ตำรวจร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอม ระบุแบงก์ปลอมจับได้ทุกปี แต่ปีนี้พบแหล่งระบาดหนักในพื้นที่ภาคอีสาน คาดคนผลิตเป็นผู้ที่ไม่มีอาชีพ ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศซบเซา ย้ำแบงก์จากตู้เอทีเอ็มมีการตรวจละเอียดหลายขั้นตอนไม่มีแบงก์ปลอมแน่นอน
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตัวแทน บช.ภ.1-9 บช.ก. บก.ตชด. นายเรืองศักดิ์ กิตติสารกุล ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ เพื่อหารือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดการใช้ธนบัตรปลอม
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ในที่ประชุมสรุปผลพบว่าธนบัตรปลอมสามารถจับกุมได้ทุกปี แต่พบว่าเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนธนบัตรที่หมุนเวียนในตลาด อีกทั้ง ธปท.ยืนยันว่าธนบัตรที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็มนั้นถูกต้องทุกใบ ตำรวจและ ธปท.จึงได้วางมาตรการร่วมกันโดยเน้นการเผยแพร่ข้อมูลการตรวจสอบธนบัตรปลอมให้ประชาชนทราบ เพราะปกติตำรวจสามรถจับกุมธนบัตรปลอมได้ทุกปีอยู่แล้ว แต่ในปีนี้สามารถจับกุมได้จำนวนมากจึงทำให้ดูเหมือนมีการแพร่ระบาด
ด้าน นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดธนบัตรปลอมในปัจจุบันไม่รุนแรง แต่พบว่ามีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในภาวะปกติเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดมากน้อยจะสลับกันทุกปีอยู่แล้ว โดยปีนี้แหล่งระบาดที่พบอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสาน โดยคาดว่าสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจ ผู้ที่ทำไม่มีอาชีพ เชื่อว่า 100 เปอร์เซ็นต์ผลิตขึ้นในประเทศไทยซึ่งคุณภาพยังต่ำแตกต่างจากของจริงมากประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตความแตกต่างด้วยตนเองได้
“ตู้เอทีเอ็มทุกธนาคารแห่งที่ได้รับธนบัตรมาต้องมีการพิสูจน์ผ่านเครื่องคัดแยกธนบัตร โดยธนบัตรที่เสีย หรือปลอมจะถูกคัดออก และยืนยันว่าเครื่องมีคุณภาพสูงไม่เคยขัดข้อง จากนั้นจะมีกรรมการจากธนาคารต่างๆ มาตรวจสอบอีกครั้งก่อนนำไปใส่กล่อง ที่จะนำไปไว้ในเครื่องเอทีเอ็มจึงมีความระมัดระวังอย่างมาก” ตัวแทน ธปท.กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชย์อัตรา รอง ผบช.ภ.8 กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีคนได้รับธนบัตรปลอมมาจากตู้เอทีเอ็มใน จ.พังงา ว่าธนาคารได้ตรวจสอบธนบัตรดังกล่าวแล้วพบว่าเป็นธนบัตรปลอม และทางธนาคารยืนยันว่าถ้าเป็นธนบัตรปลอมเครื่องจะปฏิเสธทันที ตำรวจจึงได้นัดธนาคารทดสอบเครื่องกับธนบัตรดังกล่าวว่าจะไม่รับธนบัตรดังกล่าวจริงหรือไม่ เพื่อพิจารณาคดีอีกครั้ง ส่วนผู้ที่นำมาใช้จะถูกดำเนินคดีหรือไม่ต้องอยู่ที่ผลการสอบสวน