xs
xsm
sm
md
lg

ฝันของแอ๊ดบาวและราคาของมาร์ค

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ก่อนจะเข้าเรื่องอื่น ในฐานะมีส่วนรับผิดชอบเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอชี้แจงนะครับว่า เวทีพันธมิตรฯ ไม่เคยมีความคิดจะเชิญแอ๊ด คาราบาวมาขึ้นเวทีเลย เหตุผลง่ายๆ คือ แอ๊ดไม่มีอุดมการณ์

ทีมงานถึงกับตั้งคำถามกันไว้ล่วงหน้าว่า สมมติถ้าแอ๊ดติดต่อมาจะทำได้อย่างไร คำตอบตั้งแต่วันแรกคือ ไม่ให้ขึ้นครับ

ที่ผมต้องชี้แจงเช่นนี้ เพราะแอ๊ดออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ของเขาเป็นนัยว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะแอ๊ดไม่มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งไม่เป็นความจริง ส่วนแอ๊ดจะสนับสนุนใคร หรือใครฝันจะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่อย่าลืมว่า ถ้าเรามีสิทธิฝันคนอื่นก็มีสิทธิฝันเหมือนกัน

อย่างผมก็ย่อมจะมีสิทธิคิดฝันว่า ไม่อยากให้ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ผมก็ควรจะมีสิทธิที่จะบอกกล่าวคนที่เคารพนับถือกันว่า อย่าไปเลือกคนคนนั้น

ผมไม่ตั้งใจเขียนถึงเรื่องข้างบนนั้นนะครับ เพราะไม่ได้ใส่ใจ และไม่ได้ให้ราคานัก ไม่เคยเฉียดเข้าไปใกล้เวทีคอนเสิร์ตแอ๊ดเพราะกลัวจะถูกลูกหลงหัวร้างข้างแตก ที่สำคัญแอ๊ดคงไม่สามารถเรียกคะแนนคนกรุงเทพฯ ได้สักกี่สิบคะแนนหรอก ไม่เช่นนั้นอาจารย์แก้วของผมคงไม่ต้องวิ่งไปพึ่งชัช เตาปูนอีกทาง

วันนี้ผมต้องการเขียนถึงนายกรัฐมนตรีของผม คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสียมากกว่า

เพราะวันก่อนผมเข้าไปในเว็บไซต์ของคุณอภิสิทธิ์ เข้าไปอ่าน คอลัมน์ “คุยกับอภิสิทธิ์” มีผู้ใช้ชื่อว่า “ไบร์ท” ตั้งคำถามถึงคุณอภิสิทธิ์ 4 ข้อดังนี้

1. จะทำอย่างไรถ้านายชัย ชิดชอบ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพราะพรรคประชาธิปัตย์เคยขุดคุ้ยเรื่องโกงที่ดินการรถไฟฯ ขึ้นมาอภิปรายในสภาฯ

2. หาก ครม.ประกอบด้วยคนที่เคยเป็น รมต.สมัยมีมติเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร แล้ววันข้างหน้าถูกศาลสั่งอีก ความสง่างามจะไม่มี

3. จะทำอย่างไรกับ NBT ที่มีนักการเมืองใหญ่ จ.บุรีรัมย์ อยู่เบื้องหลังการสัมปทาน

4. ยังจะเอาพยาบาลที่ไม่รู้เรื่องมาเป็น รมต.คลัง หรือไม่

คำตอบสั้นๆ ของคุณอภิสิทธิ์ในเว็บไซต์ คือ “ขอบคุณสำหรับข้อคิดที่ดีจะพยายามแก้ไขต่อไปครับ”

และสิ่งแรกที่ผมได้เห็นทันทีสำหรับคำถาม คำตอบ และการปฏิบัติของคุณอภิสิทธิ์ก็คือ พยาบาลคนดังกล่าวไม่ได้นั่งเป็น รมช.คลัง แต่ได้รับการแต่งตั้งจากคุณอภิสิทธิ์ให้เป็นรมว.ไอซีทีแทน

เราต้องติดตามดูต่อไปว่า คุณอภิสิทธิ์และคุณพยาบาล จะจัดการอย่างไรกับเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งคุณอภิสิทธิ์เคยตั้งกระทู้ถามรัฐบาลนายสมชายด้วยตัวเองมาแล้ว

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่คุณ “ไบร์ท” ถาม และคุณอภิสิทธิ์ยังไม่ได้ตอบ เพื่อทบทวนความจำผมได้ไปค้นคว้ามาว่า พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์เองเคยมีความเห็นต่อเรื่องเหล่านั้น ตอนที่ยังเป็นฝ่ายค้านอย่างไร

