ASTVผู้จัดการรายวัน - บอร์ด ธปท.ตื่นแล้ว เรียกประชุมถกแบงก์ปลอม เตรียมทำแผนรณรงค์ระยะยาว สร้างความมั่นใจให้ความรู้ประชาชน ขอความร่วมมือแบงก์พาณิชย์จัดเจ้าหน้าตรวจสอบธนบัตรให้ประชาชนทุกสาขา รวมทั้งให้เข้มงวดธนบัตรที่จะใส่ในตู้เอทีเอ็ม ส่วนห้างร้านหากต้องการให้ ธปท.ช่วยอบรมการดูแบงก์ปลอมสามารถร้องขอมาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ( 25 ธ.ค.) ได้มียกประเด็นสถานการณ์การระบาดของธนบัตรปลอมขึ้นมา เพื่อหาแนวทางในการดูแลปัญหาความไม่มั่นใจในการใช้จ่าย และรับธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท ของประชาชน ทั้งนี้ นายนนทพล นิ่มสมบุญ คณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้มีการนำเรื่องแบงก์ปลอมมาหารือร่วมกัน โดยคณะกรรมการธนาคารเห็นร่วมกันว่า ไม่ควรที่จะตื่นตระหนก หรือกังวลจนมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ที่ประชุมมองว่า ควรจะมีการจัดทำแผนโครงการรณรงค์สร้างความเชื่อมั่น และแนะนำวิธีการตรวจสอบเพื่อแยกแยะธนบัตรจริงและปลอมเพื่อให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้แม้ว่าธนบัตรปลอม จะมีความสามารถในการปลอมแปลงเพิ่มขึ้น แต่ธนบัตรปลอมทุกชนิดยังสามารถที่จะตรวจสอบได้ด้วยตา และการสัมผัส ว่าเป็นธนบัตรจริง หรือธนบัตรปลอม โดยยืนยันว่า ไม่มีธนบัตรปลอมที่เหมือนจริงจนตรวจสอบไม่ได้ เพียงแต่ขอให้ประชาชนสังเกตรายละเอียดของธนบัตรที่รับมามากขึ้นเท่านั้น
ธปท.ได้ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติม ให้สาขาทุกสาขาของธนาคารพาณิชย์รับเป็นธุระจัดเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบธนบัตรทุกชนิดราคา ที่ประชาชนสงสัยให้ ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่าธนบัตรที่ได้รับมาอาจจะเป็นแบงก์ปลอมให้นำมาตรวจสอบที่ธนาคารพาณิชย์ได้ ขณะเดียวกัน ได้ขอให้ดูแลธนบัตรไม่ให้ธนบัตรปลอมปะปนเข้าไปในตู้เอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษ เพื่อไม่ให้มีแบงก์ปลอมหลุดออกมาจากระบบธนาคาร แต่ส่วนของแบงก์ปลอมที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจเคยเข้าไปเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบนั้น ธปท.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้แบงก์ปลอมอกไปจากระบบให้หมดโดยเร็วที่สุด
“ล่าสุด ที่กดธนบัตรชนิดราคา 500 บาทได้จากเอทีเอ็มนั้น ได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้รายงานว่า น่าจะไม่ใช่ธนบัตรปลอมก็ให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก และไม่กล้าใช้แบงก์ห้าร้อย”
นายนพพรกล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้านค้า และพ่อค้า แม่ค้า ไม่รับธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท ธปท.ได้จัดเจ้าหน้าไปประชาสัมพันธ์ การแยกแยะแบงก์จริงและปลอม ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ไปให้ความรู้ที่ตลาดไท และตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีการใช้จ่าย และแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมาก นอกจากนั้น ธปท.ยังได้เปิดจัดอบรมแคชเชียร์ของห้างสรรพสินค้าต่างๆ ให้เข้าใจเล่ห์กลในการระบาดของแบงก์ปลอม และวิธีการตรวจสอบแบงก์ปลอม เพื่อสร้างความมั่นใจ และเอื้ออำนวยให้ห้างสรรพสินค้ามั่นใจที่จะรับธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาทได้มากขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีห้างสรรพสินค้า และห้างร้านจำนวนหนึ่งที่ร้องขอให้ธปท.จัดฝึกอบรมพนักงานให้ และหากมีห้างสรรพสินค้า หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการให้จัดอบรม หากมีจำนวนมากพอ ธปท.ก็พร้อมที่จะดำเนินการจัดอบรมให้ทันที
