xs
xsm
sm
md
lg

ทหารเป็นหลักของชาติ "ป๋าเปรม"ฝากจัดการเว็บหมิ่นสถาบันฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 08.40 น. วานนี้ (29 ธ.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นำคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพ ประกอบด้วย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพ เข้าอวยพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เนื่องในโอกาสเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2552
พล.อ.ประวิตร กล่าวอวยพรว่า "เหล่าทัพไทย ขอกราบขอบคุณที่อนุญาตให้คณะเข้าอวยพรและขอรับพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ประจำปี 2552 ซึ่งท่านประธานองคมนตรี มีความรู้ ความสามารถ มุ่งมั่น อดทน อดกลั้น เสียสละ เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองมาตลอดถึงปัจจุบัน เป็นที่ประจักษ์ต่อทุกคนจนได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ รวมถึงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในฐานะประธานองคมนตรี นับเป็นสิ่งที่ควรได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านมุ่งปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือสังคม และปลูกจิตสำนึกสำนึกคนไทยให้รักกัน รวมถึงตั้งมั่นในการกระทำคุณความดี รับใช้บ้านเมืองด้วยความเสียสละมาต่อเนื่อง มุ่งให้เกิดความสามัคคีนำพาให้ประเทศรอดพ้นวิกฤติจากภัยคุกคามทุกด้าน สร้างความสงบสุขให้เกิดกับประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกศาสนา สมกับความมุ่งมั่นที่ปณิธานไว้ว่า เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน เราทุกคนมาชุมนุมที่นี้เพื่อเชิดชูเกียรติ และแสดงความเคารพรักด้วยความจริงใจ
จากนั้น พล.อ.เปรม กล่าวอวยพรว่า "เห็นเรายิ้มแย้มแจ่มใส รัฐมนตรีป้อม(พล.อ.ประวิตร) ที่กลับมาในกองทัพ ดูแลกองทัพอีกวาระหนึ่ง ขอบใจรัฐมนตรีป้อม และทุกคนที่ระลึกถึงกัน มีไมตรีจิตถึงกันไม่ลืมกัน และยังเป็นทหารของชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรวมกันมาตลอด ตั้งแต่รัฐมนตรีป้อม อยู่ในกองทัพ จนเป็นผบ.ทบ. เราพบกันหลายสิบครั้ง พูดกันถึงเรื่องกองทัพควรวางตนอย่างไร
วันนี้ขอพูดซ้ำ เราเป็นทหารต้องซาบซึ้ง ถ่องแท้ ชัดเจนในหน้าที่เราว่ามีอะไรบ้าง เราพูดกันว่าเราต้องทำกองทัพให้งามสง่า น่าเกรงขาม เราจะดำรงความมุ่งหมายของกองทัพ ตั้งแต่สูงสุดลงไปถึงข้างล่างสุด ผู้บังคับบัญชาต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชา
"เราพูดมาตลอด ที่พูดซ้ำเพื่อรัฐมนตรีป้อม จะได้ดูแลน้องๆในกองทัพได้รู้และเข้าใจชัดเจนในปณิธานของทหาร ทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและชาติ ว่าเราจะทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้าง สิ่งสำคัญที่รัฐมนตรีต้องดูแลให้กองทัพยืนนิ่งอยู่กับเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่ทัพป๊อก (พล.อ.อนุพงษ์) พูดเสมอว่า ทหารจะเป็นกลาง ไม่ยุ่งการเมือง แต่นักการเมืองก็ยืนอยู่ข้างหน้าป๊อก เราต้องพูดกันให้ชัดเจนว่า เราเป็นกลางทางการเมืองจริง เราจะไม่เข้าข้างใดข้างหนึ่ง เราจะดูแลชาติบ้านเมือง เพราะนอกจากจะเป็นกลางแล้ว เราต้องเป็นหลักของชาติบ้านเมือง ตราบใดที่ชาติบ้านเมืองมีปัญหา เราต้องช่วยกันคิดว่าในฐานะที่เป็นทหาร เราควรทำอย่างไร และเพราะเหตุใดต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้" พล.อ.เปรมกล่าว

