xs
xsm
sm
md
lg

ปปช.เร่งสอบ7ตุลาเลือด คาดสั่งเชือด4ผู้บงการกลางม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส่งสำนวนเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ส่งมาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ว่า เรื่องนี้คณะกรรมการสิทธิฯส่งสำนวนมาให้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 ธ.ค. แล้ว ซึ่งทางป.ป.ช. ก็รับสำนวนไว้
ในสำนวนจะมีรายงานที่คณะกรรมการสิทธิฯ สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 99 ปาก ซึ่งการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิฯแม้ว่าจะเป็นการตรวจสอบในเชิงละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีหลักฐานต่างๆ ที่จะเอาผิดผู้อยู่เบื้องหลังของการสลายการชุมนุม แต่ไม่ได้ตรวจสอบเอาผิดใครอย่างชัดเจน แต่เมื่อสำนวนส่งมาถึง ป.ป.ช. เราจะต้องนำข้อมูลของคณะกรรมการสิทธิฯ มารวบรวมกับของ ป.ป.ช. ที่ทำไว้แล้ว คาดว่ากลางเดือนมกราคมนี้ จะทราบว่าเอาผิดใครได้
"คณะกรรมการสิทธิฯมีหลักฐานจาก ซีดี วีซีดี เป็นจำนวนมากได้มาจากภาคเอกชนที่ถ่ายทำไว้ดีมาก ซึ่งจะถ่ายทุกขั้นตอน ตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางมาปิดล้อมบริเวณหน้ารัฐสภา จนถึงช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุม ซึ่งทำให้เป็นประโยชน์ต่อผลการสอบของ ป.ป.ช..เป็นอย่างมาก" นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวอีกว่า เมื่อ ป.ป.ช.รับสำนวนมาแล้ว ก็จะต้องดูรายชื่อผู้ที่ คณะกรรมการสิทธิฯ ชี้มูลเข้าข่ายความผิด 4 คนแรก ที่สั่งการสลายการชุมนุมก่อน ว่าจะขยายผลได้หรือไม่ และจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายว่าผิด จะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงข้อกล่าวหาก่อน แต่หากเห็นว่ามีความผิดจริง ป.ป.ช.ก็จะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่นั้นต้องดูสำนวนก่อน แต่คาดว่าจะสอบผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิฯ ได้สรุปผลการสอบสวน และได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังและอาวุธ แก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชนที่ชุมนุมอยู่ที่บริเวณถนนราชวิถี และถนนอู่ทองใน รอบๆรัฐสภา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. เวลาประมาณ 6 นาฬิกาเศษ รวมทั้งการสลายฝูงชนบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณถนน ศรีอยุธยา ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในช่วงบ่าย และเย็นตามลำดับ จนเป็นเหตุให้มีประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บสาหัส นอกจากนั้นยังมีประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมเสียชีวิตด้วย
คณะกรรมการสิทธิฯ จึงมีความเห็นว่า การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการใช้กำลังและระเบิดแก๊สน้ำตาที่ส่วนใหญ่ผลิตจากประเทศจีน ซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงระดมยิงและขว้างใส่เป้าหมายประชาชน อีกทั้งเป็นการยิงและขว้างในระยะใกล้ รวมทั้งการลอบยิงระเบิดแก๊สน้ำตาออกมาจากภายในรัฐสภา และกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น เหล่านี้ เป็นการกระทำอันไม่เป็นไปตามหลักการสากลในการสลายการชุมนุม และการใช้แก๊สน้ำตา และทั้งเป็นการปฏิบัติการเกินความจำเป็น เข้าข่ายเป็นการกระทำละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน และ ละเมิดต่อกฎหมาย อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ได้รับอันตรายสาหัสฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 295 , 297, 288, 289 , 83
ทั้งนี้ยังระบุด้วยว่า บุคคลที่จะต้องรับผิดชอบต่อการสลายการชุมนุม จนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้สั่งการให้มีการสลายการชุมนุม และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบให้รับผิดชอบในการสลายการชุมนุมและสั่งการให้มีการสลายการชุมนุม รวมทั้งรัฐมนตรีที่ร่วมอยู่ด้วยในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อคืนวันที่ 6 ต.ค. แต่มิได้คัดค้านการใช้กำลังและระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม
สำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผูออกคำสั่ง ผู้ปฏิบัติการ และผู้ควบคุมกำลังหน่วยที่มีระเบิดแก๊สน้ำตา ได้แก่พล.ต.อ.พัชวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. , พล.พล.ต.ท.สุชาติเหมือนแก้ว ผบช.น. ,หน่วยกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และกองบังคับการปราบปราม
กำลังโหลดความคิดเห็น