กรุงไทยจัดคาราวานแนะดูแบงก์ปลอม
ขณะที่ธนาคารกรุงไทยจะจัดจัดโครงการคาราวาน “มั่นใจกับกรุงไทยใช้ธนบัตรจริง” เพื่อสร้างการรับรู้ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าและประชาชน โดยธนาคารได้จัดรถโมบายพร้อมด้วยพนักงานออกไปให้บริการตรวจสอบ และแนะนำในการดูธนบัตรกับลูกค้าและประชาชน แจกแผ่นพับ และคู่มือวิธีสังเกตธนบัตรปลอม รวมทั้งให้บริการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ในย่านชุมชนและแหล่งการค้า ทั้งนี้ ได้กำหนดจัดงานแถลงข่าวและเปิดตัวโครงการ “มั่นใจกับกรุงไทยใช้ธนบัตรจริง ” โดยนายพงศธร สิริโยธิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานปฏิบัติการ ธนาคารกรุงไทยในวันนี้ เวลา 10.00 น.
KBANK ย้ำแบงก์จากK-ATM จริง100%
นายปราโมทย์ ไชยอำพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)(KBANK) เปิดเผยว่า ในเทศกาลปีใหม่นี้ เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้า และท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ธนาคารกสิกรไทยจึงจัดให้มีเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเลขเงินสดคงเหลือในตู้เอทีเอ็มทุกวัน ตลอดช่วงเทศกาล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเงินสดในตู้เอทีเอ็มของธนาคาร (K-ATM) ทุกตู้จะมีปริมาณเพียงพอ เพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าทั่วประเทศ ที่จะมีปริมาณมากในช่วงเวลาดังกล่าว
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ถอนเงินสดจากเครื่องเอทีเอ็ม หรือจากสาขาของธนาคารกสิกรไทย สามารถมั่นใจได้ว่าธนบัตรที่ได้รับเป็นธนบัตรที่ถูกต้อง ไม่มีการแปลกปลอม หรือชำรุดแน่นอน เนื่องจากธนบัตรทุกประเภทที่ออกจากธนาคารกสิกรไทยทางช่องทางสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ถูกส่งมาจากศูนย์เงินสดของธนาคาร จำนวน 28 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีระบบการตรวจนับคัดแยกธนบัตรที่รัดกุม เพื่อคัดแยกธนบัตรปลอม หรือชำรุด หรือสภาพเก่า ออกไป โดยธนาคารมีเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีทันสมัย สามารถตรวจจับธนบัตรปลอมได้อย่างละเอียดสูงสุด และเมื่อธนบัตรผ่านเครื่องตรวจคัดแยกแล้ว จะถูกนำมาบรรจุใส่กล่องโดยผู้เชี่ยวชาญ ต่อหน้ากล้องโทรทัศน์วงจรปิด ก่อนจะส่งออกไปให้แก่สาขาและบรรจุในเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งเดียวที่ใช้วิธีการส่งเงินสดจากศูนย์เงินสดของธนาคาร ซึ่งเป็นส่วนกลาง เพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มทั้งหมดทั่วประเทศ ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าเมื่อถอนเงินออกจากเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยแล้ว จะได้รับธนบัตรที่ถูกต้อง 100%
