xs
xsm
sm
md
lg

โบรกเชื่อตลาดหุ้นฟื้นตัวหลังยุบ3พรรค-พธม.สลายการชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – ตลาดหุ้นไทยมีเฮ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง 3 พรรค บวกกับพันธมิตรฯ ประกาศสลายการชุมนุมอย่างเป็นทางการ “ภัทรียา” มั่นใจช่วยคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังร้อนแรง และส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ด้านโบรกเกอร์ ชี้หุ้นไทยเด้งแรง แต่จะส่งผลดีระยะสั้น1 เดือนเท่านั้น เหตุยังต้องรอผลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย (2 ธ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นเคลื่อนไหวผันผวนสลับระหว่างแดบบวกและแดนลบ โดยในช่วงเช้านักลงทุนต่างใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดียุบพรรคการเมือง 3 พรรค คือ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งนักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าจะมีคำสั่งให้ยุบพรรค และทำให้สถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย จึงมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ในภาคบ่ายหลังได้มีปัจจัยลบเข้ามากระทบจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง จากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณถดถอยอย่างชัดเจน ดังนั้นดัชนีตลาดหุ้นจึงไม่สามารถยืนอยู่เหนือแดนบวกได้ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งยุบพรรคอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้ แต่ยังมีบางส่วนยังวิตกว่า สถานการณ์การเมืองยังไม่จบ เพราะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุด 394.19 จุด ต่ำสุด 382.85 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 387.32 จุด ลดลงจากวันก่อน 3.60 จุด หรือคิดเป็น 0.92% มูลค่าการซื้อขายรวม 11,492.93 ล้านบาท ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า 1,639.98 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 213.20 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,853.18 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.บ้านปู (BANPU) ราคาปิดที่ 180 บาท ลดลงจากวันก่อน 1 บาท หรือคิดเป็น 0.55% มูลค่าการซื้อขายรวม 1,773.99 ล้านบาท บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิดที่ 91.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.55% มูลค่า 1,758.30 ล้านบาท และบมจ.ปตท. (PTT) ปิดที่ 143 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 0.69% มูลค่า 1,330.13 ล้านบาท 
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมือง 3 พรรค ทำให้มีความชัดเจนทางการเมืองระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ปัญหาทางการเมืองคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการที่จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ นายสมชาย วงสวัสดิ์ และรัฐมนตรีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และน่าจะทำให้มีการยุติการชุมนุม  โดยส่วนตัวหวังว่าจากการพิจารณาของศาลฯในครั้งนี้น่าจะทำให้ปัญหาคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี และจะส่งผลดีทำให้นักลงทุนคลายความกังวลจากปัญหาการเมืองและจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
“หลังจากศาลมีคำสั่งยุบ3 พรรคการเมืองแล้ว น่าจะแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้ จากที่มีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวหวังว่าปัญหาทางการเมืองจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น” นางภัทรียา กล่าว
                ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ผู้บริหารฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด  และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติ กล่าวว่า  แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณายุบ 3 พรรคการเมือง ถือว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ความชัดเจนว่าปัญหาการเมืองจะมีการคลี่คลายหรือไม่ เนื่องจาก ต้องรอดูว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างไร  จะเป็นรัฐบาลร่วมหรือไม่ ใครจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และจะเป็นที่พอใจของกลุ่มพันธมิตรหรือไม่
ทั้งนี้ ประเด็นการยุบพรรคการเมืองดังกล่าวนั้นนักลงทุนต่างประเทศมีการคาดการณ์ไว้แล้ว แต่รู้สึกตกใจว่าศาลมีการพิจารณาตัดสินเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลแบบไหน จากการประเมินการซื้อขายต่างชาติวานนี้ (2 ธ.ค.) นั้นต่างชาติยังมีการขายหุ้นไทยออกมาพอสมควร จากที่ประเมินว่าปัญหาทางการเมืองยังไม่ได้ขึ้น และปัญหาดังกล่าวยังไม่จบซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองเกิดขึ้น  ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไม่มีการตอบรับกับประเด็นดังกล่าว
“ประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติไม่พอใจมากที่สุดในเรื่องการปิดสนามบิน ทำให้เกิดความเสียหากแก่เศรษฐกิจของประเทศ ฯลฯ ส่วนประเด็นในเรื่องการยุบ3 พรรคการเมืองนั้น นักลงทุนต่างประเทศได้มีการคาดการณ์ไว้แล้วแต่รู้สึกตกใจที่มีการตัดสินเร็วกว่าที่คาดไว้ และเชื่อว่าปัญหาทางการเมืองยังไม่จบ เพราะต้องดูว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลออกมารูปแบบใด และกลุ่มพันธมิตรฯจะมีการสลายการชุมนุมหรือไม่ โดยขณะนี้ทางกลุ่มพันธมิตรก็ยังไม่ได้มีการยุติการชุมนุม”มล.ทองมกุฎ  กล่าว

**หุ้นไทยวันนี้เด้งรับพันธมิตรฯสลายชุมนุม
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล) พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)หรือ CNS กล่าวว่า จากการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีการประกาศสลายการชุมนุมนั้น ทำให้สามารถปรับตัวกว่า 40 จุด มาอยู่ที่ระดับ 430 จุด เนื่องจาก ทำให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหายไปทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยดีขึ้นในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศดีขึ้น  จากการที่มีการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้นี้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นประมาณ 1 เดือน เพราะ เป็นช่วงที่จะมีการย้ายพรรคการเมือง มีการเลือกตั้งส.ส.ใหม่บางเขตการเลือกตั้ง หลังจากนั้นต้องมีการติดตามว่าพรรคไหนจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ว่าจะเป็นกลุ่มพรรคการเมืองเดิม หรือจะเปลี่ยนเป็นพรรคการเมืองใหม่  โดยจากปัจจัยดังกล่าวนั้นเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม การบิน ท่องเที่ยว การส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
“กลุ่มพันธมิตรมีการสลายการชุมนุมนั้นส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย และส่งผลดีต่อประเทศทำให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยุติลง ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศดีขึ้น และจะทำให้ภาคการส่งออก การท่องเที่ยว โรงแรมปรับตัวดีขึ้นมารวมถึงหุ้นกลุ่มดังกล่าวเช่นกัน แต่ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นแรงแค่ไหนนั้นไม่สามารถตอบได้ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะกลับไปอยู่ที่ระดับ 430 จุด ได้  ”นายถนอมศักดิ์
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟาร์อีสท์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า   ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวิฉัยยุบพรรคการเมือง 3 พรรค  คือ พรรคพลังประชาชน มัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย และตัดสิทธ์ทางการเมืองคณะกรรมการบริหารคนละ 5 ปี
ทั้งนี้จากประเมินว่าปัญหาทางการเมืองยังไม่ยุติ เพราะ กลุ่มพรรคการเมืองกลุ่มเดิมที่ถูกยุบพรรคจะกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลเหมือนเดิม ทำให้ปัญหาการเมืองไม่คลี่คลาย และจากการที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์(S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออันดับเครดิตประเทศไทยลงนั้นทำนักลงทุนมีแรงเทขายออกมา
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้  (3 ธ.ค.) จากการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีการสลายการชุมนุมแล้วนั้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยทำให้สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ และอาจทำให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีการสลายการชุมนุม ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจท่องเที่ยว และการส่งออกปรับตัวดีขึ้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลงอย่างหนัก หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศการเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ซึ่งจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวตามไปด้วย แม้จะได้รับปัจจัยบวกจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบ 3 พรรคการเมือง ยังไม่สามารถช่วยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยยืนเหนือแดนบวกได้ แต่เป็นช่วยให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในสัดส่วนที่น้อยกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้น หลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศสลายการชุมนุมทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นยืนเหนือระดับ 400 จุดได้ แม้ว่ากลุ่มนปช. จะยังไม่สลายการชุมนุมก็ตาม
ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างใกล้ชิดต่อไป แม้ 3 พรรคการเมืองจะถูกยุบไปแล้ว แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้สมาชิกสามารถหาพรรคเข้าไปสังกัดใหม่ได้ และ 6 พรรคการเมืองเองยังจะมีการรวมตัวกันเพื่อจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้มีการต่อต้านรัฐบาลนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีต่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น