xs
xsm
sm
md
lg

มอบครม.ของขวัญปีใหม่ ต่างชาติชม"มาร์ค"สุดยอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 08.15 น.วานนี้ (16ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยสีหน้าที่สดใส โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ต่อมานายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อชี้แจงขั้นตอนหลังได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฏรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยนายสุรชัย กล่าวว่า ตนมาเพื่อแนะนำชี้แจงขั้นตอนต่างๆ หลังได้รับการโปรดเกล้าฯนายกรัฐมนตรี การตั้งคณะรัฐมนตรี การเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ และการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา
สำหรับบรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ก็คึกคักตั้งแต่เช้า ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย และประชาชนจาก จ.พังงา ประมาณ 100 กว่าคน ที่เดินทางมาให้กำลังใจว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมทั้งกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า จากตลาดคลองเตย ประมาณ 200 คน เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมทั้งขอให้ช่วยเหลือกรณีที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกทำร้ายและไล่ที่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ก็รับปากว่าจะหาทางคลี่คลายปัญหาให้โดยเร็ว และจะพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก

**แท็กซี่วางหรีดต้านรัฐบาลปชป.
ต่อมาเวลา10.45 น. ได้มีกลุ่มแท็กซี่-หมอชิต ประมาณ 22 คัน นำโดย นายนิกร มาฆะสุข เลขาธิการกลุ่มแท็กซี่-หมอชิต และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รุ่น 2 นำรถมาจอดรวมตัวกันอยู่ริมถนนกำแพงเพชร 5 ที่เชื่อมต่อกับถนนเศรษฐศิริ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยแกนนำกลุ่มได้กล่าวปราศรัยโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ ว่าตั้งรัฐบาลมาด้วยวิธีการที่มิชอบ และเตรียมนำพวงหรีดที่มีข้อความว่า " จากชมรมศาลาแท็กซี่มิเตอร์ บขส.หมอชิต 2" เพื่อมาวางที่หน้าพรรคด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อย ตรึงกำลังอยู่ที่ปากถนนเศรษฐศิริ เพื่อปิดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว เข้ามาชุมนุมที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่แกนนำกลุ่มดังกล่าว ประกาศขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดทางให้ โดยจะเข้าไปวางพวงหรีด และบีบแตรประท้วง แล้วจากนั้นจะอ่านแถลงการณ์ "คัดค้านรัฐบาลหุ่นเชิด เผด็จการ พรรคประชาธิปัตย์ ขาดความชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล"
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก. น. 2 และพ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ได้เข้าไปเจรจากับกลุ่มแท็กซี่ และอุนญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่งตัวแทน 5 คน เข้ามาวางพวงหรีด และอ่านแถลงการณ์ได้ จากนั้นก็กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดไห้สลายตัวไปเมื่อ เวลา 11.30 น.

**"มาร์ค"ลุยพบนักธุรกิจ-เกษตรกร
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกำหนดการปฏิบัติหน้าที่ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ (17 ธ.ค.) ว่า เวลา 9.00 น. นายอภิสิทธิ์ จะเดินทางไปยังห้องประชุมสันนิบาตสหกรณ์การเกษตร พบผู้แทนเกษตรกร สมาคมต่างๆ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ
จากนั้นเวลา 11.30 น. เดินทางไปยังสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย พบผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อรับฟังผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก และการเมืองไทย
เวลา 14.00 น.ได้นัดพบกับกลุ่มสภาแรงงาน องค์กรนายจ้าง เพื่อฟังสถานการณ์การเลิกจ้างแรงงาน การเยียวยาผู้ว่างงาน ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์และในเวลา 15.30 น.จะเดินทางไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการสภาอุตสาหกรรม
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ของทุกภาคส่วนในประเทศไทย ทั้งนี้ที่มีการบอกกันว่า นายอภิสิทธิ์ จะไม่สามารถเดินทางไปภาคอีสานได้นั้น ขอวิงวอนและขอโอกาสให้กับนายอภิสิทธิ์ เพราะมีความตั้งใจจริงที่จะทำงาน
สำหรับการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในเดือนมี.ค. จะเลื่อนมาเป็นปลายเดือนม.ค. หรือย่างช้าไม่เกินต้นเดือนก.พ.
ส่วนแนวนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ เบื้องต้นได้มีการหารือพูดคุยกันแล้วระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการหยุดปีใหม่