นายปราโมทย์กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ธนบัตรที่ได้รับจากธนาคารกสิกรไทยผ่านช่องทางสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม เป็นธนบัตรที่ถูกต้องแน่นอน และเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารจะมีเงินสดสำรองอย่างเพียงพอในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ดำเนินการสำรองเงินสดในเครื่องเอทีเอ็มของธนาคาร (K-ATM) จำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารจำนวน 5,064 เครื่อง ทั่วประเทศ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ( 25 ธ.ค.) ได้มียกประเด็นสถานการณ์การระบาดของธนบัตรปลอมขึ้นมา เพื่อหาแนวทางในการดูแลปัญหาความไม่มั่นใจในการใช้จ่าย และรับธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท ของประชาชน ทั้งนี้ นายนนทพล นิ่มสมบุญ คณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้มีการนำเรื่องแบงก์ปลอมมาหารือร่วมกัน โดยคณะกรรมการธนาคารเห็นร่วมกันว่า ไม่ควรที่จะตื่นตระหนก หรือกังวลจนมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ที่ประชุมมองว่า ควรจะมีการจัดทำแผนโครงการรณรงค์สร้างความเชื่อมั่น และแนะนำวิธีการตรวจสอบเพื่อแยกแยะธนบัตรจริงและปลอมเพื่อให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้แม้ว่าธนบัตรปลอม จะมีความสามารถในการปลอมแปลงเพิ่มขึ้น แต่ธนบัตรปลอมทุกชนิดยังสามารถที่จะตรวจสอบได้ด้วยตา และการสัมผัส ว่าเป็นธนบัตรจริง หรือธนบัตรปลอม โดยยืนยันว่า ไม่มีธนบัตรปลอมที่เหมือนจริงจนตรวจสอบไม่ได้ เพียงแต่ขอให้ประชาชนสังเกตรายละเอียดของธนบัตรที่รับมามากขึ้นเท่านั้น
ธปท.ได้ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติม ให้สาขาทุกสาขาของธนาคารพาณิชย์รับเป็นธุระจัดเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบธนบัตรทุกชนิดราคา ที่ประชาชนสงสัยให้ ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่าธนบัตรที่ได้รับมาอาจจะเป็นแบงก์ปลอมให้นำมาตรวจสอบที่ธนาคารพาณิชย์ได้ ขณะเดียวกัน ได้ขอให้ดูแลธนบัตรไม่ให้ธนบัตรปลอมปะปนเข้าไปในตู้เอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษ เพื่อไม่ให้มีแบงก์ปลอมหลุดออกมาจากระบบธนาคาร แต่ส่วนของแบงก์ปลอมที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจเคยเข้าไปเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบนั้น ธปท.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้แบงก์ปลอมอกไปจากระบบให้หมดโดยเร็วที่สุด
“ล่าสุด ที่กดธนบัตรชนิดราคา 500 บาทได้จากเอทีเอ็มนั้น ได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้รายงานว่า น่าจะไม่ใช่ธนบัตรปลอมก็ให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก และไม่กล้าใช้แบงก์ห้าร้อย”
นายนพพรกล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้านค้า และพ่อค้า แม่ค้า ไม่รับธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท ธปท.ได้จัดเจ้าหน้าไปประชาสัมพันธ์ การแยกแยะแบงก์จริงและปลอม ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ไปให้ความรู้ที่ตลาดไท และตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีการใช้จ่าย และแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมาก นอกจากนั้น ธปท.ยังได้เปิดจัดอบรมแคชเชียร์ของห้างสรรพสินค้าต่างๆ ให้เข้าใจเล่ห์กลในการระบาดของแบงก์ปลอม และวิธีการตรวจสอบแบงก์ปลอม เพื่อสร้างความมั่นใจ และเอื้ออำนวยให้ห้างสรรพสินค้ามั่นใจที่จะรับธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาทได้มากขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีห้างสรรพสินค้า และห้างร้านจำนวนหนึ่งที่ร้องขอให้ธปท.จัดฝึกอบรมพนักงานให้ และหากมีห้างสรรพสินค้า หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการให้จัดอบรม หากมีจำนวนมากพอ ธปท.ก็พร้อมที่จะดำเนินการจัดอบรมให้ทันที
