xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์พันปลอมสะเทือน ศก.“เหนือ-อีสาน” ระบาดหนัก ธนาคารนัดถกด่วน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แบงก์พันปลอมระบาดบานปลาย หวั่นลามเศรษฐกิจพัง สมาคมแบงก์นัดถกด่วนรับมือ เตรียมประสาน ธปท.-ตำรวจ แกะรอยมือดีป่วน หลังพบเบาะแสภาคเหนือ-อีสาน ระบาดหนัก “ธ.กรุงเทพ” เข้มพนักงานสาขาตรวจละเอียดยิบ

นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงกรณีที่มีธนบัตรปลอมแพร่สะพัดในตลาด โดยยอมรับว่า ตอนนี้กำลังลุกลามเป็นวงมากขึ้น จนส่งผลกระทบกลายเป็นปัญหาความไม่เชื่อถือ และไม่ยอมรับธนบัตรไปแล้ว ทำให้การทำงานของธนาคารมีความยากลำบากขึ้น สมาคมธนาคารฯ มีความเป็นห่วงมากในเรื่องนี้ และเกรงว่า จะเกิดปัญหาหนักขึ้นในช่วงปีใหม่ จึงได้เรียกประชุมสมาชิกธนาคารพาณิชย์ เพื่อหาทางป้องกันปัญหา โดยจะขอความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยด้วย

นอกจากนี้ สมาคมยังได้รับรายงานจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ซึ่งได้ตรวจพบว่า เริ่มมีคนที่ใช้พฤติกรรมการนำธนบัตรปลอมมาสอดแทรกเข้ามาในเครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติ แล้วมาถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มเอาธนบัตรจริงไป ซึ่งปัญหาดังกล่าวใหญ่เกินกว่าที่สมาคม จึงต้องใช้ความร่วมมือจากหลายฝ่ายช่วยตรวจสอบ และสอดส่องดูแล

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนวิธีดูธนบัตรปลอมให้กับเจ้าหน้าที่ตามสาขาทุกแห่งเพิ่มขึ้น เนื่องจากจุดเดิมที่เคยสังเกตได้ชัด ได้แก่ ฟอยล์สีน้ำเงิน และเนื้อกระดาษ การปลอมแปลงในขณะนี้ทำได้เหมือนมาก จึงให้สังเกตที่หมึกพิมพ์ มีความนูนเป็นพิเศษ และลายน้ำมีความโปร่งใส รวมทั้งเลขที่ซ่อนเมื่อพลิกเอียงธนบัตร พร้อมกับมีการตรวจสอบเครื่องคัดนับธนบัตรทุกวัน เพื่อให้มั่นใจว่าเงินที่ออกจากธนาคารไปจะเป็นธนบัตรจริงทั้งหมด

ทั้งนี้ ธนาคารยืนยันว่า ธนบัตรปลอมจะไม่สามารถผ่านเครื่องเบิกจ่ายเงินอัตโนมัติ (ATM) ได้ เพราะจะมีการตรวจสอบและระบบตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ธนบัตรที่หลุดเข้ามาอาจจะเกิดจากธนาคารบางสาขาที่ใช้เจ้าหน้าที่นับเงินด้วยมือโดยไม่ผ่านเครื่องคัดนับธนบัตรอีกรอบก่อนนำบรรจุ ATM

ด้านห้างค้าปลีกขนาดใหญ่หลายแห่ง ยอมรับว่า พบธนบัตรปลอมเข้ามาซื้อสินค้าในหลายสาขา โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ทางห้างซึ่งได้รับการอบรมการตรวจธนบัตรจาก ธปท.ทุก 3 เดือน มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบเบื้องต้น หากมีข้อสงสัยจะนำไปตรวจกับเครื่องตรวจนับธนบัตรอีกครั้งหนึ่ง โดยหากพบก็จะขอเปลี่ยนธนบัตรจากลูกค้าทันที แต่ยืนยันว่าไม่ได้ปฏิเสธการซื้อสินค้าด้วยธนบัตรใบละ 1,000 บาท

