xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นอสังหาริมทรัพย์คึกคัก รับมาตรการกระตุ้นภาครัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คึกคัก รับอานิสงส์มาตรการหักลดหย่อนภาษีของรัฐบาลเพิ่มจากปีละ 1 แสนเป็นมากกว่า 2 แสนบาท ราคาหุ้นบวกกันถ้วนหน้านำโดย “ควอลิตี้เฮ้าส์” เพิ่ม 5.43% มูลค่าติดอันดับสองเกือบ 240 ล้านบาท ด้านบล.บัวหลวง คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าอยู่ที่ระดับ 350-470 จุด ก่อนจะใช้เวลาฟื้นตัวอีก 2-3 ปี พร้อมแนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและอาหารในช่วงครึ่งปีแรก

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (25 ธ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆ สลับแดนบวก-ลบ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่มีเข้ามาค่อนเข้าเบาบาง จากตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งหยุดในเทศกาลวันคริสต์มาส แต่ในช่วงบ่ายได้มีแรงซื้อเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้แรงบวกจากมาตรการกระธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล

โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 439.64 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ระดับสูงสุดของวันที่ 444.64 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด หรือคิดเป็น 1.25% มูลค่าการซื้อขายรวม 5,297.62 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ราคาปิดที่ 1.84 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.19 บาท หรือ 11.52% มูลค่าการซื้อขายรวม 437.41 ล้านบาท บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ราคาปิด 0.97 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.05 บาท หรือ 5.43% มูลค่าการซื้อขาย 238.41 ล้านบาท และบมจ.สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล (SIAM) ราคาปิด 1.97 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.02 บาท หรือ 1.03% มูลค่าการซื้อขายรวม 221.02 ล้านบาท

นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯวานนี้ (24ธ.ค.) ยังคงเงียบเหงา และมีแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ภายหลังรัฐบาลขยายวงเงินการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมในส่วนของดอกเบี้ยจากสินเชื่อการซื้อที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ปัจจัยต่างประเทศไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นวันหยุดทำการของตลาดหุ้นต่างประเทศบางแห่ง ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่หดตัว จึงส่งผลให้นักลงทุนชะลอการ
ทุนและคาดว่าจะเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี

ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าเบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงใกล้วันหยุดยาวสิ้นปี บวกกับไม่มีปัจจัยมากระตุ้นการลงทุน แต่ควรจับตาทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศ และราคาน้ำมัน ดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับอานิสงส์จการขยายวงเงินลดหย่อนภาษีของรัฐบาล ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 435 จุด
และแนวต้านที่ 450-455 จุด

ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กล่าวว่าวานนี้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะนักลงทุนมองว่าใกล้เข้าสู่ช่วงวันหยุดสิ้นปี และมีการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้หลังทราบข่าวการขยายวงเงินลดหย่อนของภาครัฐ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้รับนโยบายการเพิ่มให้ลดหย่อนภาษีในส่วนของดอกเบี้ยของสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัย และควรจับตาแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมีแนวรับอยู่ที่ 438 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 450 จุด แนะผู้ลงทุนควรเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กและกลางที่ได้รับผลดีจากนโยบายของรัฐบาล

บัวหลวง คาดศก.ปี 52 ครึ่งหลังฟื้นตัว

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางที่ดีขึ้น หลังการเมืองเริ่มคลี่คลาย และราคาน้ำมันทรงตัว แต่นักลงทุนต่างประเทศจะยังไม่กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น โดยประเมินดัชนีต่ำสุดไว้ที่ 350 จุด สูงสุด 579 จุด และทั้งปีจะเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 350-470 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นจะเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี

ทั้งนี้ จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอจะส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่หันไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าแทนในช่วงตลาดหุ้นผันผวน ขณะเดียวกันอาจจะมีการโยกไปลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับตั้งแต่ A- ขึ้นไปในช่วงปลายไตรมาส 1/52 – 2/52

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไตรมาส 1/52 นักลงทุนควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนดังนี้ คือ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 10% พันธบัตรและหุ้นกู้ 34% ทองคำ 19% หุ้น 19% คอมมูนิตี้ 8% และถือเงินสดไว้ 8%

ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ยังน่าสนใจนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงครึ่งปีแรก ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น บมจ.ผลิตไฟฟฟ้า (EGCO) ที่ให้ผลตอบแทนถึง 8-9% ของกำไรสุทธิ และกลุ่มอาหาร บมจ. ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) ส่วนครึ่งปีหลัง ลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) รวมถึงกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และธนาคารพาณิชย์ ที่จะได้รับอานิสงส์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น