- กรณีที่ดินการรถไฟฯ ของตระกูลชิดชอบ คณะทำงานตรวจสอบการทุจริตของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยออกมาเรียกร้องเดิมทีขอให้รัฐบาลพรรคพลังประชาชนดำเนินคดีกับผู้มีส่วนในการกระทำผิดฮุบที่หลวงและออกโฉนดโดยมิชอบ รวมถึงการนำที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวนั้นไปเป็นหลักทรัพย์ในการจำนองธนาคาร ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

โฉนดเลขที่ 3466 ต.อีสาน อ.เมือง บุรีรัมย์ เนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 55.8 ตร.วา ออกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2515 ให้แก่นายชัย ชิดชอบ และได้ขายให้บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2535 และที่ดินโฉนดเลขที่ 8564 ต.อีสาน อ.เมือง บุรีรัมย์ เนื้อที่ 37 ไร่ 1 งาน 65 ตร.วา ออกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2518 ปัจจุบัน นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยาของนายเนวิน ชิดชอบ เป็นผู้ถือครอง

ที่ดังกล่าวนั้นเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามมาตรา 3 (2) และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 จึงขอให้กรมที่ดินทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในโฉนดที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว

- กรณีเขาพระวิหาร คุณอภิสิทธิ์เคยเรียกร้องนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล หันมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ จากการที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยเฉพาะกรณีแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา กรณีสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ที่นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงนามโดยความเห็นชอบของรัฐบาลไทย รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการให้ทั่วโลกยอมรับว่า แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวใช้ไม่ได้

คุณอภิสิทธิ์ กล่าวตอนนั้นว่า รัฐบาลจะต้องเร่งหาทางออกกรณีที่กัมพูชาจะต้องส่งแผนที่ที่จัดทำขึ้นฝ่ายเดียวไปให้คณะกรรมการมรดกโลกภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552

- กรณี NBT พรรคประชาธิปัตย์เคยยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อขอให้สอบสวนความไม่โปร่งใสการทำสัญญากับบริษัท ดิจิตอล มีเดีย ให้ผลิตรายการข่าววันละ 9 ชั่วโมงครึ่ง แลกกับการขายโฆษณา ชั่วโมงละ 7 นาทีโดยจ่ายผลตอบแทนให้ช่อง 11 ปีละ 40 ล้านบาทนั้นน่าจะทำให้รัฐเสียประโยชน์

สัญญาดังกล่าวนั้น นอกจากรัฐเสียประโยชน์แล้ว กรมประชาสัมพันธ์ยังยอมให้ดิจิตอล มีเดีย ใช้เครื่องไม้เครื่องมือของช่อง 11 ทั้งหมด ไม่ต้องลงทุนเองแม้แต่บาทเดียว

นอกจาก 3 เรื่องดังกล่าว ผมยังอยากจะฝากความเรื่องเก่าๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยตรวจสอบไว้ในสมัยที่เป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาลเงาว่า เพื่อให้ประชาชนช่วยกันจับตาและเป็นสิ่งเตือนใจรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์ด้วย

1. โครงการจ้างบริการรถเข็นสัมภาระในสนามบินสุวรรณภูมิเป็นโครงการประมูลด้วยวิธีพิเศษงบประมาณ 534 ล้านบาท ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยตรวจสอบพบว่ามีมูลและมีเหตุเชื่อได้ว่ามีการทุจริตผิดกฎหมายในการประมูลดังกล่าว โครงการดังกล่าวทำให้รัฐเสียหายไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท

2. กรณีการเช่ารถปรับอากาศ 4,000 คันก็ตาม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยระบุว่า มีนัยแอบแฝง และมีการทุจริต เนื่องจากทราบว่ามีการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับผู้ได้รับผลประโยชน์ ตั้งแต่ระดับสูง ระดับกลาง ระดับล่าง ในราคาคันละ 1 ล้านบาท

3. กรณีโครงการฉาว “กล้ายาง-เซ็นทรัลแล็บ” คณะทำงานติดตามตรวจสอบโครงการจัดซื้อกล้ายาง และโครงการจัดซื้อเซ็นทรัลแล็บของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบพบความผิดปกติพบว่า โครงการนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเกษตรประมูลกล้ายาง 90 ล้านต้น เป็นการเสนอให้ผลประโยชน์อย่างชัดเจน ทั้งที่กล้ายางจำนวนมหาศาลขนาดนี้ไม่มีบริษัทที่มีประสบการณ์ทำได้ แต่กลับให้บริษัทนี้ทำ ทั้งที่มีหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ ทำได้อยู่แล้ว

ราคาของรัฐบาลอภิสิทธิ์จะดีหรือไม่ คงไม่ได้อยู่ที่หน้าตา แต่ต้องพิสูจน์ที่ผลงาน

และผมเชื่อว่า พันธมิตรฯ คงไม่ปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ลอยนวล หากรัฐบาลดำเนินนโยบายที่ไม่ถูกต้อง และไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น