กรุงไทยจัดคาราวานแนะดูแบงก์ปลอม
ขณะที่ธนาคารกรุงไทยจะจัดจัดโครงการคาราวาน “มั่นใจกับกรุงไทยใช้ธนบัตรจริง” เพื่อสร้างการรับรู้ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าและประชาชน โดยธนาคารได้จัดรถโมบายพร้อมด้วยพนักงานออกไปให้บริการตรวจสอบ และแนะนำในการดูธนบัตรกับลูกค้าและประชาชน แจกแผ่นพับ และคู่มือวิธีสังเกตธนบัตรปลอม รวมทั้งให้บริการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ในย่านชุมชนและแหล่งการค้า ทั้งนี้ ได้กำหนดจัดงานแถลงข่าวและเปิดตัวโครงการ “มั่นใจกับกรุงไทยใช้ธนบัตรจริง ” โดยนายพงศธร สิริโยธิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานปฏิบัติการ ธนาคารกรุงไทยในวันนี้ เวลา 10.00 น.
KBANK ย้ำแบงก์จากK-ATM จริง100%
นายปราโมทย์ ไชยอำพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)(KBANK) เปิดเผยว่า ในเทศกาลปีใหม่นี้ เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้า และท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ธนาคารกสิกรไทยจึงจัดให้มีเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเลขเงินสดคงเหลือในตู้เอทีเอ็มทุกวัน ตลอดช่วงเทศกาล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเงินสดในตู้เอทีเอ็มของธนาคาร (K-ATM) ทุกตู้จะมีปริมาณเพียงพอ เพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าทั่วประเทศ ที่จะมีปริมาณมากในช่วงเวลาดังกล่าว
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ถอนเงินสดจากเครื่องเอทีเอ็ม หรือจากสาขาของธนาคารกสิกรไทย สามารถมั่นใจได้ว่าธนบัตรที่ได้รับเป็นธนบัตรที่ถูกต้อง ไม่มีการแปลกปลอม หรือชำรุดแน่นอน เนื่องจากธนบัตรทุกประเภทที่ออกจากธนาคารกสิกรไทยทางช่องทางสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ถูกส่งมาจากศูนย์เงินสดของธนาคาร จำนวน 28 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีระบบการตรวจนับคัดแยกธนบัตรที่รัดกุม เพื่อคัดแยกธนบัตรปลอม หรือชำรุด หรือสภาพเก่า ออกไป โดยธนาคารมีเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีทันสมัย สามารถตรวจจับธนบัตรปลอมได้อย่างละเอียดสูงสุด และเมื่อธนบัตรผ่านเครื่องตรวจคัดแยกแล้ว จะถูกนำมาบรรจุใส่กล่องโดยผู้เชี่ยวชาญ ต่อหน้ากล้องโทรทัศน์วงจรปิด ก่อนจะส่งออกไปให้แก่สาขาและบรรจุในเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งเดียวที่ใช้วิธีการส่งเงินสดจากศูนย์เงินสดของธนาคาร ซึ่งเป็นส่วนกลาง เพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มทั้งหมดทั่วประเทศ ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าเมื่อถอนเงินออกจากเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยแล้ว จะได้รับธนบัตรที่ถูกต้อง 100%
นายปราโมทย์กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ธนบัตรที่ได้รับจากธนาคารกสิกรไทยผ่านช่องทางสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม เป็นธนบัตรที่ถูกต้องแน่นอน และเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารจะมีเงินสดสำรองอย่างเพียงพอในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ดำเนินการสำรองเงินสดในเครื่องเอทีเอ็มของธนาคาร (K-ATM) จำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารจำนวน 5,064 เครื่อง ทั่วประเทศ.