แบงก์ชาติเตรียมพร้อมพิมพ์ธนบัตรใหม่ ออกใช้ก่อนกำหนด หวังบรรเทาแบงก์ปลอมป่วนเศรษฐกิจ โผล่อีกแบงก์ 500 ปลอม ซื้อของไม่ผ่าน อ้างกดจาก ATM ไทยพาณิชย์-กรุงไทยพื้นที่ จ.กระบี่ ด้าน บช.ก. ส่งชุดสืบสวนปราบรามฯ ลงพื้นที่ตรวจหาแหล่งผลิตแบงก์ปลอมตามแนวชายแดน- เหนือ- อีสาน
แหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยวานนี้ (24 ธ.ค.) ว่า ธปท.กำลังประเมินสถานการณ์ธนบัตรปลอมที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน หากมีมากจนกระทบเศรษฐกิจโดยรวม ธปท.ก็จะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ออกมาเร็วขึ้นกว่าปกติ นอกจากนี้ต้องให้ยากต่อการปลอมแปลงของมิจฉาชีพ
"สถานการณ์ล่าสุดอาจจะต้องตัดสินใจนำรูปแบบธนบัตรที่เตรียมไว้ออกมา เดิมทียังไม่ถึงกำหนดออก และทุก 2-4 ปี ถึงจะมีการเปลี่ยนแปลง" แหล่งข่าวระบุ
วันเดียวกันนายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคารธปท. แถลงว่า ธปท.ได้มีการประสานงานกับตำรวจมากขึ้นในการตรวจจับธนบัตรปลอมที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จากเดิมที่มีการดำเนินการเป็นระยะๆ อยู่แล้ว เพื่อพยายามหาแหล่งต้นตอการปลอมแปลงธนบัตร รวมถึงกำจัดสาเหตุปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ แม้ล่าสุดกลุ่มมิจฉาชีพจะพยายามใช้กลวิธีต่างๆ อาทิ เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น ดังนั้น กระแสการตื่นตระหนกเกรงว่าจะมีธนบัตรปลอมแปลงการใช้จ่ายธนบัตรมาก โดยเฉพาะธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท น่าจะเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม แม้ประชาชนทั่วไปจะหันมาใช้จ่ายผ่านธนบัตรชนิดราคา 100 บาท และ 500 บาทมากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลว่าธนบัตรชนิดใดจะขาดแคลนในระบบ เนื่องจากธปท.ได้มีการสำรองธนาคารให้แก่ธนาคารพาณิชย์ไว้แจกจ่ายและผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเผื่อหมุนเวียนในระบบถึง 2-4 เดือน สำหรับภาวะปกติ แต่เมื่อถึงช่วงเทศกาลอย่างตอนนี้ธนบัตรสำรองเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 เดือน หรือเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณ 50% รวมทั้งในปีนี้เป็นปีแรกที่โรงพิมพ์ธนบัตรสามารถมีกำลังผลิตได้เต็มที่
“เราพร้อมที่จะสำรองธนบัตรให้เพียงพอกับการใช้จ่าย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่มีการเตรียมไว้เยอะพอสมควรแล้ว ซึ่งก็เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว เพราะหลังจากปีใหม่ประมาณ 2 อาทิตย์จะมีเงินสดกลับมาฝากในธนาคารพาณิชย์ตามปกติ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันไทยมีบทลงโทษการปลอมแปลงธนบัตรมากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ส่วนกรณีที่ประชาชนหันมาใช้ธนบัตรชนิดราคาเล็กลงก็ไม่สมควรจากความกลัวธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาทจะมีการปลอมแปลงเยอะนั้นเกรงว่าจะสร้างปัญหาความยุ่งยากในการใช้งานเพิ่มขึ้นได้”
