ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เวลา 14.00 น. วานนี้ (21 พ.ย.) น.ส. รสนา โตสิตระกูล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติวุฒิสภา นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมมาธิการ(กมธ.)สิทธิมนุษยชน และศ.นพ.วิรัต์ พาณิชยพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมกล่องเอกสารหลักฐาน 1 ลังใหญ่อาทิ แผ่นวีดีทัศน์ เหตุการณ์ 7 ตุลาคม รายงานการพิจารณาการศึกษาและเอกสารประกอบการพิจารณาเหตุการณ์ ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สำเนาบัญชีรายชื่อ การจัดซื้อกระสุนก๊าซ และลูกระเบิดยิงแก๊สน้ำตาจากกรมพลาธิการและสรรพาวุธ รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ และสำเนากฎบัตรสหประชาชาติ เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวน ข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทำความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ตามมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญ กรณีสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551
นายสมชาย กล่าวว่า เอกสารที่นำมามอบให้ ป.ป.ช. ครั้งนี้ ประกอบด้วย วีดีทัศน์ฯ เทปสัมภาษณ์ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรีที่ตนได้สัมภาษณ์ เป็นการส่วนตัว เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมมนตรี
โดยมีหลักฐานว่ามติคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พล.อ.ชวลิต ได้รับมอบจากคณะรัฐมนตรี ให้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่อย่างไรก็ตามหลังประชุมร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.อ.ชวลิต ได้กลับไปพักผ่อน และมาทราบเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ช่วงเช้า เวลา 7.00 น. ของวันที่ 7 ต.ค. และได้โทรศัพท์ แจ้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เพื่อรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งและส่งหนังสือลาออกทางโทรสารตามมาภายหลัง ซึ่งถือว่าพ้นจากตำแหน่งแล้ว
นายสมชาย กล่าวต่อว่า เมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วงเย็น ประกอบกับการที่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แต่งตั้งใครให้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ ที่มีการสลายการชุมนุม ดังนั้นนายสมชายจึงต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์การสลาย การชุมนุมจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ตามมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญ
ด้านน.ส.รสนา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ ตามมาตรา 83 , 84 และ86 ของพ.ร.บ. ป.ป.ช. ที่ว่าผู้ใช้ ผู้สนับสนุน ผู้มีส่วนร่วม ถือว่ามีความผิดทางอาญา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มอบหมายให้ใครรับผิดชอบดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องเป้นผู้รับผิดชอบ และที่ผ่านมานายวิชา ได้แจ้งว่า มีผู้มายื่นเรื่องให้สอบสวนระดับผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังไม่มีใครมาร้องให้สอบสวนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
น.ส.รสนา กล่าวว่า กมธ.ทั้ง 3 คณะของวุฒิสภา ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญจากคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวของรัฐบาลที่มีนาย ปรีชา พานิชย์วงศ์ ไปให้ปากคำ แต่หากมีหนังสือมา กรรมาธิการพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลเช่นกัน
ขณะที่นายวิชา กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปจะให้เจ้าหน้าที่สรุปข้อมูลนำเสนอ ที่ประชุม ป.ป.ช.สัปดาห์หน้าและในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ป.ป.ช. ว่าจะมอบหมายให้ อนุกรรมการที่พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องพิจารณาหรือตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณา ใหม่ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้รับใหม่โดยเฉพาะคำสัมภาษณ์ของพล.อ.ชวลิต จะช่วยในการพิจารณาได้อย่างมาก
นายสมชาย กล่าวว่า เอกสารที่นำมามอบให้ ป.ป.ช. ครั้งนี้ ประกอบด้วย วีดีทัศน์ฯ เทปสัมภาษณ์ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรีที่ตนได้สัมภาษณ์ เป็นการส่วนตัว เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมมนตรี
โดยมีหลักฐานว่ามติคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พล.อ.ชวลิต ได้รับมอบจากคณะรัฐมนตรี ให้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่อย่างไรก็ตามหลังประชุมร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.อ.ชวลิต ได้กลับไปพักผ่อน และมาทราบเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ช่วงเช้า เวลา 7.00 น. ของวันที่ 7 ต.ค. และได้โทรศัพท์ แจ้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เพื่อรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งและส่งหนังสือลาออกทางโทรสารตามมาภายหลัง ซึ่งถือว่าพ้นจากตำแหน่งแล้ว
นายสมชาย กล่าวต่อว่า เมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วงเย็น ประกอบกับการที่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แต่งตั้งใครให้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ ที่มีการสลายการชุมนุม ดังนั้นนายสมชายจึงต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์การสลาย การชุมนุมจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ตามมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญ
ด้านน.ส.รสนา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ ตามมาตรา 83 , 84 และ86 ของพ.ร.บ. ป.ป.ช. ที่ว่าผู้ใช้ ผู้สนับสนุน ผู้มีส่วนร่วม ถือว่ามีความผิดทางอาญา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มอบหมายให้ใครรับผิดชอบดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องเป้นผู้รับผิดชอบ และที่ผ่านมานายวิชา ได้แจ้งว่า มีผู้มายื่นเรื่องให้สอบสวนระดับผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังไม่มีใครมาร้องให้สอบสวนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
น.ส.รสนา กล่าวว่า กมธ.ทั้ง 3 คณะของวุฒิสภา ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญจากคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวของรัฐบาลที่มีนาย ปรีชา พานิชย์วงศ์ ไปให้ปากคำ แต่หากมีหนังสือมา กรรมาธิการพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลเช่นกัน
ขณะที่นายวิชา กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปจะให้เจ้าหน้าที่สรุปข้อมูลนำเสนอ ที่ประชุม ป.ป.ช.สัปดาห์หน้าและในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ป.ป.ช. ว่าจะมอบหมายให้ อนุกรรมการที่พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องพิจารณาหรือตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณา ใหม่ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้รับใหม่โดยเฉพาะคำสัมภาษณ์ของพล.อ.ชวลิต จะช่วยในการพิจารณาได้อย่างมาก