**"อภิสิทธิ์-สุเทพ"ไม่นั่งควบ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการดำเนินการจัดโผ ครม.รัฐบาล "อภิสิทธิ์ 1" ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่หากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ ลงมาแล้ว ตนก็จะเดินหน้าจัดตั้งครม.โดยจะให้เสร็จภายใน 2-3 วัน หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ซึ่งสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้จะเหลืออยู่ 14-15 ที่นั่ง เมื่อได้โผรัฐมนตรีแล้วก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และส.ส.ในวันที่18 ธ.ค. ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า อาจมีการดึงโควตาของพรรคร่วมอื่น อย่างพรรคเพื่อแผ่นดิน คืนมาเฉลี่ยให้กลุ่มเพื่อนเนวิน เพราะเสียงที่โหวตไม่เป็นไปตามเป้า นายสุเทพ กล่าวว่า เพิ่งจะกอดกันเมื่อวานนี้ อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย และตนจะทำตามที่ได้เคยตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะให้เก้าอี้ในกระทรวงเดิมที่เคยดูแลอยู่ในรัฐบาลชุดก่อน จึงต้องรักษาคำพูด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ครม.ชุดนี้จะมีหน้าตาดี นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้นายกฯ ก็หน้าตาดูดี และตนก็มีหน้าตาที่พอจะไปยืนใกล้ๆได้ แม้หน้าตาบางคนจะไม่หล่อทุกคน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นส.ส. ส่วนคนนอกที่จะมาร่วมรัฐบาล เราจะคัดคนที่เห็นว่ามีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ดังนั้น ถ้าดูแล้วหน้าตาไม่เป็นที่พอใจเท่าไร ก็อย่าเพิ่งมาตำหนิกัน
ส่วนปัญหาเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เราจะให้ทุกพรรคเข้ามาทำงานร่วมกัน ในรูปของคณะกรรมการ และเรื่องทีมเศรษฐกิจนั้น นายอภิสิทธิ์ จะเป็นผู้ลงมาควบคุมด้วยตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์ ถึงไม่ควบกระทรวงอื่น
เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ จะไม่นั่งควบรมว.ศึกษาธิการ ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เท่าที่คุยกันไว้เป็นอย่างนั้น และจริงๆแล้วยังไม่มีใครที่ได้นั่งควบ ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายสุเทพ จะไม่นั่งควบตำแหน่งรองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ตามที่เป็นข่าว ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นผู้จัดการรัฐบาล ถ้าเอาเก้าอี้ไว้เองก็แย่ ไม่ได้เป็นการเสียสละอะไร แค่ทำงานจัดตั้งรัฐบาลก็เหนื่อยพอแล้ว
ส่วนจะมีคนใน คมช.เดิมเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ในใจขณะนี้ยังไม่มี ส่วนที่มีข่าวว่าคนคนนั้นคนนี้จะเข้ามา ก็ยังไม่ชัดเจน เป็นเพียงข่าวเท่านั้น แต่จะพยายามหาคนที่เป็นที่คาดหวังของประชาชนได้
เมื่อถามว่านายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ดูแลกระทรวงด้านเศรษฐกิจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายกรณ์ จะได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นตัววางอันดับหนึ่งในด้านเศรษฐกิจ

**ไม่บีบ"ชัย"-รองปธ.สภาออก
สำหรับตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯทั้งสอง ซึ่งไม่ใช่คนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ใช่ปัญหา เราต้องเคารพกันและกัน ซึ่งในอดีตที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล ก็เคยมีคนที่ไม่ใช่คนของพรรคที่ทำหน้าที่นี้ และเท่าที่ดูขณะนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้งสองอยู่ฝั่งตรงข้าม ควรจะแสดงมารยาททางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ ไม่ขอวิจารณ์ เราต้องเคารพการตัดสินใจของเขา สื่อจะเป็นคนตั้งคำถามเอง ปล่อยให้ตัดสินใจเอาเอง เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทย เตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ดีตนจะได้อภิปราย แต่อภิปรายในนามรัฐบาล เท่ดีออก