สำหรับกรณีที่ประชาชนมีความวิตกธนบัตร โดยเฉพาะในหมวด 9 A มากนั้น นายนพพร กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนเน้นในหมวดใดหมวดหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ควรใช้การตรวจสอบด้วยตัวเองดีกว่าทั้งวิธีการสังเกตความคมชัด การสัมผัสตัวธนบัตรให้รู้สึกว่ามีตัวพิมพ์นูน รวมถึงการยกส่องดูลายน้ำต่างๆ นอกจากนี้ธปท.เองก็มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ออกไปให้ความรู้แก่ประชาบนตามแหล่งชุมชนต่างๆ ซึ่งในวันที่ 25 ธ.ค.นี้จะให้ความรู้แก่พ่อค้า แม่ค้าในตลาดไท ตลาดโรงเกลือ รวมถึงมีการแจกแผ่นพับต่างๆ ประกอบให้ด้วย
ขรก.กระบี่โวยกด ATM เจอแบงก์ปลอม
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ว่า นางราตรีได้เดินทางเข้แจ้งความกับ ร.ต.ท.ปรัช ร้อยเวร สภ.เมืองกระบี่ พร้อมกับธนบัตร ชนิดละ 500 บาท ที่ค่อนข้างเก่า 1 ใบ พร้อมกับ สลิปหลักฐานการกดเงินจากตู้ ATM ของธนาคาร2 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารไทยพาณิชย์
นางราตรีอ้างว่า ได้กดเงินจากทั้ง 2 ธนาคาร เพื่อมาซื้อสินค้า ภายในห้างโลตัส แต่เจ้าหน้าที่ แจ้งว่า ธนบัตรดังกล่าว เป็น ธนบัตรปลอม นางราตรีก็ยืนยันว่า เพิ่งกดเงินดังกล่าวออกมาจากตู้ ATM พร้อมกับ แสดงสลิปเป็นหลักฐานเพื่อเป็นการยืนยัน และหลังจากซื้อสินค้าเสร็จ ก็เดินทางไปยัง สภ.เมืองกระบี่ แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยได้เล่าเหตุการณ์ให้กับ ร้อยเวรทราบ จากนั้นก็เดินทางกลับ
นางราตรีก็ได้เดินทางเข้าติดต่อกับธนาคารต้นเรื่อง ทั้ง 2 แห่งแล้ว แต่ทางธนาคาร ก็ยืนยันในระบบความปลอดภัย โดยระบุว่า ถ้ามีธนบัตรปลอม เครื่องจะดีดออกทันที ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ว่า นางราตรีกดเงินออกมาจากตู้ ATM จริง ซึ่งล่าสุด ร.ต.ท.ปรัช เตรียมนำหลักฐานการแจ้งความ เข้าตรวจสอบกับทางธนาคารอีกครั้ง
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวยืนยันว่ากรณีธนบัตรปลอมนั้นธนาคารยังขอยืนยันว่าธนบัตรที่ออกมาจากธนาคารทุกฉบับนั้นเป็นของจริงทั้งหมดเนื่องจากหากมีธนบัตรปลอมเข้ามาธนาคารจะสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด
บช.ก.ปูพรมค้นแหล่งผลิตแบงก์เก๊
วานนี้ (24 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก. กล่าวถึงการปราบปรามธนบัตรปลอมที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของกองบังคับการปราบปราบ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี รวมทั้งกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจน้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาแหล่งผลิต ตามแนวชายแดน และบริเวณภาคเหนือและอีสานที่คาดว่าเป็นแหล่งผลิต สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่จับกุมได้ยังไม่พบว่าแบงก์ปลอมผลิตจากรายใหญ่ๆ ยังเป็นเพียงการถ่ายเอกสาร
ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.ระบุว่าเป็นการผลิตจากเครื่องพิมพ์ที่ลักลอบผลิตในห้องแถวนั้น อาจจะได้รับข้อมูลมาจากส่วนหนึ่งแต่จากการสืบสวนสอบสวนก็ยังไม่พบรายใหญ่ขนาดนั้น ซึ่งตำรวจที่ลงพื้นที่จะพยายามตรวจสอบหาผู้ผลิตมาดำเนินคดีให้ได้
พ.ต.ท.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้กำกับการศูนย์สืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผกก.ศส.บช.น.) กล่าวว่า การผลิตและปลอมแปลงธนบัตรใบละ 1,000 บาท ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในระยะนี้ไม่ปรากฏในพื้นที่ กทม.จะมีก็เฉพาะในต่างจังหวัดและปริมณฑล เพราะการลักลอบผลิตธนบัตรปลอมและนำธนบัตรปลอมใช้ในพื้นที่ กทม.นั้นทำได้ยาก เนื่องจากการผลิตธนบัตรปลอมต้องใช้แท่นพิมพ์ โรงพิมพ์ที่มีเครื่องพิมพ์ราคาหลายล้านบาทมักจะไม่กล้ารับงานพิมพ์แบบนี้เสี่ยงต่อการถูกจับกุมและไม่คุ้ม นอกเสียจากว่าการผลิตโดยใช้เครื่องพิมพ์นั้นจะเล็ดลอดออกมาได้เพราะมีการรับซื้อเครื่องพิมพ์ชนิดเก่าแก่ที่ทางโรงพิมพ์ปลดระวางไม่ใช้แล้ว มาแอบลักลอบพิมพ์กันเองก็เป็นได้
"หากมีการลักลอบผลิตแบงก์ปลอมใน กทม.คงไม่รอดการจับกุมไปได้ แต่เท่าที่ตรวจสอบในข้อมูลด้านการสืบสวนขณะนี้ยังไม่มีทั้งการปลอมแปลง ที่ผ่านมาศูนย์สืบสวนฯ ทำการสืบสวนจับกุมผู้ลักลอบผลิตธนบัตรปลอมหรือทำการปลอมแปลงมาดำเนินคดีโดยตลอดเพราะถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 240 มีโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการปลอมธนบัตรหรือปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์ก็ตาม แต่ระยะหลังไม่ค่อยปรากฏในพื้นที่ กทม.มากนัก มีเพียงการปลอมแปลงแบงก์ดอลล่าร์และเงินสกุลต่างประเทศเท่านั้น"
แหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยวานนี้ (24 ธ.ค.) ว่า ธปท.กำลังประเมินสถานการณ์ธนบัตรปลอมที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน หากมีมากจนกระทบเศรษฐกิจโดยรวม ธปท.ก็จะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ออกมาเร็วขึ้นกว่าปกติ นอกจากนี้ต้องให้ยากต่อการปลอมแปลงของมิจฉาชีพ
"สถานการณ์ล่าสุดอาจจะต้องตัดสินใจนำรูปแบบธนบัตรที่เตรียมไว้ออกมา เดิมทียังไม่ถึงกำหนดออก และทุก 2-4 ปี ถึงจะมีการเปลี่ยนแปลง" แหล่งข่าวระบุ
วันเดียวกันนายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคารธปท. แถลงว่า ธปท.ได้มีการประสานงานกับตำรวจมากขึ้นในการตรวจจับธนบัตรปลอมที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จากเดิมที่มีการดำเนินการเป็นระยะๆ อยู่แล้ว เพื่อพยายามหาแหล่งต้นตอการปลอมแปลงธนบัตร รวมถึงกำจัดสาเหตุปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ แม้ล่าสุดกลุ่มมิจฉาชีพจะพยายามใช้กลวิธีต่างๆ อาทิ เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น ดังนั้น กระแสการตื่นตระหนกเกรงว่าจะมีธนบัตรปลอมแปลงการใช้จ่ายธนบัตรมาก โดยเฉพาะธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท น่าจะเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม แม้ประชาชนทั่วไปจะหันมาใช้จ่ายผ่านธนบัตรชนิดราคา 100 บาท และ 500 บาทมากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลว่าธนบัตรชนิดใดจะขาดแคลนในระบบ เนื่องจากธปท.