พะเยา/น่าน - ผู้ว่าฯพะเยา เตือนประชาชนระมัดระวังธนบัตรปลอมช่วงเทศกาลปีใหม่ ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวธนบัตรปลอมระบาด เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ล่าสุดพบแบงก์พันปลอมโผล่ที่น่าน
นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ จะมีการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างสูง เพื่อเป็นการป้องกันการได้รับธนบัตรปลอมโดยเฉพาะในธนบัตรใบละ 500 บาท และ 1,000 บาท ประชาชนจึงควรสังเกตและตรวจสอบธนบัตรที่ได้รับทุกครั้ง ซึ่งในระบบการใช้จ่ายท่านอาจจะได้รับมาได้โดยที่ไม่รู้ตัว
สำหรับการสังเกตธนบัตรว่า เป็นของปลอมหรือไม่สามารถสังเกตได้ดังนี้ ลายน้ำ พระบรมสาทิสลักษณ์ มองเห็นได้ชัดเจน เมื่อยกส่องกับแสงสว่าง และรูปลายไทยจะโปร่งแสงเป็นพิเศษ, แถบสีโลหะในเนื้อกระดาษ นำเนื้อกระดาษตามแนวตั้ง เมื่อยกส่องกับแสงสว่างจะเห็นตัวเลขและตัวอักษรโปร่งแสง, พิมพ์เส้นนูน พระบรมสาทิสลักษณ์ ตัวอักษรและตัวเลขแจ้งราคา เมื่อสัมผัสด้วยปลายนิ้วจะรู้สึกสะดุด, ตัวเลขแฝง ซึ่งอยู่ในลายไทย มองเห็นได้เมื่อยกธนบัตรเอียงเข้าหาแสงสว่าง โดยมองจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลางธนบัตร, ภาพซ้อนทับพิมพ์แยกส่วนไว้บนด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อยกส่องกับแสงจะมองเห็นภาพสวยงาม
โดยแบงก์พันจะเป็นรูปดอกบัว แบงก์ 500 เป็นรูปดอกพุดตาล, แถบฟอยล์สีเงินมองเห็นเป็นหลายมิติ และสะท้อนแสงเมื่อพลิกไปมา และหมึกพิมพ์พิเศษ ตัวเลข 1000 จะมองเห็น ด้านบนสีทอง ด้านล่างสีเขียว เมื่อพลิกขอบล่างขึ้นจะเห็นเป็นสีเขียวทั้งหมด ส่วนแบงก์ 500 ตัวเลข 500 จะมองเห็นตัวเลขสีเขียว เมื่อพลิกขอบล่างจะมองเห็นเป็นสีม่วง นอกจากนี้ ยังมีวิธีนำบริเวณลอยนูนของแบงก์ เช่น คำว่ารัฐบาลไทย ถูกับกระดาษสีขาว ของจริงจะปรากฏสีให้เห็น
จึงขอเตือนประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการ ขอให้สังเกตทุกครั้งที่มีการรับเงิน โดยผู้ที่กระทำการปลอมธนบัตร จะมีโทษสูงสุดคือ จำคุกตลอดชีวิต และปรับสูงสุด 40,000 บาท ส่วนผู้ที่นำธนบัตรปลอมออกมาใช้ หรือพยายามใช้ มีโทษจำคุกสูงสูด 15 ปี และปรับสูงสุด 30,000 บาท
ส่วนที่จังหวัดน่าน พบแบงก์พันปลอมเริ่มระบาดแล้วโดยนางนิม กันภัย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.3 บ้านวังทอง ต.พระพุทธบาท อ.เชียงกลาง จ.น่าน ได้นำเงินจำนวน 4,500 บาท มาชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาน่าน แล้วได้รับแจ้งจากพนักงานธนาคารว่า มีธนบัตรใบละ 1,000 บาท ปลอมจำนวน 1 ใบ ซึ่งจากการสอบถามนางนิม ทราบว่าธนบัตรดังกล่าวได้จากการขายวัวเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา และเก็บรวบรวมไว้เพื่อนำมาชำระหนี้ที่ธนาคาร โดยตนเองไม่ทราบว่าธนบัตรที่ได้รับเป็นของปลอม ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจอำเภอเมืองน่าน ได้เร่งสืบสวนหาแหล่งต้นตอการแพร่ระบาดของแบงค์ปลอมแล้ว
นายอัครเดช ปริญญานิลกุล ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาน่าน เปิดเผยว่า ธนบัตรปลอมที่พบล่าสุดนี้ มีลักษณะที่ต่างไปจากของจริงอย่างมาก สามารถเห็นได้ชัดว่าเป็นของปลอม อย่างไรก็ตาม ได้สั่งกำชับให้พนักงานธนาคารเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบธนบัตรให้มากยิ่งขึ้น ในกรณีที่ธนบัตรมีจำนวนมากและต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนาน ก็ขอให้ทำความเข้าใจกับลูกค้าที่มาใช้บริการ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ถึงวิธีตรวจสอบธนบัตรด้วยตนเองให้กับลูกค้าและประชาชนด้วย
