ตำรวจโคราชโชว์ผลงานขยายผลบุกทลายแหล่งผลิตแบงก์ปลอมกลางกรุง รวบได้คาโรงพิมพ์ 3 คน พร้อมอุปกรณ์ปลอมแปลงธนบัตรอื้อ สารภาพทำมานาน 4 เดือนแล้วรับจ้างผลิตแบงก์พัน จำนวน 10,000 ฉบับในราคา 2 แสนบาท ล่าสุดพบแบงก์พัน 1,000 ใน ATM แบงก์กรุงเทพ สาขาสูงเนินอีก ขณะที่ลำปางพบแบงก์ปลอมแล้ว 170 ใบ
วานนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 11.30 น.ที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลรายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายวิทยา หรือ เจ๋ง บัวรอด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ 3 อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี นายสนอง หรือ ไมค์ เงินจันทร์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 4 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก และนายดำรงชัย หรือ เด มะยมหิน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 359/4 หมู่ 16 อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมของกลางเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลไทย 17 รายการ เช่น กระดาษอาร์ตมัน แผ่นใหญ่ 800 แผ่น, ธนบัตรรัฐบาลไทย (ปลอม) ฉบับราคาละ 1,000 บาท 4 ฉบับ แผ่นแถบสะท้อนแสดง แท่นพิมพ์ 2 เครื่อง แผ่นเพลท สำหรับทำแม่พิมพ์ สีกระป๋อง คอมพิวเตอร์ และเครื่องพริ้นเตอร์-สแกนเนอร์ เป็นต้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้จับกุมนายธงชัย ประเสริฐ, นายสมบัติ บุญจรัญ และนายสัญชิต เทศนา พร้อมของกลางเป็นธนบัตรรัฐบาลไทย (ปลอม) ฉบับละ 1,000 บาท 46 ฉบับในท้องที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ขณะนำธนบัตรปลอมไปซื้อสินค้าในร้านค้า
จากนั้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลการจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการได้ที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก เลขที่ 4032/3 ถ.จตุรทิศ เขตดินแดง กรุงเทพฯ ได้ผู้ต้องหา 3 รายดังกล่าว คือ นายวิทยา, นายสนอง และนายดำรงชัย พร้อมอุปกรณ์ในการผลิตธนบัตรปลอมดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมต่อไป
นายดำรงชัย หรือเด มะยมหิน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ปลอมแปลงธนบัตรปลอม เปิดเผยว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างสแกนเนอร์ และช่างพิมพ์ของโรงพิมพ์ดังกล่าว มีคนติดต่อ (ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เกรงกระทบต่อการขยายผลคดี) ให้ผลิตธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท ให้จำนวน 10,000 ฉบับ ในราคาค่าจ้าง 200,000 บาท โดยผู้จ้างจะมารับธนบัตรไปเรื่อย ๆ จนครบ 10,000 ฉบับ และ จ่ายเงินให้เป็นงวด ๆ โดยตนจะทำการปลอมธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 1,000 บาทเท่านั้น และทำมานานกว่า 4 เดือนแล้วจนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว
นายดำรงชัย กล่าวต่อว่า จุดสังเกตสำคัญสำหรับธนบัตรปลอมกับธนบัตรจริง ที่พวกตนปลอมแปลงขึ้นนั้น คือ ธนบัตรปลอมจะมีสีเหลือง และ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะไม่คมชัดเหมือนฉบับจริง ที่สำคัญธนบัตรปลอมจะลื่นและเงาวาวมากกว่าธนบัตรจริง และธนบัตรปลอมไม่มีลายนูน
พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่จับกุมนายธงชัย ประเสริฐ นายสมบัติ บุญจรัญ และนายสัญชิต เทศนา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนำธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 46 ใบ ตระเวนจับจ่ายใน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (26 ธ.ค.) มีประชาชนชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ได้โทรศัพท์แจ้งผู้สื่อข่าวว่า ได้เข้าไปถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ สาขาสูงเนิน หน้าร้านเอ็มเคสุกี้ ตรงข้ามกันบริษัทซีเกท ประเทศไทย จำกัด จ.นครราชสีมา ถ.มิตรภาพ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา จำนวน 5,000 บาท เป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาททั้ง 5 ฉบับ แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว 1 ใน 5 ฉบับมีลักษณะเป็นธนบัตรปลอม คือไม่มีลายน้ำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่มีลายนูน ลักษณะกระดาษคุณภาพต่ำต่างจากธนบัตรฯ จริงอีก 4 ฉบับ แต่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ แจ้งธนาคารเจ้าของตู้เอทีเอ็มแต่อย่างใด
โผล่ศรีสะเกษแม่ค้าผวาขอแต่เหรียญ
นางประนอม นวลสุข เจ้าของร้านแม่ประนอมไก่สด ตลาดสดเทศบาลกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นำธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 มาเปรียบเทียบกับธนบัตรจริง เพื่อเป็นตัวอย่างให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดดู หลังเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา มีผู้นำมาซื้อสินค้า แต่เนื่องจากเป็นร้านขายส่ง มีลูกค้าจำนวนมาก จึงไม่ทราบว่าธนบัตรปลอมเป็นของผู้ใด ทำให้วันนี้ขาดทุนไปถึง 1,000 บาท
พ่อค้าแม่ค้าบอกว่า ภายในสัปดาห์นี้ที่ตลาดสดเทศบาลกันทรลักษ์ พบธนบัตรปลอมแล้วหลายใบ พ่อค้าแม่ค้าบางคนจึงขอรับเหรียญแทนธนบัตร
เช่นเดียวกับ จ.ระยอง พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดหลายแห่ง หวาดผวาธนบัตรปลอม หลังมีผู้นำธนบัตรปลอมฉบับละ 100 บาท มาซื้อสินค้า โดยจะอาศัยช่วงชุลมุนทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่ทันสังเกต
ลำปางพบแบงก์ปลอมแล้ว 170 ใบ
นายวโรดม นินทนาวงศา ผู้จัดการศูนย์จัดการธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ จ.ลำปาง ดูแลพื้นที่ 5 จังหวัด (เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน) เปิดเผยว่า ศูนย์ฯมีระบบตรวจสอบธนบัตรอยู่แล้ว เนื่องจากแต่ละวันธนาคารนำเงินเข้ามาฝากไว้กับศูนย์ฯจำนวนมาก และจากการติดตามสถานการณ์ธนบัตรปลอมทั้งพื้นที่ 5 จังหวัด เฉพาะลำปางพบแล้วกว่า 170 ใบ ส่วนใหญ่เป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท และ 100 บาท
นอกนั้นพบอย่างประปราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30,000 บาท แต่ถือว่ายังไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และขณะนี้ศูนย์ฯ จัดชุดเจ้าหน้าที่ออกชี้แจงทำความเข้าใจและให้ความรู้สังเกตธนบัตรปลอมกับประชาชน เพื่อลดความวิตกกังวล
ตำรวจกระบี่เร่งทดสอบเงินปลอม
ด้านพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรเมืองกระบี่ นำธนบัตรปลอมฉบับละ 500 บาท ซึ่ง น.ส.ราตรี หมั่นมา พนักงานฝ่ายการเงิน แขวงการทางกระบี่ นำมาแจ้งความเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ไปทดสอบกับตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายในห้างเทสโก้โลตัส สาขากระบี่ ซึ่ง น.ส.ราตรี ระบุว่า กดเงินจากตู้เอทีเอ็มแห่งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ของธนาคาร สื่อมวลชน และ น.ส.ราตรี ร่วมเป็นพยานด้วย แต่ระหว่างรอ เจ้าหน้าธนาคารแจ้งว่า สำนักงานใหญ่ไม่อนุญาตให้ทดสอบกับตู้เอทีเอ็ม โดยไม่ทราบสาเหตุ สร้างความผิดหวังให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
น.ส.ราตรี ยืนยันว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้แจ้งความเท็จ