**โผครม.ยังวุ่นพรรคร่วมขอสลับเก้าอี้
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ของพรรคร่วมรัฐบาลว่า จนถึงขณะนี้ตำแหน่งต่างๆ ก็ยังไม่นิ่ง เนื่องจากบางพรรคต้องการขอสลับกระทรวง จากเดิมที่เคยตกลงกันไว้ เช่น กลุ่มกิจสังคม ของนายสุวิทย์ คุณกิตติ จะขอตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม หรือ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ขณะที่พรรคมัชฌิมาฯ จากเดิมที่เคยได้ 2 ที่นั่งคือ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับรมช.พาณิชย์ แต่ล่าสุดนายสุเทพ อาจจะขอเก้าอี้ รมว.ทรัพยากรฯ คืน เนื่องเสียงส.ส.ที่ลดลง แต่แกนนำพรรคมัชฌิมาฯ ต้องการจะขอตำแหน่งนี้ไว้ เพราะเกรงว่าจะถูกตรวจสอบเรื่องฝายแม้ว ส่วนกลุ่มเพื่อนเนวิน ก็เสนอขอเพิ่ม 1 เก้าอี้ คือ รมช.ศึกษาธิการ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ จนถึงขณะนี้จะได้โควตา 15 เก้าอี้ ซึ่งรวมถึงสัดส่วนคนนอกด้วย โดยยังคงยึดกระทรวงหลัก ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ศึกษาธิการ มหาดไทย กลาโหม พาณิชย์ สาธารณสุข แรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศ
แหล่งข่าวในพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ยังไม่ลงตัว แม้จะมีเกณฑ์การพิจารณาอยู่แล้ว คือแบ่งตามรายภาค โดยแต่ละภาคยังต้องพิจารณาความอาวุโส การเป็นที่ยอมรับ และมีผลงานที่ชัดเจนด้วย ซึ่งแต่ละภาคได้ส่งรายชื่อถึงมือ นายสุเทพ เรียบร้อยแล้ว โดยภาคใต้มี ส.ส.มากที่สุด 49 คน จะได้ 3 เก้าอี้ รองลงมาคือภาคกลาง 35 คน ได้ 2 เก้าอี้ กทม.27 คน ได้ 2 เก้าอี้ ภาคเหนือ 21 คน กับภาคอีสาน 14 คน ได้ภาคละ 1 เก้าอี้ แต่ภาคใต้ ดูจะเป็นปัญหามากทีสุด เนื่องจาก ส.ส. ที่มีความอาวุโสมีจำนวนมาก และยังว่างเว้นจากการเป็นรัฐมนตรีมานานร่วม 8 ปี จึงมีหลายคนจ่อคิวที่ควรจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี
"ท่านสุเทพ ได้ขอความร่วมมือกับสมาชิกพรรคว่า ขอให้จัดเก้าอี้ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลให้ลงตัวก่อน เพราะมีการขอสลับหลายตำแหน่ง จากนั้นจึงจะเอามาจัดให้คนในพรรค เพราะเห็นๆ กันว่ารัฐบาลชุดนี้เกิดจากพรรคร่วมหลายพรรค หลายกลุ่ม จึงยากต่อการควบคุมเสียงให้มีเสถียรภาพ ดังนั้น จึงจำต้องให้พรรคร่วมได้เก้าอี้จนเป็นที่พอใจ เพื่อซื้ออายุของรัฐบาล"

**กรณ์นั่งคลัง-ประวิตร กลาโหม
มีรายงานข่าวระบุว่า กระทรวงที่มีความชัดเจนแล้วคือ กระทรวงการคลัง มีนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคนั่งว่าการ ส่วนรมช.อีก 2 ตำแหน่ง จะเป็นโควตาคนนอก และของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งยังคงเป็นของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค
กระทรวงมหาดไทย มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่งว่าการ ส่วน รมช.คาดว่าเป็นนายถาวร เสนเนียม และรมช.อีก 1 เก้าอี้ เป็นของกลุ่มเพื่อนเนวิน
กระทรวงกลาโหม ลงตัวที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า เป็นของนายเกียรติ สิทธิอมร ส่วน รมช. เป็นโควตาของอดีตพรรคมัชฌิมาฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการตัดสินใจของ นางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ว่าจะย้ายจาก รมว.ทรัพยยากรฯ มารับ รมช.พาณิชย์ หรือไม่
**ไกรศักดิ์-กษิต ส่อวืดทั้งคู่
สำหรับกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีกระแสว่า นายไกรศักดิ์ ชุณหวัณ ส.ส.สัดส่วน หรือ นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูต จะเป็นคู่ชิงนั้น ซึ่งมีรายงานว่าขณะนี้พรรคต้องคิดหนัก เนื่องจากทั้งสองคนมีความใกล้ชิดกับพกลุ่มพันธมิตรฯ เกรงจะถูกโจมตีได้ว่าพรรคปูนบำเหน็จให้คนของพันธมิตรฯ จึงยังไม่มีข้อสรุป และอาจต้องหาคนนอกมานั่งเก้าอี้นี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คาดว่าเป็น คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส่วนกระทรวง ยุติธรรม คาดว่า เป็นของ นายวิทยา แก้วภราดัย ส่วน รมว.แรงงาน คาดว่านายไพทูรย์ แก้วทอง จะได้รับไป ส่วน รมว.สาธารณสุข คือนายเทิดพงษ์ ไชยนันท์ โดยมีนายธีระ สลักเพชร เป็น รมช.สาธารณสุข ส่วนนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดสวน แกนนำภาคอีสาน อยู่ระหว่างรอการตัดสินใจของอดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตย หากพรรคมัชฌิมาฯรับ รมช.พาณิชย์ นายวิฑูรย์ จะไปนั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ แต่หากยังอยู่ที่เดิม นายวิฑูรย์ จะถูกโยกไปนั่ง รมช.คมนาคม แทน

