xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปรับฐานลุ้นรัฐบาลใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – ตลาดหุ้นไทยปรับฐาน หลังดีดรับข่าวพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มเพื่อนเนวิน - 4 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม เหตุนักลงทุนเทขายกำไรระยะสั้น แม้นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบเดือนถึง 617 ล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ หนุนดัชนีตลาดหุ้นทะลุ 450 จุด หาก “อภิสิทธิ์” ได้นั่งนายกฯ ตามคาด พร้อมแนะนักลงทุนติดตามการเมืองและตลาดหุ้นต่างประเทศใกล้ชิด

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (11 ธ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นยังคงปรับตัวในแดนบวก ท่ามกลางแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง กดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่สามารถเพิ่มขึ้นไปได้มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมีความมั่นใจว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีบางส่วนยังคงรอดูการลงมติเลือกนายกฯ ให้เรียบร้อยก่อน

ทั้งนี้ ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 432.68 จุด และต่ำสุดที่ 423.07 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 424.61 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.82 จุด หรือคิดเป็น 0.19% มูลค่าการซื้อขายรวม 19,344.96 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศได้กลับเข้ามาซื้อสุทธิ 617.22 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 664.22 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,281.98 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิดที่ 172 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือคิดเป็น 2.38% มูลค่าการซื้อขายรวม 2,769.35 ล้านบาท บมจ.บ้านปู (BANPU) ปิดที่ 210 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 3.96% มูลค่าการซื้อขาย 2,102.03 ล้านบาท และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิดที่ 104 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.89% มูลค่าการซื้อขาย 1,581.80 ล้านบาท

นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ (11 ธ.ค.) ยังคงแกว่งตัวตามปัจจัยการเมืองภายในประเทศ แม้พรรรคร่วมรัฐบาล 4 พรรคเดิมและกลุ่มเพื่อนเนวิน ชิดชอบ ออกมาแถลงจุดสนับสนุนนักลงทุนยังมีความวิตกกังวลว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่านักลงทุนคงยังไม่กล้าตัดสินใจเข้ามาลงทุนทำให้มูลค่าการซื้อขายไม่มากนัก รวมทั้งไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนตลาดหุ้นไทย โดยนักลงทุนควรจับตาการประชุมสภาผู้แทนราษฏรที่จะเกิดขึ้น ขณะที่หุ้นที่น่าลงทุนได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี

“นักลงทุนตั้งความหวังให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากไม่มีอะไรเปลี่ยนดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ถ้าการเมืองกลับสู่ขั้วเดิมจะทำให้ปัญหาต่างๆ กลับสู่ทางตัน และทำให้มีแรงเทขายทำกำไรกดดัชนีหุ้นร่วงรุนแรง” นางสาวปองรัตน์ กล่าว

นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟาร์อีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่เคลื่อนไหวจากราคาปิดครั้งก่อนมากนักจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน และต้องรอผลโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ อย่างที่คาดการณ์ไว้หรือไม่

“ต่างชาติยังคงมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้จากการประเมินปัจจัยในประเทศดูจะคลี่คลายลง และไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงไปกว่าที่เป็นอยู่ รวมถึงตลาดหุ้นต่างประเทศเองก็ได้รับข่าวดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน”

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยคงจะไม่คึกคักมากนัก เพราะนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด รวมถึงทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมถึงราคาน้ำมัน ดังนั้นนักลงทุนควรจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยมีแนวรับที่ 411-420 จุด และแนวต้านที่ 427-431 จุด

ด้านนายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะตลอดทั้งวัน หลังจากดัชนีตลาดหุ้นได้พยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 432 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคอรอดูการจัดตั้งรัฐบาล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังมองว่าเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว แม้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้อนุมัติแผนช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์

“ตลาดหุ้นไทยยังคงขึ้นอยู่กับการเมืองในประเทศ เรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แม้กลุ่มเพื่อนเนวิน และ 4 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะยืนยันสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าจะทราบผลโหวตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งติดตามปัจจัยต่างประเทศที่อาจจะมีข่าวดีหรือข่าวร้ายหรือไม่ ซึ่งได้ประเมินแนวรับที่ 410 จุด แนวต้านอยู่ 430 จุด ดังนั้นจึงควรชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน”

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีการปรับฐานเพื่อรอข่าวใหม่ๆ หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 7% ภายในระยะเวลา 3 วัน ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยลุ้นผลโหวตตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่หลายฝ่ายเห็นพ้องสนับสนุนจะทำให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยมองไปที่ระดับ 450 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น