xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯย้ำภารกิจรัฐบาล"มาร์ค" พิทักษ์สถาบันฯ-ห้ามแก้รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-พันธมิตรฯประกาศจุดยืน รัฐบาลใหม่ต้องไม่ใช่นอมินีทักษิณ ย้ำต้องพิทักษ์สถาบันฯ จัดการแก๊งจาบจ้วงเบื้องสูง ห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญฟอกผิดระบอบทักษิณ ยกเลิกพาสปอร์ตแม้ว พร้อมลากคอมาดำเนินคดีในไทย จัดการตำรวจที่เข่นฆ่าประชาชน หากเพิกเฉยเจอพลังมวลชนขับไล่แน่ ยันไม่ได้เครื่องมือพรรคการเมืองใด และพร้อมจะดูแลครอบคัวผู้สูญเสีย และบาดเจ็บ เพื่อสานต่ออุดมการณ์

เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้(12 ธ.ค.) แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 ได้ร่วมหารือกันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อกำหนดท่าที่ต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค.นี้ และภารกิจของพันธมิตรฯ ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไป
ต่อมา เวลา 12.30 น. หลังการหารือ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์พันธมิตรฯ เรื่อง คำเตือนก่อนเข้าสู่อำนาจ โดยมีเนื้อหากล่าวถึงการประกาศจุดยืนต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะมีขึ้นว่า พันธมิตรฯจะต่อต้านนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด ที่มาจากพรรคเพี่อไทย และคัดค้านนายกรัฐมนตรีทุกพรรคการเมืองที่มีรัฐบาลผสมของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ ขณะเดียวกันก็จะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองในระบบการเมืองเก่า ว่าจะสามารถฝ่าข้ามวิกฤตการณ์ทางการเมือง จัดการกับระบอบทักษิณ และเข้าสู่การเมืองใหม่ได้หรือไม่

**ยื่น13ข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่
ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน และวีรชน ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดใหม่ 13 ประการ อาทิ เร่งรัดดำเนินคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ต่อ นายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุสิกพงศ์ เว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน และปราบปรามขบวนการดูหมิ่นและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด โดยด่วน เป็นลำดับแรก
ต้องแสดงจุดยืนที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 หรือกฎหมายอื่น ที่จะฟอกความผิด หรือเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมือง ต้องส่งเสริมให้คนดีมีความสามารถมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันมิให้คนไม่ดีมีอำนาจ บริหารราชการแผ่นดิน เร่งรัดคดีทุจริตคอร์รัปชัน ให้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยปราศจากการแทรกแซงทั้งทางตรง และทางอ้อม ยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยทันที พร้อมทั้งเร่งรัดให้มีการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ยกปราสาทพระวิหาร และพื้นที่โดยรอบให้กับกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว เร่งรัดสลายรัฐตำรวจ โยกย้ายข้าราชการตำรวจที่ใส่ความ กลั่นแกล้ง และคุกคามประชาชน ผู้เข้าร่วมการชุมนุม และผู้สนับสนุนการชุมนุม รวมทั้งดำเนินการเอาผิดกับอันธพาลการเมืองของรัฐบาล ที่ทำร้ายและเข่นฆ่าผู้ชุมนุม จนถึงที่สุด ยุติการใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อ และโกหกหลอกลวงประชาชน โดยเฉพาะรายการความจริงวันนี้
ยกเลิกโครงการเมกะโปรเจกต์ ที่ใช้จ่ายเกินตัว และไม่โปร่งใส ที่จะทำให้ชาติล่มจม รวมทั้งขอให้แสดงจุดยืนที่จะส่งเสริม สนับสนุน ประชาชนในการสร้างการเมืองใหม่ ตามแนวทางของพันธมิตรฯ เพื่อป้องกันมิให้เกิดวิกฤติทางการเมืองในอนาคตอีกต่อไป
หากข้อเรียกร้อง และเจตนารมณ์ของพันธมิตรฯ ถูกปฏิเสธ หรือเพิกเฉย พันธมิตรฯก็พร้อมจะดำเนินการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป ( อ่านรายละเอียดแถลงการณ์พันธมิตรฯ หน้า 2 )

