xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนจับตาโหวตนายกฯ หวังภาพลักษณ์ดีกู้ศก.ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - โหวตเลือกนายกฯวันนี้ เอกชนหวังให้ผ่านไปด้วยดี ไม่ต้องการเห็นสุญญากาศทางการเมืองนานๆ เหตุยิ่งมีรัฐบาลช้าปัญหาเศรษฐกิจยิ่งแก้ไขได้ยากขึ้น ย้ำนายกฯต้องภาพลักษณ์ดี ไม่ใช่ใครเป็นก็ได้ แนะควรดึงมืออาชีพร่วมทีมเศรษฐกิจเหตุต้องทำงานทันทีไม่มีเวลาศึกษางาน

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเลือกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันนี้ (15 ธ.ค.) เอกชนต้องการเห็นการโหวตเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเพื่อที่จะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลมาบริหารประเทศที่ปัจจุบันต้องเผชิญวิกฤติกับเศรษฐกิจโลกหากการเมืองในประเทศซ้ำเติมอีกจะส่งผลเสียหายอย่างมาก

นายสมมาต ขุนเศรษฐ รองประธานสายงาน สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ส.อ.ท.กล่าวว่า เอกชนต้องการเห็นการเลือกนายกฯมีความเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ที่จะต้องทำให้การโหวตต้องยุติหรือเลื่อนออกไปเนื่องจากต้องการให้ไทยจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในการเข้ามาดูแลปัญหาภาคเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนเพราะหากยิ่งมีความล่าช้าการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ

"เราอยู่ในช่วงสูญญากาศทางการเมืองนานเกินไปไม่ได้ ต้องมีรัฐบาลมาดูแลปัญหาหากล่าช้าหรือมีปัญหาการเมืองอีกเศรษฐกิจจะกู่ไม่กลับ การตกงานที่ส.อ.ท.เคยประเมินระดับ 1 ล้านคนเราเองก็ไม่อยากเห็นแต่ถ้าการเมืองยังเป็นแบบนี้อยู่ก็ไม่แน่และถึงเวลานั้นจริงการแก้ไขปัญหาจะเป็นเรื่องที่ยากมาก"นายสมมาตกล่าว

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องการให้เป็นบุคคลที่มีภาพลักษณ์ดีไม่ใช่อยากจะแต่งตั้งใคร หรือจะยกให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้เพราะในโลกนี้ไม่มีประเทศใดทำกัน หลังจากนั้นสิ่งที่ต้องการเห็นคือการจัดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องการเห็นการนำบุคคลที่เป็นมืออาชีพเข้ามาร่วมทำงานได้ทันทีไม่ควรเน้นตามโควตาทางการเมืองมากเกินไปเพราะรัฐบาลใหม่ไม่มีเวลาฝึกงานเหมือนกับอดีตรัฐบาลเก่าๆที่มีเวลาเรียนรู้งานได้ระดับหนึ่งเพราะขณะนี้วิกฤติเศรษฐกิจโลกเป็นเรื่องท้าทายรัฐบาลใหม่มาถึงต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ทันที

นายเกียรติพงษ์ น้อยใจบุญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องการเห็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างเรียบร้อยเพราะไทยมีเวลาไม่มากแล้วที่จะต้องมาเยียวยาประเทศใหม่ที่ขณะนี้ถือว่าค่อนข้างบอบช้ำ ดังนั้นนายกฯจะต้องเป็นผู้ที่จะมาสร้างความสามัคคีในประเทศและเร่งดูแลปัญหาเศรษฐกิจ รวมไปถึงภาพลักษณ์ที่ดีของไทย

"เวลานี้ผมเห็นว่าฝ่ายการเมืองนั้นเล่นการเมืองกันมากเกินไปไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ การปิดสนามบินเป็นภาพลักษณ์ของประเทศที่ต้องเร่งกอบกู้แต่ก็มีความพยายามจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่งสัญญาณว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ภาพการตรวจพบระเบิด เหล่านี้ไม่เห็นจะส่งผลดีต่อชาติอย่างใด แทนที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฏหมายแต่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแทนจะดีกว่าเพราะเวลานี้ไม่ควรเล่นการเมืองแล้ว"นายเกียรติพงษ์กล่าว

สำหรับรัฐบาลใหม่ไม่ว่าขั้วใดเข้ามาสิ่งที่ต้องการเห็นนอกเหนือจากการดูแลเศรษฐกิจ สิ่งสำคัญคือต้องไม่คิดมาเพียงแค่กอบโกยผลประโยชน์ของประเทศเพราะหากยังเห็นแก่เงินประเทศชาติวันหนึ่งจะถึงทางตัน ส่วนกรณีการยุบสภาคงไม่ใช่ทางออกในขณะนี้เพราะเวลานั้นสังคมต้องการให้ยุบสภากลับไม่ดำเนินการ แต่หากรัฐบาลบริหารไม่ได้ในที่สุดก็อาจจะเกิดการยุบสภาขึ้นซึ่งการเมืองก็อาจจะกลับมาเหมือนเดิมอีกตราบใดที่การเลือกตั้งยังสามารถใช้เงินซื้อเสียงได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น