ได้มีการสำรองธนาคารให้แก่ธนาคารพาณิชย์ไว้แจกจ่ายและผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเผื่อหมุนเวียนในระบบถึง 2-4 เดือน สำหรับภาวะปกติ แต่เมื่อถึงช่วงเทศกาลอย่างตอนนี้ธนบัตรสำรองเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 เดือน หรือเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณ 50% รวมทั้งในปีนี้เป็นปีแรกที่โรงพิมพ์ธนบัตรสามารถมีกำลังผลิตได้เต็มที่
“เราพร้อมที่จะสำรองธนบัตรให้เพียงพอกับการใช้จ่าย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่มีการเตรียมไว้เยอะพอสมควรแล้ว ซึ่งก็เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว เพราะหลังจากปีใหม่ประมาณ 2 อาทิตย์จะมีเงินสดกลับมาฝากในธนาคารพาณิชย์ตามปกติ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันไทยมีบทลงโทษการปลอมแปลงธนบัตรมากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ส่วนกรณีที่ประชาชนหันมาใช้ธนบัตรชนิดราคาเล็กลงก็ไม่สมควรจากความกลัวธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาทจะมีการปลอมแปลงเยอะนั้นเกรงว่าจะสร้างปัญหาความยุ่งยากในการใช้งานเพิ่มขึ้นได้”
สำหรับกรณีที่ประชาชนมีความวิตกธนบัตร โดยเฉพาะในหมวด 9 A มากนั้น นายนพพร กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนเน้นในหมวดใดหมวดหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ควรใช้การตรวจสอบด้วยตัวเองดีกว่าทั้งวิธีการสังเกตความคมชัด การสัมผัสตัวธนบัตรให้รู้สึกว่ามีตัวพิมพ์นูน รวมถึงการยกส่องดูลายน้ำต่างๆ นอกจากนี้ธปท.เองก็มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ออกไปให้ความรู้แก่ประชาบนตามแหล่งชุมชนต่างๆ ซึ่งในวันที่ 25 ธ.ค.นี้จะให้ความรู้แก่พ่อค้า แม่ค้าในตลาดไท ตลาดโรงเกลือ รวมถึงมีการแจกแผ่นพับต่างๆ ประกอบให้ด้วย
ขรก.กระบี่โวยกด ATM เจอแบงก์ปลอม
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ว่า นางราตรีได้เดินทางเข้แจ้งความกับ ร.ต.ท.ปรัช ร้อยเวร สภ.เมืองกระบี่ พร้อมกับธนบัตร ชนิดละ 500 บาท ที่ค่อนข้างเก่า 1 ใบ พร้อมกับ สลิปหลักฐานการกดเงินจากตู้ ATM ของธนาคาร2 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารไทยพาณิชย์
นางราตรีอ้างว่า ได้กดเงินจากทั้ง 2 ธนาคาร เพื่อมาซื้อสินค้า ภายในห้างโลตัส แต่เจ้าหน้าที่ แจ้งว่า ธนบัตรดังกล่าว เป็น ธนบัตรปลอม นางราตรีก็ยืนยันว่า เพิ่งกดเงินดังกล่าวออกมาจากตู้ ATM พร้อมกับ แสดงสลิปเป็นหลักฐานเพื่อเป็นการยืนยัน และหลังจากซื้อสินค้าเสร็จ ก็เดินทางไปยัง สภ.เมืองกระบี่ แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยได้เล่าเหตุการณ์ให้กับ ร้อยเวรทราบ จากนั้นก็เดินทางกลับ