**"สาทิตย์"รมต.สำนักนายกฯ
สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ เดิมนายอภิสิทธิ์ จะนั่งควบ ว่าการศึกษาธิการ แต่ล่าสุดหลังจากที่ ต้องไปเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคได้จึงได้เสนอชื่อคนอื่นขึ้นมาแทน ขณะนี้มี2 รายชื่อ คือ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช กับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.สัดส่วน ส่วน รมช.ศึกษาฯ เป็นโควตาของกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ขอเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งที่น่าสนใจคือ ตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ที่เดิมนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค จะไปนั่งตำแหน่งนี้ แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้ปฏิเสธ โดยขอตำแหน่งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อประสานความร่วมมือกับนักธุรกิจในการให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาล
ขณะที่นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองเลขาธิการพรรค จะนั่งเป็นรองเลขาฯนายกฯ นายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย นั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เดิมมีการวางตัวให้นั่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อกำกับดูแลสำนักงบประมาณ หากไม่สามารถหาคนมาเป็นเลขาธิการนายกฯได้ ก็อาจจะต้องไปนั่งแทน
อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนของครม.นั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนยันว่าจะประกาศให้ทราบพร้อมกันในวันที่ 18 ธ.ค.นี้

**วอนคนอีสานให้โอกาสอภิสิทธิ์
นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะส.ส.สัดส่วนภาคอีสาน เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้(16 ธ.ค.) ที่หน้าบ้านของตน ที่จ.อุบลราชธานี มีกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 100 คน มาชุมนุมและทำลายป้ายพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ คิดว่าจะมีการชุมนุมโดเยสงบและเปิดเผยจึงได้ส่งให้ทีมงานนำตุ่มน้ำ และถังน้ำเย็นไปไว้คอยบริการ แต่ก็ถูกทุบทำลาย นอกจากนี้ป้ายและรั้วบ้านของตนก็ได้รับความเสียหาย ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจคอยควบคุมดูแล และกลุ่มคนเสื้อแดงยังได้ปราศรัยโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเผาโลงศพ 6 โลง โดยโลงแรกเขียนข้อความว่า รัฐบาลโจร โลงที่สองเป็นของนายอภิสิทธิ์ โลงสามเป็นของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โลงที่สี่ นายเนวิน ชิดชอบ โลงที่ห้า ของนายตุ่น จินตเวช โลงที่หก เป็นของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ทั้งนี้ตนได้สอบถามทีมงานว่า ทำไมถึงไม่มีการเผาโลงศพของตนเอง ได้รับคำตอบว่า กรณีของตน หากพรรคประชาธิปัตย์แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีจะมาเผาอีกรอบ พร้อมทั้งจะชุมนุมประท้วง
"แต่เรื่องนี้ขอบอกว่า พวกผมกับทีมงานไม่ได้หวั่นไหว เพราะรู้อยู่ว่า กระบวนการของคนเสื้อแดงที่มา เป็นการจัดตั้งโดย ส.ส.สอบตกคนหนึ่งที่เป็นคู่แข่งขันทางการเมืองในพื้นที่ พยายามที่จะมากดดันว่าไม่ให้เชียร์ ไม่ให้ชอบพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นขอเรียนไปยังพี่น้องชาวอุบลฯ และชาวอีสานว่า พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งโดยคนจังหวัดอุบลราชธานี และพี่น้องชาวอีสาน ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อฟอง สิทธิธรรม คุณพ่อเลียง ชัยการ หรือหลวงธนานุรักษ์ ก็เป็นคนร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นมรดกหรือสมบัติของคนอีสานเช่นกัน อยากเรียกร้องวิงวอนไปยังกลุ่มต่างๆ ที่ยังไม่เข้าใจว่าประชาธิปัตย์ เป็นพรรคของพวกเรา ถ้าบริหารประเทศ ก็จะมีพวกเราทุกภาคส่วน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจพยายามทำลายความน่าเชื่อถือว่า ถ้าประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะเดินทางไปภาคเหนือ ภาคอีสาน ไมได้ ทั้งนี้เชื่อว่าพี่น้องชาวอีสานเป็นคนดี มีน้ำใจและให้โอกาสคน และเคยให้โอกาส พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว ครั้งนี้เชื่อว่าคนอีสาน จะให้โอกาส นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ จะเดินทางไปยังภาคอีสานแน่นอน และจะได้รับการต้อนรับที่ดี" นายวิฑูรย์ กล่าว
**พรรคร่วมฯถกนโยบายรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคชาติไทยพัฒนา โดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง , พรรคเพื่อแผ่นดิน นำโดยนายไชยยศ จิระเมธากร พรรคร่วมใจไทยชาติพัฒนา, นำโดยนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค, พรรคภูมิใจไทย โดยนางพรทิวา นาคาสัย เลขธิการพรรค ,กลุ่มเพื่อนเนวิน นำโดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ และกลุ่มส.ส.เพื่อนสุวิทย์ โดยนายชยุต ภุมมะกาญจนะ รวมทั้งตัวแทนจากกฤษฏีกา นายอัชพร จารุจินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา มาร่วมหารือด้วย
โดยแต่ละพรรคได้นำนโยบายมาหารือกับคณะกรรมการนโยบาย และยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ สำหรับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายกอร์ปศักดิ์ สภาวะสุ และทีมงานด้านนโยบายของพรรค
ทั้งนี้จะใช้ร่างนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก โดยมีการนำนโยบายที่เหมาะสมของแต่ละพรรคมาประกอบกัน และปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

