กองทัพใช้แผน “อาร์มทอง” รับมือสถานการณ์ม็อบเสื้อแดง สร้างเหตุรุนแรงในการปิดล้อมรัฐสภา ระดมกำลัง 17กองร้อยเตรียมพร้อมในที่ตั้ง รอรับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหากรับสถานการณ์ไม่ไหว “ผบ.ทอ.-แม่ทัพภาคที่1” เชื่อไม่มีเหตุวุ่นวาย
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุม ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงบ ที่รวมตัวกันที่สนามหลวง และจะเคลื่อนขบวนมาปิดล้อมหน้าอาคารรัฐสภาเพื่อกดดันการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่รู้สึกกังวลใจ และเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่สร้างความวุ่นวาย เนื่องจากได้ประกาศเจตนารมณ์แล้วว่า จะชุมนุมโดยสงบ ซึ่งตนมองว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มีความพร้อมในการเข้าดูแลสถานการณ์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ในส่วนของทหารก็พร้อมให้การสนับสนุนในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน หากมีการร้องขอมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยสารวัตรทหารเรือ และกองร้อยรักษาความสงบ เตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์การชุมนุม อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมเปิดอภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงกรณีที่กรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมาธิการทหารต่างประเทศ ที่ระบุว่ากองทัพไทยเข้าแทรกแซงทางการเมือง พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกเป็นห่วง เพราะเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะสามารถชี้แจงข้อซักถามต่างๆ ของฝ่ายค้านได้ทุกประเด็น ท่านเป็นผู้ที่มีประสบการณ์
ด้าน พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า การเตรียมความพร้อม ในการรองรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ในวันนี้ (29 ธ.ค.) นั้น เรามีแผน เตรียมการไว้แล้ว ซึ่งการปฎิบัติก็คงจะเหมือนกับที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องปกติ และจากการประเมินสถานการณ์คิดว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะมีความรุนแรง เพราะเท่าที่ติดตาม ข่าวจากสื่อต่างๆ ทางแกนนำเองก็ออกมาระบุว่าจะควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากมีการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของทหารก็พร้อม แต่เบื้องต้นคงต้องให้อยู่ในที่ตั้งเพื่อรอรับคำสั่งต่อไป
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การเตรียมพร้อมของกองทัพบก คงใช้แผนเดิมคือ "อาร์มทอง"เบื้องต้นกำลังทั้งหมดให้อยู่ในที่ตั้ง เตรียมความพร้อมและเฝ้าติดตามสถานการณ์ ซึ่งลำดับการปฎิบัติก็จะเป็นไปตามความเร่งด่วน ทั้งนี้คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดูแลเพราะมีหน้าที่โดยตรง และหากประสงค์จะได้กำลังเสริมทางทหารจึงจะออกไป
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ คิดว่า ทางตำรวจน่าจะดูแลการชุมนุมได้ เพราะพื้นที่รัฐสภาเป็นพื้นที่ที่มีจำกัด กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีเพียงพอ ประกอบกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะไม่ปิดล้อมจนถึงขั้นรัฐบาลเข้าสภาไม่ได้ เป็นเพียงการแสดงพลังให้เห็นของกลุ่มคนที่มีความคิดที่แตกต่าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่าน กลุ่ม นปช. ก็มีการขว้างปา ทำลายสิ่งของ ส.ส.รัฐบาลนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นประสบการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องวางแผนให้รัดกุม ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มีความเป็นห่วงสถานการณ์ในช่วงนี้ กลัวจะลุกลามในช่วงรอยต่อ วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้กำชับให้หน่วยในพื้นที่ทุกจังหวัด ให้ดูแลความเรียบร้อยรวมถึงสถานที่ตั้งที่สำคัญ ๆ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.เพื่อป้องกันการก่อเหตุและการสร้างสถานการณ์จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนอาร์มทอง เป็นแผนที่เคยใช้ดูแล ความปลอดภัย ที่สนามศุภชลาศัย ในการจัดรายการ ความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นการเตรียมความพร้อมของกองทัพบก ในการสนับสนุนกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้กำลัง17 กองร้อย แบ่งระดับการปฏิบัติการเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1.เตรียมกำลังทหารพร้อมปฏิบัติภารกิจได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยใช้กำลังทหารของกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 5 กองร้อย ระดับ 2.พร้อมปฏิบัติภารกิจภายใน 3 ชั่วโมง ใช้กำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 5 กองร้อย 3.หากเกิดความรุนแรงก็จะใช้กำลังทหารอย่างเต็มพิกัด
โดย กองทัพบก จัดเตรียมกำลังไว้ 7 กองร้อย เป็นกำลังของกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 3 กองร้อย และกำลังทหารกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (นปอ.) จำนวน 2 กองร้อย และกำลังพลของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ.) จำนวน 2 กองร้อย พร้อมออกปฏิบัติการใน 6 ชั่วโมง