นางราตรีก็ได้เดินทางเข้าติดต่อกับธนาคารต้นเรื่อง ทั้ง 2 แห่งแล้ว แต่ทางธนาคาร ก็ยืนยันในระบบความปลอดภัย โดยระบุว่า ถ้ามีธนบัตรปลอม เครื่องจะดีดออกทันที ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ว่า นางราตรีกดเงินออกมาจากตู้ ATM จริง ซึ่งล่าสุด ร.ต.ท.ปรัช เตรียมนำหลักฐานการแจ้งความ เข้าตรวจสอบกับทางธนาคารอีกครั้ง
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวยืนยันว่ากรณีธนบัตรปลอมนั้นธนาคารยังขอยืนยันว่าธนบัตรที่ออกมาจากธนาคารทุกฉบับนั้นเป็นของจริงทั้งหมดเนื่องจากหากมีธนบัตรปลอมเข้ามาธนาคารจะสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด
บช.ก.ปูพรมค้นแหล่งผลิตแบงก์เก๊
วานนี้ (24 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก. กล่าวถึงการปราบปรามธนบัตรปลอมที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของกองบังคับการปราบปราบ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี รวมทั้งกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจน้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาแหล่งผลิต ตามแนวชายแดน และบริเวณภาคเหนือและอีสานที่คาดว่าเป็นแหล่งผลิต สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่จับกุมได้ยังไม่พบว่าแบงก์ปลอมผลิตจากรายใหญ่ๆ ยังเป็นเพียงการถ่ายเอกสาร
ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.ระบุว่าเป็นการผลิตจากเครื่องพิมพ์ที่ลักลอบผลิตในห้องแถวนั้น อาจจะได้รับข้อมูลมาจากส่วนหนึ่งแต่จากการสืบสวนสอบสวนก็ยังไม่พบรายใหญ่ขนาดนั้น ซึ่งตำรวจที่ลงพื้นที่จะพยายามตรวจสอบหาผู้ผลิตมาดำเนินคดีให้ได้
พ.ต.ท.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้กำกับการศูนย์สืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผกก.ศส.บช.น.) กล่าวว่า การผลิตและปลอมแปลงธนบัตรใบละ 1,000 บาท ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในระยะนี้ไม่ปรากฏในพื้นที่ กทม.จะมีก็เฉพาะในต่างจังหวัดและปริมณฑล เพราะการลักลอบผลิตธนบัตรปลอมและนำธนบัตรปลอมใช้ในพื้นที่ กทม.นั้นทำได้ยาก เนื่องจากการผลิตธนบัตรปลอมต้องใช้แท่นพิมพ์ โรงพิมพ์ที่มีเครื่องพิมพ์ราคาหลายล้านบาทมักจะไม่กล้ารับงานพิมพ์แบบนี้เสี่ยงต่อการถูกจับกุมและไม่คุ้ม นอกเสียจากว่าการผลิตโดยใช้เครื่องพิมพ์นั้นจะเล็ดลอดออกมาได้เพราะมีการรับซื้อเครื่องพิมพ์ชนิดเก่าแก่ที่ทางโรงพิมพ์ปลดระวางไม่ใช้แล้ว มาแอบลักลอบพิมพ์กันเองก็เป็นได้
"หากมีการลักลอบผลิตแบงก์ปลอมใน กทม.คงไม่รอดการจับกุมไปได้ แต่เท่าที่ตรวจสอบในข้อมูลด้านการสืบสวนขณะนี้ยังไม่มีทั้งการปลอมแปลง ที่ผ่านมาศูนย์สืบสวนฯ ทำการสืบสวนจับกุมผู้ลักลอบผลิตธนบัตรปลอมหรือทำการปลอมแปลงมาดำเนินคดีโดยตลอดเพราะถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 240 มีโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการปลอมธนบัตรหรือปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์ก็ตาม แต่ระยะหลังไม่ค่อยปรากฏในพื้นที่ กทม.มากนัก มีเพียงการปลอมแปลงแบงก์ดอลล่าร์และเงินสกุลต่างประเทศเท่านั้น"