ขณะที่พนักงานสอบสวน บอกว่า ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของธนาคาร จึงไม่สามารถทดสอบได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย เบื้องต้นจะทำหนังสือถึงผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อขอทดสอบตามกฎระเบียบของธนาคารต่อไป
วานนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 11.30 น.ที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลรายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายวิทยา หรือ เจ๋ง บัวรอด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ 3 อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี นายสนอง หรือ ไมค์ เงินจันทร์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 4 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก และนายดำรงชัย หรือ เด มะยมหิน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 359/4 หมู่ 16 อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมของกลางเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลไทย 17 รายการ เช่น กระดาษอาร์ตมัน แผ่นใหญ่ 800 แผ่น, ธนบัตรรัฐบาลไทย (ปลอม) ฉบับราคาละ 1,000 บาท 4 ฉบับ แผ่นแถบสะท้อนแสดง แท่นพิมพ์ 2 เครื่อง แผ่นเพลท สำหรับทำแม่พิมพ์ สีกระป๋อง คอมพิวเตอร์ และเครื่องพริ้นเตอร์-สแกนเนอร์ เป็นต้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้จับกุมนายธงชัย ประเสริฐ, นายสมบัติ บุญจรัญ และนายสัญชิต เทศนา พร้อมของกลางเป็นธนบัตรรัฐบาลไทย (ปลอม) ฉบับละ 1,000 บาท 46 ฉบับในท้องที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ขณะนำธนบัตรปลอมไปซื้อสินค้าในร้านค้า
จากนั้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลการจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการได้ที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก เลขที่ 4032/3 ถ.จตุรทิศ เขตดินแดง กรุงเทพฯ ได้ผู้ต้องหา 3 รายดังกล่าว คือ นายวิทยา, นายสนอง และนายดำรงชัย พร้อมอุปกรณ์ในการผลิตธนบัตรปลอมดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมต่อไป
นายดำรงชัย หรือเด มะยมหิน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ปลอมแปลงธนบัตรปลอม เปิดเผยว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างสแกนเนอร์ และช่างพิมพ์ของโรงพิมพ์ดังกล่าว มีคนติดต่อ (ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เกรงกระทบต่อการขยายผลคดี) ให้ผลิตธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท ให้จำนวน 10,000 ฉบับ ในราคาค่าจ้าง 200,000 บาท โดยผู้จ้างจะมารับธนบัตรไปเรื่อย ๆ จนครบ 10,000 ฉบับ และ จ่ายเงินให้เป็นงวด ๆ โดยตนจะทำการปลอมธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 1,000 บาทเท่านั้น และทำมานานกว่า 4 เดือนแล้วจนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว
นายดำรงชัย กล่าวต่อว่า จุดสังเกตสำคัญสำหรับธนบัตรปลอมกับธนบัตรจริง ที่พวกตนปลอมแปลงขึ้นนั้น คือ ธนบัตรปลอมจะมีสีเหลือง และ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะไม่คมชัดเหมือนฉบับจริง ที่สำคัญธนบัตรปลอมจะลื่นและเงาวาวมากกว่าธนบัตรจริง และธนบัตรปลอมไม่มีลายนูน
พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่จับกุมนายธงชัย ประเสริฐ นายสมบัติ บุญจรัญ และนายสัญชิต เทศนา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนำธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 46 ใบ ตระเวนจับจ่ายใน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (26 ธ.ค.) มีประชาชนชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ได้โทรศัพท์แจ้งผู้สื่อข่าวว่า ได้เข้าไปถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ สาขาสูงเนิน หน้าร้านเอ็มเคสุกี้ ตรงข้ามกันบริษัทซีเกท ประเทศไทย จำกัด จ.