เลขา ปชป.ย้อนถามเพื่อแม้ว สะเออะเรียกร้องปลด “กษิต” ข้อหาอะไร ยืนยันวันแถลงนโยบายไม่มีจัดตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์ รมต.เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ เซ็งแผ่นเสียงตกร่องซักฟอก “มาร์ค” หนีทหารเรื่องเก่ากว่า 10 ปี พร้อมเลื่อนเปิดสภาหากกลุ่มเสื้อแดงจ้องก่อความวุ่นวาย
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมการรับมือการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ว่า การที่ฝ่ายค้านบอกล่วงหน้าว่าจะอภิปรายใครบ้าง ถือเป็นความกรุณา ตนไม่ได้หนักใจ เพราะผู้ที่ถูกระบุชื่อว่าจะถูกอภิปราย ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะสามารถชี้แจงได้ อย่างกรณีของ รมว.กลาโหม ที่ฝ่ายค้านบอกว่าจะเล่นงานข้อหาเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดตั้งรัฐบาล ตนขอเรียนว่า พล.อ.ประวิตร เป็นข้าราชการบำนาญ ไม่ได้มีอำนาจคุมกองทัพในขณะนั้น แต่การมีความคิดเห็นทางการเมือง ก็เป็นสิทธิเหมือนกับประชาชนทั่วไป แต่การที่เชิญ พล.อ.ประวิตร มาเป็น รมว.กลาโหม เพราะพวกตนเห็นแล้วว่ามีความเหมาะสม
“กรณีของ ท่านกษิต ก็ต้องแยกบทบาทว่าเคยพูดอะไรในช่วงไหนอย่างไร แต่วันนี้ท่านเป็น รมว.ต่างประเทศ คงไม่ไปพูดจาให้เกิดความเสียหาย ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ปลดออกจาก รมว.ต่างประเทศ ผมอยากถามว่า จะปลดในข้อหาอะไร ท่านทำอะไรผิดในประเทศนี้ การจะปลดได้ก็ต่อเมื่อมีการทำผิดต่อหน้าที่ ทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้ประเทศเสียหาย ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไรเข้าข่ายเช่นนั้น”
เมื่อถามว่า นายกษิต เป็นจุดอ่อนของรัฐบาลนี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกคนเป็นจุดอ่อนทั้งนั้น โดยทุกคนต้องยอมรับการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม นายกษิต เองก็ต้องระมัดระวังคำพูดมากกว่านี้ แต่ นายกษิต ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพอย่างพวกเรา และการที่ระบุว่า นายกษิต มีส่วนในการปิดสนามบินสุวรรณภูมินั้น ตนคิดว่า นายกษิต ไม่ใช่ผู้นำม็อบ ที่ไปปิดสนามบิน ส่วนจะไปขึ้นเวทีม็อบหรือไม่ หรือขึ้นกี่หน ตนไม่ได้ติดตาม แต่การพูดจาคงจะเป็นการแสดงความคิดเห็น
นายสุเทพ กล่าวว่า ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ทางรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่มีการประชุมเพื่อซักซ้อมอะไร โดยมั่นใจว่า คนเหล่านี้โต มีความรับผิดชอบ สามารถสู้ได้ โดยยึดความจริงเป็นหลัก และจะไม่มีการตั้งทีม องครักษ์พิทักษ์อย่างเด็ดขาด ส่วนที่มีการตั้งเป้าจะอภิปราย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในเรื่องการหนีการเกณฑ์ทหารนั้น เป็นเรื่องที่เขาพูดมาตั้งแต่ปี 2541 รวมแล้วกว่า 10 ปี ถ้านายกฯ ทำอะไรที่เป็นความผิดจริง ตอนที่พวกเขาเป็นรัฐบาล เขาคงจัดการเรียบร้อยเป็นผุยผงไปแล้ว คงไม่อยู่มาถึงเป็นนายกรัฐมนตรี คิดง่ายๆ ถ้าหนีทหารจริง จะไปเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.ทำไม อย่างนี้ก็ชัดเจนแล้ว
นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงขู่ปิดล้อมสภา ไม่ให้ ส.ส.เข้าฟังการแถลงนโยบาย ว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเขาปิดล้อมก็จะส่งคนไปเจรจา ขอเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ถ้าเขาอนุญาตให้เข้า เราก็เข้า ถ้าไม่อนุญาตเราก็ไม่เข้า แต่ยืนยันว่า จะไม่มีการสลายการชุมนุม โดยถ้าเข้าสภาไม่ได้จริง คงต้องเลื่อนการแถลงนโยบายออกไป
นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ยอมรับว่า กลุ่มของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้รับการจัดสรรรัฐมนตรี ว่า พรรคไม่มีปัญหาภายในแล้ว นายวิทยา ต้องพูดจาระมัดระวัง อย่าพูดให้เป็นเรื่องที่เป็นประเด็น ตนไม่คิดว่า เป็นไปอย่างที่ นายวิทยา พูด เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีฝ่าย ทั้งฝ่ายนายบัญญัติ และฝ่าย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ
เมื่อถามว่า ดูเหมือน นายบัญญัติ จะเกิดอาการงอน เพราะหายเงียบไป นายสุเทพ กล่าวว่า นายบัญญัติ ไม่ได้งอนอะไร ไม่ได้มีปัญหา อย่าไปหาเรื่องท่าน ท่านอยู่เฉยๆ ก็ดีแล้ว