** มอบครม.ของขวัญปีใหม่ให้คนไทย
นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวว่า หลังวันที่ 19 ธ.ค.ไปแล้ว จะมีการเรียกประชุม ครม.ชุดใหม่เป็นนัดแรก เพื่อเตรียมวางกรอบการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ส่วนการประชุมวันนี้ มีการหารือถึงแนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุด โดยกำหนดการคร่าว ๆ คือหลังนายอภิสิทธิ์ ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว จะมีการนำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ฯ ขณะเดียวกันการดำเนินการร่างนโยบาย ก็จะให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ก่อนจะถึงปีใหม่เพื่อเป็นของขวัญแก่ประชาชน ที่จะมีรัฐบาลเข้าไปบริหารประเทศแก้ปัญหาให้ทุกอย่างเดินหน้าเต็มที่ คิดว่าในปีใหม่นี้ รัฐบาลจะเป็นของขวัญให้กับประชาชนคนไทยในการเข้าสู่ปีใหม่
นางพรทิวา นาคาศัย แกนนำ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ทางพรรคได้เสนอนโยบายเกี่ยวกับ เอสเอ็มแอล และกองทุนหมู่บ้าน และนโยบายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการว่างงาน เพื่อสอดรับกับวิกฤติในปีหน้า ที่จะมีคนตกงานเพิ่มขึ้น ซึ่งนโยบายทั้งหมด จะเกิดความสอดคล้องกัน ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ทราบว่าสัดส่วนโควตาของพรรคยังคงสัดส่วนเดิม คือ 2 เก้าอี้ แต่ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียดว่าจะเป็นกระทวงไหน
ขณะที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตแกนนำพรรคชาติไทย ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง กล่าวว่า มาร่วมรับฟังนโยบายของพรรคร่วมเท่านั้น พรรคชาติไทยไม่กล้าเสนอนโยบาย และหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกฯ ยังไม่มีโอกาสแสดงความยินดี จึงถือโอกาสนี้มาแสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ และให้กำลังใจบริหารประเทศต่อไป ตนในฐานะถูกตัดสิทธิทางการเมืองคงไม่สามารถชี้แนะ หรือให้ความเห็นอะไรได้
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจชาติพัฒนา กล่าวว่า ได้มีการหารือกันว่าการทำงานของรัฐบาลต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือเรื่องเร่งด่วน วันนี้เศรษฐกิจมีปัญหา ก็ต้องมาดูและรีบคุยกัน ส่วนใหญ่เห็นตรงกันหมดว่า อะไรที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้ดีแล้ว ก็จะทำต่อ ทั้งนี้ทางพรรคจะมีการตั้งกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องเศรษฐกิจ แม้แต่จะต่างพรรค ต่างกลุ่มกระทรวงก็ไม่มีปัญหา เพราะถ้ามีคณะกรรมการที่ทำงานร่วมกัน และถกปัญหาร่วมกันก็คงไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากเป็นไปในแนวทางเดียวกันอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุเทพ เคยบอกว่าพรรคไหนคุมกระทรวงไหน ก็ยังคงให้ดูกระทรวงนั้นอยู่จริงหรือไม่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เรื่องนี้แล้วแต่พรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหา และต้องการรัฐบาลที่มีความมั่นคง สิ่งสำคัญที่สุดคือความมั่นคงของรัฐบาล
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา อาจถูกลดโควตาเหลือเพียง 1 ตำแหน่งนั้น นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา ต้องปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ดำเนินการจัดสรร ว่าใครเหมาะสม ทำงานตรงไหน และเราไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้