พล.อ.เปรม กล่าวว่า เราดีใจที่รัฐมนตรีป้อมกลับมา เพราะพูดกันเข้าใจง่าย เพราะเคยพูดกันมาแล้ว วันนี้ตำรวจมาด้วย ตอนแรกจะขอแยกพูดกับตำรวจ แต่พล.ต.อ.พัชรวาท ขอร้องว่าจะร่วมกับทหาร ตนก็ดีใจที่พัชรวาท ขอรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพราะถึงหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่คล้ายกัน แต่ที่เหมือนกัน คือ ต้องเป็นหลักให้กับชาติบ้านเมือง แต่ตำรวจดีกว่าทหาร เพราะมีอำนาจเยอะกว่าทหารตามกฎหมาย เราเชื่อกันว่า พระสยามเทวาธิราชมีจริง และศักดิ์สิทธิ์จริง ดังนั้นหากทำอะไรท่านคงมองเห็น
"ขอให้พรว่า ให้เราประกอบกรรมดี เป็นตัวอย่างให้กับน้องและพี่ที่แก่เฒ่าได้ชื่นใจว่า น้องๆ ยังรักษาความเป็นทหาร และตำรวจไว้ได้ เป็นที่ศรัทธาของประชาชน ขอให้ความสำเร็จที่ทำความดี ขอให้พระสยามเทวาธิราช ดลบันดาลให้เราเห็นแสงสว่างในการทำความดี ขอให้มุ่งมั่นในการทำความดีเหล่านั้นเป็นผลสำเร็จ ขอให้รัฐมนตรีป้อม เป็นหลักให้กับกองทัพ และ ผบ.เหล่าทัพ ที่เป็นหัวหน้าใหญ่หน่วยต่างๆช่วยดูแลกองทัพให้เจริญรุ่งเรื่อง มีความสามัคคี เป็นหลักของชาติบ้านเมือง และเป็นหลักที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" พล.อ.เปรมกล่าว

**ห่วงเรื่องตั้งกองพลทหารม้าที่ 3
จากนั้น พล.อ.ทรงกิตติ นำคณะนายทหาร เหล่าทหารม้า นำกระเช้าดอกไม้เข้าร่วมอวยพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โดย พล.อ.เปรม กล่าวฝาก พล.อ.ทรงกิตติว่า ให้หาเวลาว่างไปหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เพื่อไปพูดคุยเรื่องกองพลทหารม้าที่ 3 เล่าให้ พล.อ.ประวิตร ฟัง ซึ่งท่านอาจจะไม่รู้เรื่องเลยก็ได้ ทั้งนี้อยากให้ พล.อ.ทรงกิตติ ไปเล่าให้ พล.อ.ประวิตร ฟัง และดูท่าทีว่าจะเห็นเรื่องนี้อย่างไร และโน้มน้าวกันให้ดีว่า ซึ่งรัฐมนตรีควรจะรับทราบ ขณะนี้ทราบว่ายังติดอยู่ที่การพิจารณาของสถาบันวิชาการทหารชั้นสูงปีกว่าแล้ว มันเสียเวลามาหลายปี
"ก่อนที่ผมจะตาย อยากจะเห็น ผมเป็นห่วงเรื่องนี้ ดังนั้นขอให้ช่วยกันหน่อย ขอให้เราได้ตายอย่างสบายหน่อย จะได้เห็นว่า มีกองพลทหารม้าที่ 3 ขึ้นมาอีก 1 กองพล ตอนนี้กรมทหารม้าที่ 6 มีอยู่ 3 กองพัน คือ ม.พัน 6 ม.พัน 14 และ ม.พัน 15 ซึ่งตั้งแล้วได้ 1 กรม ทั้ง 3 กองพัน นี้สามารถแยกออกเป็น 1 กรม ได้แล้ว ผมคิดว่าไม่น่ายาก"

**ฝากจัดการเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน
ต่อมา พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก พร้อมด้วย พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และทหารสังกัด กองพลที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เข้าอวยพร พล.อ.เปรม ซึ่งพล.เปรม ได้กล่าวตอบว่า หน่วยทหารที่เสนาธิการทหารบก เอ่ยนามมานั้น ควรจะภาคภูมิใจที่มีโอกาสทำหน้าที่ทหาร และรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ถือเป็นสิ่งที่เราเกิดมาในการทำหน้าที่ตรงนี้ ซึ่งไม่มีอะไรจะน่าภาคภูมิใจได้มากกว่านี้ ชีวิตของเราคิดว่าการถวายความจงรักภักดี ดูแลล้นเกล้าล้นกระหม่อมไว้อย่างดีที่สุด ดังนั้นเราต้องหวงแหนในสิ่งนี้
"เราจะต้องปกป้องล้นเกล้าล้นกระหม่อมฯ เสนาธิการทหารบก คงรู้นะว่ามันมีเว็บไซต์ เกิดขึ้นมาเยอะแยะ ซึ่งบางทีก็ใช้ไม่ได้เลย เมื่อวานนายกรัฐมนตรี มาก็พูดกันเรื่องนี้ และเราก็ทำอะไรมากไม่ได้นักเพราะเราไม่ใช่เจ้าหน้าที่โดยตรง สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ชี้แจงให้คนเข้าใจว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และให้ทำหน้าที่นี้โดยตลอดเวลา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งบางทีคนก็อาจจะไม่เข้าใจ แต่พวกเราเข้าใจว่าเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อวานนี้เห็นในทีวี พระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดูแล้วผ่องใสมาก และพวกเราก็ภูมิใจ ท่านทรงแข็งแรงขึ้นมากๆ เป็นที่น่าปลาบปลื้มของคนไทย"
พล.อ.เปรม กล่าวว่า เสนาธิการทหารบก เคยอยู่กับพระองค์ท่านตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ จนกระทั่งขึ้นมาดำรงตำแหน่ง เสนาธิการทหารบกแล้ว ซึ่งเด็กๆ ก็จะเติบโตขึ้นมา ฉะนั้นจะต้องถ่ายเลือดกันให้ดีว่า สิ่งสำคัญที่เราจะถวายมีอะไรบ้าง เพื่อว่าเด็กรับเลือดของพวกเราไป และถ่ายทอดต่อไปจนตลอดชีวิตของพวกเรา ทั้งนี้ไม่มีสิ่งใดที่เราควรจะภาคภูมิใจเท่ากับหน้าที่ที่เราทำ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชาติบ้านเมือง

**รัฐบาลมาร์คทำให้ตนไทยยิ้มได้
หลังจากนั้น พล.อ เปรม ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ผู้สื่อข่าวอาจจะมีความเหน็ดเหนื่อยพอสมควรในการทำหน้าที่ ซึ่งความเหน็ดเหนื่อย ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง ถ้าไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย ก็จะไม่ได้ข่าวสารที่ต้องการ
ทั้งนี้ คิดว่าการสื่อในการทำความเข้าใจกับผู้รับ นักข่าวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าสื่อไปทำความเข้าใจกับผู้รับสื่อ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ขอให้สมาคมสื่อมีความมั่นคง และมีความตรงไปตรงมา ชอบธรรม ดังนั้นขอให้พวกท่านทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เพื่อบ้านเมืองจะได้เรียบร้อยขึ้น ขอให้ความตั้งใจ และความเหน็ดเหนื่อยของท่านทั้งหลายที่ยอมเสียสละให้กับชาติบ้านเมือง เป็นเครื่องปกป้องคุ้มกันให้สื่อมีความสุขและปราถนาดี สำหรับสุขภาพของตนยิ่งนานวัน สุขภาพยิ่งแย่ แต่ก็จะพยายามดูแลตัวเองให้ดี
เมื่อถามว่า พล.อ.เปรม จะให้กำลังใจคนไทยที่เผชิญปัญหาต่างในปีหน้า พล.อ.เปรม กล่าวว่า ตนคิดว่า คนไทยทุกคนมีเหตุผล และไม่หัวแข็ง หัวดื้อ หัวรั้น ถ้าพูดตรง พูดจริง คิดว่าเข้าใจ สิ่งที่พูดไปอาจจะผิดบ้าง ถูกบ้าง
เมื่อถามว่า กังวลถึงสถานการณ์บ้านเมืองหรือไม่ พล.อ. เปรม กล่าวว่า ตั้งแต่ตนโตมา เป็นห่วงบ้านเมืองมาโดยตลอด เพราะตนเป็นส่วนหนึ่งของชาติบ้านเมือง และเป็นทหารก็มีหน้าที่โดยตรงที่จะดูแลชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ตนไม่ห่วงกองทัพ เพราะเขาเก่ง
เมื่อถามย้ำว่า ดูท่านจะอารมณ์ดี ยิ้มได้ และมีความสุข แสดงว่า เบาใจที่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ทุกคนคงยิ้ม เหมือนตน เห็นเหมือนตน คงยิ้มเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะนำคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าอวยพร พล.อ.เปรม นั้น พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้นำคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.ประวิตร ที่สโมสรกองทัพบกเทเวศร์
กำลังโหลดความคิดเห็น