินแนวรับที่ 440 จุด และแนวต้านที่ 450 จุด”
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล. พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า วานนี้นักลงทุนได้เข้ามาเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก แม้จะมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาในช่วงท้ายตลาด แต่ไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นคึกคักมากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลปัจจัยทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มตลาดหุ้นวันสุดท้ายของปียังซบเซาต่อเนื่อง โดยประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 440 จุด และแนวต้านที่ 450 จุด
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล. เคทีบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ หลังกลุ่ม นปช. ขัดขวางการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งเป็นช่วงใกล้เทศกาลหยุดยาว ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไปก่อน เพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์
“ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ซึ่งเปิดเป็นวันสุดท้ายของปีน่าจะเงียบๆ แต่ผู้ลงทุนควรจับตาการแถลงนโยบายของรัฐบาล รวมถึงตลาดหุ้นต่างประเทศ และทิศทางราคาน้ำมัน ดังนั้นผู้ลงทุนควรชะลอการลงทุน เพื่อไปลงทุนอีกครั้งในปีหน้า โดยให้แนวรับอยู่ที่ 430 จุด แนวต้าน 456 จุด”
กำลังโหลดความคิดเห็น