**เพื่อนเนวินขอสานต่อประชานิยม
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพูดคุยหารือกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ถึงการร่างนโยบายที่จะใช้แถลงต่อรัฐสภาว่า จะมีการกำหนดการประชุมอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค. เวลา 14.00 น. ซึ่งทิศทางการประชุมครั้งนี้ ทางพรรรคประชาธิปัตย์รับฟังประเด็นที่กลุ่มเพื่อนเนวิน เสนอทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเสนอรายละเอียดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ได้นำเสนอ เป็นแนวทางหนึ่ง ซึ่งทางกลุ่มเห็นว่าควรมีการปรับปรุงแก้ไข ส่วนรายละเอียดประเด็นใด ไม่ได้ระบุ ที่สำคัญแก้รัฐธรรมนูญต้องอยู่บนพื้นฐานที่ประชาชนต้องยอมรับ และมีส่วนร่วมในการปรับปรุงแก้ไข ตนมองว่าวันที่ 19 ธ.ค. จะสามารถหาข้อสรุปอีกครั้ง ก่อนเขียนลงไปในประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งทางกลุ่มได้เสนอนโยบายไป 8 ประเด็น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการช่วยเหลือประชาชน ทั้งที่อยู่ต่างจังหวัด เกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน เชื่อว่าตรงใจประชาชน แต่ต้องปรับให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้คาดว่าร่างนโยนบายจะมีความชัดเจนในช่วงบ่ายวันศุกร์นี้ ส่วนจะแถลงนโยบายเมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นทั้ง 8 ที่กลุ่มเพื่อนเนวิน นำเสนอต่อที่ประชุมตัวแทนพรรคร่วม ได้แก่ 1. ขอให้บรรจุโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน หรือโครงการ S M L 2. ขอให้บรรจุและต่อยอดโครงการกองทุนหมู่บ้าน 3. ดำเนินการสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปให้ได้รับเบี้ยยังชีพ สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ให้ได้รับเบี้ยยังชีพทุกคน
4. จัดค่าตอบแทน และสวัสดิการแก่อาสารสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) 5. จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ต้องเป็นผู้ว่างงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตของประเทศเป็นระยะเวลา 1 ปี 6. ขอให้จัดการราคาสินค้าเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรโดยจัดให้มี ระบบประกันราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า ในกรณีที่ยังไม่สามารถประกันราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้าขอให้ปรับเปลี่ยนวิธีการแทรกแซงราคาผลผลิตเป็นให้การอุดหนุนปัจจัยการผลิตในรูปแบบเงินสด 7. จัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วม เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกฝ่าย และ 8. ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค และเป็นธรรมแก่ประชาชนทุกคน

**เชื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์อายุยาว
นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ในยามภาวะที่บ้านเมืองเป็นอยู่ขณะนี้ ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็มีปัญหา เพราะปัญหาสั่งสมมาตั้งแต่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะงักงัน การท่องเที่ยวแย่ ซึ่งเป็นภาระของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ต้องเร่งกอบกู้ เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้เร็วที่สุด ให้ต่างประเทศเห็นว่าปัญหาภายในประเทศไม่มีแล้ว รวมทั้งการประชุมอาเซียน ที่จะมีขึ้นจึงต้องอาศัยเวทีนี้ชี้แจงให้สมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ให้เข้าใจว่าบ้านเมืองเราเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีควรเร่งรัดเรียกประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.โดยเร็ว เพราะนายกฯ เป็นประธาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นของทั้งภาคธุรกิจ และราชการ ว่าเขามีความต้องการกันอย่างไร ภาครัฐรับได้หรือไม่ ควรรับฟัง และแก้ปัญหาทันที
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค หลายกลุ่ม จะทำให้เกิดความขัดแย้งในการตั้งครม. นายบรรหาร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคร่วมที่จะไปบริหารกันเอาเอง อย่างพรรคเพื่อแผ่นดิน ต้องไปหารือกันภายในเอง เพราะเขามีหลายขั้ว ส่วนพรรคอื่นมีไม่กี่ขั้ว ส่วนที่มองว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน จะทำให้เกิดปัญหาตั้งครม.ได้ยากนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะตรงนี้ถือเป็นที่สุดท้ายที่เขาจะอยู่ เพราะไปที่ไหนอีกไม่ได้แล้ว ดังนั้น ต้องทำให้ดีขึ้น เชื่อว่าเขาคงรู้ตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจัยทางการเมืองที่จะเป็นปัญหาต่อการบริหารของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เรื่องการเมืองนั้นนายกฯ ต้องดูทางพรรคฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลกันเองคงไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายค้านเขาต้องจับตาการทำงานของรัฐบาล หากทำไม่ดี คงถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์อาจจะมีอายุสั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่สั้นหรอก ยาวแน่ โดยเฉพาะผู้แทนฯ ต้องรู้จักทำหน้าที่ในสภา อย่าเดินทางไปดูงานในต่างประเทศมากนัก เพราะมีการประชุมสภานัดที่สำคัญก็ไม่ควรไปไหน และถ้าทุกคนรู้จักทำหน้าที่ ก็อาจจะอยู่ครบเทอม เพราะทุกคนต่างอยากอยู่ครบเทอมทั้งนั้น