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุม ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงบ ที่รวมตัวกันที่สนามหลวง และจะเคลื่อนขบวนมาปิดล้อมหน้าอาคารรัฐสภาเพื่อกดดันการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่รู้สึกกังวลใจ และเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่สร้างความวุ่นวาย เนื่องจากได้ประกาศเจตนารมณ์แล้วว่า จะชุมนุมโดยสงบ ซึ่งตนมองว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มีความพร้อมในการเข้าดูแลสถานการณ์อยู่แล้ว
ทั้งนี้ในส่วนของทหารก็พร้อมให้การสนับสนุนในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน หากมีการร้องขอมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยสารวัตรทหารเรือ และกองร้อยรักษาความสงบ เตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์การชุมนุม อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมเปิดอภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงกรณีที่กรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมาธิการทหารต่างประเทศ ที่ระบุว่ากองทัพไทยเข้าแทรกแซงทางการเมือง พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกเป็นห่วง เพราะเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะสามารถชี้แจงข้อซักถามต่างๆ ของฝ่ายค้านได้ทุกประเด็น ท่านเป็นผู้ที่มีประสบการณ์
ด้าน พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า การเตรียมความพร้อม ในการรองรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ในวันนี้ (29 ธ.ค.) นั้น เรามีแผน เตรียมการไว้แล้ว ซึ่งการปฎิบัติก็คงจะเหมือนกับที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องปกติ และจากการประเมินสถานการณ์คิดว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะมีความรุนแรง เพราะเท่าที่ติดตาม ข่าวจากสื่อต่างๆ ทางแกนนำเองก็ออกมาระบุว่าจะควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากมีการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของทหารก็พร้อม แต่เบื้องต้นคงต้องให้อยู่ในที่ตั้งเพื่อรอรับคำสั่งต่อไป
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การเตรียมพร้อมของกองทัพบก คงใช้แผนเดิมคือ "อาร์มทอง"เบื้องต้นกำลังทั้งหมดให้อยู่ในที่ตั้ง เตรียมความพร้อมและเฝ้าติดตามสถานการณ์ ซึ่งลำดับการปฎิบัติก็จะเป็นไปตามความเร่งด่วน ทั้งนี้คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดูแลเพราะมีหน้าที่โดยตรง และหากประสงค์จะได้กำลังเสริมทางทหารจึงจะออกไป
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ คิดว่า ทางตำรวจน่าจะดูแลการชุมนุมได้ เพราะพื้นที่รัฐสภาเป็นพื้นที่ที่มีจำกัด กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีเพียงพอ ประกอบกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะไม่ปิดล้อมจนถึงขั้นรัฐบาลเข้าสภาไม่ได้ เป็นเพียงการแสดงพลังให้เห็นของกลุ่มคนที่มีความคิดที่แตกต่าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่าน กลุ่ม นปช. ก็มีการขว้างปา ทำลายสิ่งของ ส.ส.รัฐบาลนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นประสบการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องวางแผนให้รัดกุม ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มีความเป็นห่วงสถานการณ์ในช่วงนี้ กลัวจะลุกลามในช่วงรอยต่อ วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้กำชับให้หน่วยในพื้นที่ทุกจังหวัด ให้ดูแลความเรียบร้อยรวมถึงสถานที่ตั้งที่สำคัญ ๆ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.เพื่อป้องกันการก่อเหตุและการสร้างสถานการณ์จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนอาร์มทอง เป็นแผนที่เคยใช้ดูแล ความปลอดภัย ที่สนามศุภชลาศัย ในการจัดรายการ ความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นการเตรียมความพร้อมของกองทัพบก ในการสนับสนุนกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้กำลัง17 กองร้อย แบ่งระดับการปฏิบัติการเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1.เตรียมกำลังทหารพร้อมปฏิบัติภารกิจได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยใช้กำลังทหารของกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 5 กองร้อย ระดับ 2.พร้อมปฏิบัติภารกิจภายใน 3 ชั่วโมง ใช้กำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 5 กองร้อย 3.หากเกิดความรุนแรงก็จะใช้กำลังทหารอย่างเต็มพิกัด
โดย กองทัพบก จัดเตรียมกำลังไว้ 7 กองร้อย เป็นกำลังของกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 3 กองร้อย และกำลังทหารกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (นปอ.) จำนวน 2 กองร้อย และกำลังพลของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ.) จำนวน 2 กองร้อย พร้อมออกปฏิบัติการใน 6 ชั่วโมง