xs
xsm
sm
md
lg

โรงแรมเฮรอดตายไฮซีซั่นส์ท่องเที่ยวฟื้นเร็วเผยห้องจอง60%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ส.โรงแรมไทย ใจชื้น สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นเร็วกว่าที่คิด ระบุในรายที่จองไว้ ยังยืนยันการเดินทาง ส่งอัตราเข้าพักไฮซีซั่นปีนี้จะอยู่ที่ 50-60% ดีกว่าที่คิดไว้  ล่าสุดจับมือ ททท.บูมเที่ยวในประเทศ จัดงาน มหัศจรรย์..เที่ยวไทย 2551“วันเสด็จ”คุย ตลาดคนไทยปีนี้เที่ยวโตเกินเป้า เป็น 84-85 ล้านคนครั้ง
นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร    อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ)  เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ระยะสั้น ในการเข้าพักโรงแรมทั้งประเทศ ช่วง 2 สัปดาห์หลังเปิดใช้สนามบิน มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่  20-25% โดยเฉพาะในส่วนของโรงแรมระดับ 3-4 ดาว  แต่ในโรงแรม 5 ดาว อาจมีอัตราเข้าพักต่ำกว่านี้ เพราะ นักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง จะระวังเรื่องความปลอดภัย และ ความเชื่อมั่น  ซึ่งผลจากการปิดสนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ตัดสินใจยกเลิกสูง และ ต้องใช้เวลากลับสู่ภาวะปกตินานกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป
*** ส.โรงแรมใจชื้นท่องเที่ยวฟื้นเร็วกว่าที่คิด***
สำหรับระยะปานกลาง ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมศกนี้  ถึงไตรมาสแรกปี 2552 มั่นใจว่า อัตราเข้าพักโรงแรมทั้งประเทศจะเพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 50-60% ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในช่วงเดียวกันของทุกๆปีที่ผ่านมาราว 20-30%  ซึ่ง ถือเป็นตัวเลขที่ดีกว่า ที่คิดไว้ในช่วงที่มีการปิดสนามบินว่า อัตราเข้าพักจะต้องต่ำกว่านี้  
ทั้งนี้เพราะนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากยุโรปที่หนีอากาศหนาวเย็น จะมีการจองล่วงหน้าไว้นาน และชำระเงินแล้ว ซึ่งมีบางส่วนที่ยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง แต่ยังมีจำนวนมากที่ยืนยันที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยตามกำหนดเดิม เพราะคุ้นเคยและมาเป็นประจำทุกปีจึงไม่กังวล  ประกอบกับ ช่วงไฮซีซั่น ที่พักตามแหล่งท่องเที่ยวในแถบเอเชีย  ถูกจองเกือบเต็มจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาเดสติเนชั่นใหม่ๆ
**หวั่นวิกฤตซับไพร์มกระทบท่องเที่ยวปีหน้า***
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปีหน้าเป็นต้นไป ปัจจัยที่จะเข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว คือผลจากวิกฤตซับไพร์มในสหรัฐอเมริการ ที่จะกระทบต่อตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา   ซึ่งต้องรอดูว่า นโยบายการเยียวยาและแก้ไขวิกฤตการเงินในครั้งนี้จะได้ผลเป็นอย่างไร หากผลดี  สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย และ อัตราเข้าพักโรงแรม ช่วง ไตรมาส 2-3 ของปีหน้า ก็จะไม่ต่ำไปจากปีนี้ คือมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 50-60% เช่นเดิม
สำหรับภาพรวมของธุรกิจโรงแรมปีนี้ 3 ไตรมาสแรก เติบโต 10% ส่วนไตรมาส 4 ซึ่งมีปัจจัยลบหลายประการ  ทำให้อัตราเข้าพัก เฉลี่ยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 15-20% ดังนั้น สมาคมโรงแรม จึงร่วมมือกับภาคเอกชนท่องเที่ยวใน 6 สมาคม และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ล่าสุดจัดงาน  “มหัศจรรย์...เที่ยวไทย 2551” ระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค.51 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  เพื่อหวังให้ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยมาเติมเต็ม ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หดหายไป   ในงานดังกล่าว ผู้ประกอบการโรงแรม จะนำห้องพักมานำเสนอขาย  ลดราคาไม่น้อยกว่า 30-50% พร้อมส่วนแถมต่างๆ จากปกติ ช่วงฤดูท่องเที่ยว หรือ ไฮซีซั่น จะไม่มีการลดราคา
***คุยตลาดคนไทยเที่ยวเกินเป้า***
ทางด้านนายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ททท.จับมือ 6 สมาคม อาทิ สมาคมโรงแรมไทย   สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น จัดงาน “มหัศจรรย์...เที่ยวไทย 2551” ให้งบสนับสนุน  2.5 ล้านบาท มี  โรงแรม   ร้านอาหาร สายการบิน สินค้าและบริการท่องเที่ยวอื่นๆ มาร่วมออกบูท กว่า 100 ราย  หวังกระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศจากปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า  สอดคล้องกับแคมเปญ  “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก”
อย่างไรก็ตาม ททท.มีความมั่นใจว่า สภาพอากาศที่ดีมีฤดูหนาวยาวนานขึ้น   ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง  ความสงบทางการเมือง จะช่วยกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยว มากขึ้น  เป็นผลให้ ภาพรวมตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศปีนี้น่าจะเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ปีนี้ที่ 83 ล้านคนครั้ง โดยเพิ่มเป็น 84-85 ล้านคนครั้ง  ซึ่ง หลังจากงานนี้ ททท.ก็จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่อง เฉลี่ยทุกเดือน รวมถึงการจัดงานคอนซูเมอร์แฟร์ เช่น ในเดือน ม.ค.52 จัดงานอีสานแฟร์   ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวปีหน้า ททท.จะร่วมกับภาคเอกชน นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ มากระตุ้นให้คนไทยท่องเที่ยว  เพื่อให้ได้เป้าหมายนักท่องเที่ยวทั้งปีไม่น้อยกว่า 84 ล้านคนครั้ง หรือ เติบโตจากปีนี้ ไม่น้อยกว่า 5% ทั้งจำนวนและรายได้
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศ”ทย กล่าวว่า ได้หารือกับสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อยื่นเสนอให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปรับเปลี่ยนการใช้งบประมาณ โดยชะลอโครงการที่ไม่เร่งด่วน แล้วนำงบมาส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว เช่น ฝึกอบรมบุคคลากร การจัดประชุมสัมนา เพื่อส่งเสริมโดเมสติกไมซ์ ถือเป็นการสร้างดีมานด์ เข้ามาช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ ที่สำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น