นครราชสีมา ถ.มิตรภาพ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา จำนวน 5,000 บาท เป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาททั้ง 5 ฉบับ แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว 1 ใน 5 ฉบับมีลักษณะเป็นธนบัตรปลอม คือไม่มีลายน้ำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่มีลายนูน ลักษณะกระดาษคุณภาพต่ำต่างจากธนบัตรฯ จริงอีก 4 ฉบับ แต่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ แจ้งธนาคารเจ้าของตู้เอทีเอ็มแต่อย่างใด
โผล่ศรีสะเกษแม่ค้าผวาขอแต่เหรียญ
นางประนอม นวลสุข เจ้าของร้านแม่ประนอมไก่สด ตลาดสดเทศบาลกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นำธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 มาเปรียบเทียบกับธนบัตรจริง เพื่อเป็นตัวอย่างให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดดู หลังเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา มีผู้นำมาซื้อสินค้า แต่เนื่องจากเป็นร้านขายส่ง มีลูกค้าจำนวนมาก จึงไม่ทราบว่าธนบัตรปลอมเป็นของผู้ใด ทำให้วันนี้ขาดทุนไปถึง 1,000 บาท
พ่อค้าแม่ค้าบอกว่า ภายในสัปดาห์นี้ที่ตลาดสดเทศบาลกันทรลักษ์ พบธนบัตรปลอมแล้วหลายใบ พ่อค้าแม่ค้าบางคนจึงขอรับเหรียญแทนธนบัตร
เช่นเดียวกับ จ.ระยอง พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดหลายแห่ง หวาดผวาธนบัตรปลอม หลังมีผู้นำธนบัตรปลอมฉบับละ 100 บาท มาซื้อสินค้า โดยจะอาศัยช่วงชุลมุนทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่ทันสังเกต
ลำปางพบแบงก์ปลอมแล้ว 170 ใบ
นายวโรดม นินทนาวงศา ผู้จัดการศูนย์จัดการธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ จ.ลำปาง ดูแลพื้นที่ 5 จังหวัด (เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน) เปิดเผยว่า ศูนย์ฯมีระบบตรวจสอบธนบัตรอยู่แล้ว เนื่องจากแต่ละวันธนาคารนำเงินเข้ามาฝากไว้กับศูนย์ฯจำนวนมาก และจากการติดตามสถานการณ์ธนบัตรปลอมทั้งพื้นที่ 5 จังหวัด เฉพาะลำปางพบแล้วกว่า 170 ใบ ส่วนใหญ่เป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท และ 100 บาท
นอกนั้นพบอย่างประปราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30,000 บาท แต่ถือว่ายังไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และขณะนี้ศูนย์ฯ จัดชุดเจ้าหน้าที่ออกชี้แจงทำความเข้าใจและให้ความรู้สังเกตธนบัตรปลอมกับประชาชน เพื่อลดความวิตกกังวล
ตำรวจกระบี่เร่งทดสอบเงินปลอม
ด้านพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรเมืองกระบี่ นำธนบัตรปลอมฉบับละ 500 บาท ซึ่ง น.ส.ราตรี หมั่นมา พนักงานฝ่ายการเงิน แขวงการทางกระบี่ นำมาแจ้งความเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ไปทดสอบกับตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายในห้างเทสโก้โลตัส สาขากระบี่ ซึ่ง น.ส.ราตรี ระบุว่า กดเงินจากตู้เอทีเอ็มแห่งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ของธนาคาร สื่อมวลชน และ น.ส.ราตรี ร่วมเป็นพยานด้วย แต่ระหว่างรอ เจ้าหน้าธนาคารแจ้งว่า สำนักงานใหญ่ไม่อนุญาตให้ทดสอบกับตู้เอทีเอ็ม โดยไม่ทราบสาเหตุ สร้างความผิดหวังให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
น.ส.ราตรี ยืนยันว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้แจ้งความเท็จ
ขณะที่พนักงานสอบสวน บอกว่า ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของธนาคาร จึงไม่สามารถทดสอบได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย เบื้องต้นจะทำหนังสือถึงผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อขอทดสอบตามกฎระเบียบของธนาคารต่อไป