ขณะที่ด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง ก็มีการเฝ้าระวังธนบัตรปลอม โดยได้จัดอบรมพนักงานทุกคนดูแลความแตกต่างของธนบัตรจริง กับธนบัตรปลอม พร้อมกับมีการติดตั้งเครื่องดูลายน้ำประจำตู้เก็บเงินทุกสาขาด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่มีการปฏิเสธรับธนบัตรใบละ 1,000 บาท

ทางด้านพ่อค้าแม่ค้าก็มีความกังวลมากขึ้นในการรับธนบัตรใบละ 1,000 บาท จากลูกค้า

**เร่งสอบต้นตอพบ “เหนือ-อีสาน” ระบาดหนัก

มีรายงานว่า ธนบัตรปลอมกำลังแพร่สะพัดหนักในภาคอีสาน โดยเฉพาะตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค บริเวณด่านพรมแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เนื่องจากพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรที่ค้าขายอยู่ในตลาดโรงเกลือประมาณ 90% ที่มีจำนวนกว่า 5,000 คน ต่างปฏิเสธที่จะรับธนบัตรฉบับ 1,000 โดยอ้างว่า ไม่มีเงินทอน และหากลูกค้าจะซื้อต้องไปแลกก่อน ทำให้เกิดการโต้เถียงกันหลายร้าน จนกระทั่งนักท่องเที่ยวบางรายต้องเดินทางไปแลกเงินจากธนาคาร

ทั้งนี้ ผลกระทบจากความวุ่นวายกับการไม่รับธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ของแม่ค้าชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ได้มีพ่อค้าชาวไทยหัวใสตั้งโต๊ะรับแลกเงิน โดยจะคิดค่าบริการหัก 20 บาท ต่อการแลกเงิน 1,000 บาท และจะรับแลกจากแม่ค้าชาวเขมรเท่านั้น ทำให้แม่ค้าชาวเขมรบางรายต้องยอมเสียค่าแลกเงิน เพราะต้องการขายสินค้า

พ.ต.ท.สาคู จั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกอำนวยความสะดวก และดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในตลาดโรงเกลือ โดยมีการเข้มงวดในการตรวจตราและประชาสัมพันธ์เตือนให้พ่อค้า แม่ค้า และนักท่องเที่ยวตรวจสอบธนบัตรก่อนเพื่อเป็นการป้องกัน เนื่องจากในช่วงวันหยุดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในตลาดโรงเกลือเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ผู้ค้าย่านนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน ประกาศไม่รับธนบัตรใบละ 1,000 บาท จากลูกค้า หลังพบว่ามีธนบัตรชนิดดังกล่าวระบาดหนักในพื้นที่ และมีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจแล้วเนื่องจาก 2สัปดาห์ที่ผ่านมาเสียเงินไปแล้วกว่า 2 หมื่นบาท

นางจุลัย มีวัตณะ แม่ค้าร้านอาหารและขายของชำ ย่านนิคมอุตสาหกรรม กล่าวว่า เฉพาะเช้าวันนี้เจอธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท ถึง 5 ราย โดย 2 รายแรก มาซื้อบุหรี่ซองละ 50 บาท และมาขอแลกธนบัตร 500 บาท 2 ใบ

ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าจ่ายค่าอาหารหลังรับประทานเสร็จ และเมื่อสัปดาห์ก่อนพบธนบัตรปลอมมาแล้ว 15 ราย สูญเงินไปกว่า 20,000 บาท นอกจากนี้ ผู้ค้าในย่านใกล้กันยังประสบปัญหาธนบัตรปลอม จึงต้องรวมตัวกันปฏิเสธการชำระสินค้าด้วยธนบัตรใบละ 1,000 บาท เพราะเชื่อว่าใกล้เทศกาลปีใหม่ จะมีธนบัตรปลอมระบาดมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น