**หนุน"ประดิษฐ์"นั่งหน.รวมใจไทยฯ
ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ รักษาการหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงกรณีการลาออกจากหัวหน้าพรรครวมใจไทยฯ ของพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ว่าคงไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรค ส่วนบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป ตนเห็นว่าควรเป็นสมาชิกพรรคเป็นหลัก ซึ่งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ก็เป็นบุคคลที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรคว่า จะพิจารณาอย่างไร แต่ตอนนี้พรรคยังไม่ได้ดำเนินการในเรื่องหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพราะต้องรอ กกต.รับรองก่อน เพราะเพิ่งเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไปไม่นานมานี้
ส่วนที่มีข่าวว่า ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินจะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้น ตนยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว และขอยืนยันว่า จะไม่มีการยุบพรรครวมใจไทยฯ ไปรวมกับพรรคอื่น
กรณีที่มีการมองว่ารัฐบาลใหม่อาจอยู่ได้ไม่นาน ร.ต.ประพาส กล่าวว่า ตนเห็นตรงข้าม ถ้ารัฐบาลนี้สามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ภายใน 3 เดือน ก็จะทำให้รัฐบาลมีความชอบธรรม ส่วนคะแนนเสียงมากน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่ต้องสร้างความหวังให้กับประชาชนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น ถ้าทำได้ประชาชนและองค์กรธุรกิจก็จะเชื่อมั่นรัฐบาล
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยถึงตำแหน่งในรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.ประพาส กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุย ต้องรอให้การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการก่อน แต่ถ้าพรรคได้บริหารงานในกระทรวงเดิม ก็เป็นเรื่องดี เพราะมีประสบการณ์อยู่แล้ว
ส่วนกรณี นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา ที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี สวนมติพรรคนั้นจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ติดต่อพูดคุย แต่เรื่องดังกล่าว ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่

**รมว.ต่างปท.มาเลเซียยินดีกับอภิสิทธิ์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย นายราอิส ยาติน แถลงในคืนวันจันทร์(15ธ.ค.) แสดงความยินดีที่สภาไทยเลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ก็บอกด้วยว่า ช่วง 2 สัปดาห์แรกที่นายอภิสิทธิ์ เข้ารับตำแหน่ง จะได้รับการจับตามองด้วยความสนใจยิ่ง
"เรารู้สึกยินดีที่ผลของเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้เกิดสิ่งที่เราคาดหมายเอาไว้ นั่นก็คือ การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่มีเสียงข้างมากอย่างชัดเจนยิ่ง" เอเอฟพีรายงานคำพูดของนายราอิส โดยอ้างตามข่าวของสำนักข่าวเบอร์นามา ของทางการมาเลเซีย
"เมื่อพิจารณาจากภูมิหลังของเขาแล้ว ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะมีไหวพริบปฏิภาณและความทรหดอดทนที่จะนำพาประเทศชาติ" นายราอิส แถลงจากกรุงจาการ์ตา ซึ่งเขาไปเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมอาเซียน
"อย่างไรก็ตาม นายราอิส ก็พูดในทำนองเดียวกับนักวิจารณ์การเมืองจำนวนมากที่บอกว่า นายอภิสิทธิ์ จะต้องเผชิญงานสุดหินในการทำให้วิกฤตการเมืองของประเทศไทยสงบลงไป และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ถูกกระหน่ำอย่างแรงจากความปั่นป่วนวุ่นวายที่ดำเนินมาหลายเดือน
"ก็เหมือนกับในกรณีอื่นๆทั้งหลาย บางทีช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้านี้น่าจะได้รับการจับตามองด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือควรต้องบอกว่า จะเป็นการดีกว่าสำหรับเราที่จะรอคอยการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป" เขาบอก

**เวียดนามก็แสดงความชื่นชมอภิสิทธิ์
ทางด้านเวียดนาม ได้ออกมาเร็วด่วนจี๋ ทันการณ์แสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันจันทร์ (15ธ.ค.) ที่ผ่านมา โดยนายเลซวุง (Le Dung) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ได้แสดงความชื่นชมยินดีผู้นำรัฐบาลคนใหม่ของไทย ที่ได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎร และนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันเดียวกัน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม ยังแสดงความหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่ของไทยจะสามารถสร้างเสถียรภาพขึ้นในประเทศโดยเร็ว และมุ่งสู่การพัฒนาชาติประเทศ
"เวียดนามปรารถนาจะสืบต่อปฏิบัติงานกับประเทศไทยต่อไป เพื่อส่งเสริมมิตรภาพและความสัมพันธ์รอบด้าน ระหว่างสองประเทศ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนสองฝ่ายและเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการะพัฒนาในภูมิภาคและในโลก" สำนักข่าววีเอ็นเอ ของทางการอ้างคำพูดของโฆษกเวียดนาม

**นายกเล็กลอนดอนชม"เพื่อนมาร์ค"
นายบอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน แถลงวานนี้ (16ธ.ค.) แสดงความปรารถนาดีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ พร้อมกับพูดถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย ซึ่งเป็นเพื่อนนักศึกษา เรียนที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดด้วยกันว่า เป็นคนซื่อสัตย์ และฉลาดหลักแหลม ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
เอเอฟพีบอกว่า นายจอห์นสัน ซึ่งเป็นนักการเมืองอังกฤษที่มีสีสันฉูดฉาดมาก และมีอายุ 44 ปีเช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ พูดถึงนายอภิสิทธิ์ที่เพื่อนๆ ในอังกฤษเรียกกันว่า "มาร์ค" ว่า "มาร์คเป็นคนที่ซื่อสัตย์ มีคุณธรรมอันหนักแน่น และมีพรสวรรค์ด้านสติปัญญาอันสูงส่ง ผมแน่ใจว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ดีเลิศคนหนึ่งในประเทศไทย"