**พร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล
จากนั้น นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการทำหน้าที่ของแกนนำพันธมิตรฯต่อจากนี้ไป ว่า จะขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 เป็นพลเมืองเพื่อตรวจสอบการทำหน้าที่ของนักการเมือง ป้องกัน “ระบอบทักษิณ” กลับมาทวงคืนอำนาจ รวมทั้งคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิด แต่จุดมุ่งหมายเพื่อการปฏิรูปการเมืองใหม่ ยังไม่สัมฤทธิผล และขอต่อต้านนายกรัฐมนตรีที่จะมาจากพรรคเพื่อไทย เพราะถือเป็นหุ่นเชิดระบอบทักษิณ
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนขั้วพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ยังไม่ใช่เครื่องยืนยันว่าจะนำไปสู่การเมืองใหม่ ส่วนแถลงการณ์พันธมิตรฯ ที่ออกมาในครั้งนี้ ถือเป็นมติอย่างเป็นทางการของแกนนำทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 ส่วนที่มีการวิพากษวิจารณ์ในรายการ หรือเวทีต่างๆ ถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัว และพันธมิตรฯ ยืนยันที่จะคอยดูแลครอบครัวของผู้ที่บาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการสานต่ออุดมการณ์ และขอย้ำว่า พันธมิตรฯ ยังมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการแน่นอน ส่วนนักการเมือง ใครจะไปใครจะมาจะต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด เพราะพันธมิตรฯไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เจตนารมณ์ของเราจะไม่คำนึงถึงตัวบุคคล แต่ขอให้ยืนอยู่บนหลักการทั้ง 13 ข้อ ที่ได้ปรากฏอยู่ในแถลงการณ์ ส่วนการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมนั้น แล้วแต่สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด และพันธมิตรฯไม่ได้ให้ความสำคัญกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะมีขึ้นในวันนี้(13ธ.ค.) พร้อมชี้แจงว่าหลังการยุติชุมนุม มีของที่เหลือจากการบริจาค ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภคมากมาย ทางแกนนำไม่ได้นำใช้ส่วนตัว แต่ได้นำไปบริจาคให้สาธารณกุศลหรือมูลนิธิ นำไปใช้ต่อไป

**มีแผนนัดชุมนุมเดือนละครั้ง
พล.ต.จำลอง กล่าวยืนยันว่า พันธมิตรฯ ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง หากไม่ออกมาคัดค้านแก้รัฐธรรมนูญ เชื่อว่าวันนี้กระบวนการยุติธรรมถูกโค่นล้มไปหมดแล้ว ส่วนหนึ่งพันธมิตรประสบความสำเร็จในการชุมนุมเดินถึงตรงจุดนี้ ต้องขอขอบคุณสื่อที่เผยแพร่ข่าวจนประชาชนออกมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก และกำลังพิจารณาร่วมกันว่า จะทำอย่างไรไม่ให้พันธมิตรฯ ต้องยุติบทบาทไปโดยปริยาย ซึ่งมีข้อเสนอว่า 1 เดือนอาจจะเจอกันครั้ง โดยหาสถานที่ชุมนุมขนาดใหญ่ พร้อมกล่าวว่ายินดีชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการชุมนุมตามคำพิพากษาศาล แต่เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจฟ้องร้องอันเป็นเท็จ ทั้งเรื่องการตั้งข้อหาก่อการร้าย หรือการตรวจค้นอาวุธ ถือว่ายกเฆมทั้งสิ้น และขอยืนยันว่า เราชุมนุมกันโดยปราศจากอาวุธ และแกนนำทุกคน จะไม่หนีไปต่างประเทศแน่นอน
ด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีมีสถานภาพ สวมหมวก 2 ใบ คือเป็นแกนนำพันธมิตรฯ และเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะวางตัวอย่างไรนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ และยังเร็วเกินไปที่จะตอบคำถาม เพราะยังไม่แน่ว่าพรรคประชาธฺปัตย์ จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ แต่ในเวลานี้เมื่อมานั่งประชุมร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ ต้องคำนึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะใหญ่กว่าพรรคการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น