**"เพื่อแม้ว" ซักซ้อมเป็นฝ่ายค้าน
ช่วงบ่ายวานนี้ ที่อาคารชินวัตรไหมไทย ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทย มีการประชุมส.ส. เพื่อเตรียมพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน โดย ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการประชุมเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานในหน้าที่ฝ่ายค้าน ว่าจะต้องทำอย่างไร อะไรบ้าง ในหลายๆเรื่อง เช่น กรอบหน้าที่ เรื่องกฎหมาย การติดตามตรวจสอบการทำงานในแต่ละกระทรวง นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมอีก 26 เขต ที่มีการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง อดีตกรรมการบริหาร 3 พรรคการเมือง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะส่งใครลงรับสมัครบ้าง ซึ่งตามหลักการก็จะให้เกียรติ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่ย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทย ในการเสนอชื่อผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสายโทรศัพท์เข้ามาที่ประชุมพรรค เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์กล่าวว่า หลังท่านโฟนอินมาในที่ประชุม ถือเป็นเรื่องที่ดีทำให้ส.ส.มีกำลังใจขึ้นเยอะ
สำหรับการทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวอยากให้โอกาสทำงานสัก1-2 เดือน เมื่อถามถึงกระแสข่าวมวลชนเสื้อแดงอาจไปปิดล้อมรัฐสภา ในวันที่พรรคประชาธิปัตย์ จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชนเสื้อแดง จะคิดอย่างไร เราคงไปห้ามเขาไม่ได้หากเขาจะมา เพราะเขาอึดอัดใจ และรับไม่ได้กับรัฐบาลนี้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมว่า เชื่อว่าประชาชนคงเทคะแนนเลือกส.ส.ของเรากลับมาครบทุกเขตแน่นอน ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีข่าวว่า จะลงสมัครที่ เขต 3 จ.เชียงใหม่ มีสถานภาพทางกฎหมายที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือยังนั้น ไม่ขอตอบ เพราะไม่ทราบข้อมูล ขอให้รอในวันเปิดตัวผู้สมัคร อีก 2-3วัน

**ยังไม่สรุป"เสนาะ"ผู้นำฝ่ายค้าน
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า พรรคยังต้องหารือกันก่อน เพื่อหาบุคคลที่เหมาะสมเพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนการจะเสนอชื่อนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ตามหลักการรัฐธรรมนูญถือว่าทำได้ แต่ภาระหน้าที่เดิมที่พรรคเพื่อไทยมอบให้นายเสนาะก็หนักแล้ว จึงคงต้องคุยกันก่อนว่าจะตัดสินใจอย่างไร อีกทั้งพรรคเองก็มีหลายบุคคลที่เหมาะสม จึงต้องฟังเสียงข้างมากในพรรคก่อนว่ามีความเห็นอย่างไร แต่การจะปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่คงยังไม่ใช่ตอนนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุด แต่ยังสับสนว่าจะทำอย่างไร คงต้องคุยกันก่อน เพราะถือเป็นปรากฏการณ์ที่แปลก ที่พรรคฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่าพรรครัฐบาล และเมื่อเลือกตั้งซ่อม ก็คาดว่าน่าจะได้กลับมาเพิ่มอีก
นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้พรรคกำลังเตรียมยุทธศาสตร์การเลือกตั้งซ่อม กำลังดูเรื่องตัวบุคคลแต่บางพื้นที่ยังติดขัดเรื่องการต้องสังกัดพรรคให้ครบ 90 วัน แต่ยืนยันว่าพรรคจะทำให้ดีที่สุด แต่คงพูดไม่ได้ว่าจะส่งหรือไม่ส่งลงพื้นที่ไหน เพราะจะถือว่าเป็นการฮั้วเลือกตั้ง ซึ่งผิดกฎหมาย

**พงศ์เทพดักคอ อย่ารังแกแม้ว
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกประจำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกล่าวถึงการสนทนากับอดีตนายกฯหลังทรบผลการโหวตเลือกนายกฯแล้วว่า อดีตนายกฯไม่ได้พูดอะไร แต่ยังมีความเป็นห่วงประเทศและประชาชน เมื่อถามว่าการโฟนอินล่าสุดของอดีตนายกฯ เมื่อวันที่13ธ.ค.ที่บอกว่าจะสู้งานการเมืองอีกนั้นคืออะไร นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้คุย เมื่อถามว่า เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่แล้วนั้นจะมีผลกับคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ และจะมีแนวทางสู้คดีแบบใด นายพงศ์เทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าสิ่งใดที่กระทำไว้เป็นมาตรฐานเดียวกับบุคคลอื่นนั้นก็รับได้ ส่วนวิธีการสู้คดีต่างๆนั้นทีมทนายความจะเป็นผู้ดำเนินการโดย ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น