ศูนย์ข่าวศรีราชา -“เครือเกษมกิจ ” เตรียมเปิด 3 โรงแรมใหม่ระดับ 4-5 ดาวในจังหวัดระยอง ปราจีนบุรีและพระนครศรีอยุธยาปีหน้า ภายใต้งบลงทุนไม่รวมค่าที่ดินกว่า 1.5 พันล้าน ชี้แม้การแข่งขันปี 52 อาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจจนทำให้ยอดเข้าพักลด แต่ยังเชื่อมั่นในศักยภาพงานบริการและทีมการตลาด พร้อมคุณภาพสินค้าที่จะยังคงได้รับความมั่นใจจากกลุ่มผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ
นายวิวัฒน์ ตั้งจิตกอบบุญ ผู้อำนวยการกลุ่มโรงแรมเครือแคนทารีกรุ๊ปและคามิโอ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เกษมกิจ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และห้องพักรายใหญ่ เผยถึงการลงทุนของบริษัทในปี 2551 ว่า ในส่วนการพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในเครือแคนทารีกรุ๊ปและคามิโอ ซึ่งเป็นที่พักระดับ 5 และ 4 ดาว บริษัทได้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่เพิ่มอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมคามิโอ ระยอง ซึ่งเป็นการซื้ออาคารเก่าใกล้กับโรงแรมระยองออร์คิด มาปรับปรุงใหม่ให้เป็นโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ขนาด 4 ดาวครึ่ง จับตลาดผู้เข้าพักอาศัยระดับกลางและผู้บริหารที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโดยรอบ
โครงการนี้เป็นการลงทุนในเฟสแรกที่จะเปิดให้บริการห้องพัก 75 ยูนิต ในเดือนมีนาคมปีหน้า ส่วนการดำเนินงานในเฟสที่ 2 กำหนดให้เป็นที่พักไม่เกิน 80 ยูนิต ขณะนี้ยังไม่เริ่มดำเนินการ อย่างไรก็ดีงบลงทุนในโครงการไม่รวมค่าที่ดิน มีมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท
“ในจังหวัดระยอง เรามีโรงแรมแคนทารีเบย์ โรง แรมระดับ 5 ดาว จับตลาดผู้เข้าพักในระดับบนอยู่แล้ว ซึ่งการเปิดให้บริการโรงแรมคามิโอระยอง ก็เป็นไปตามแผนการลงทุนที่ได้วางไว้ก่อนเพื่อแยกตลาดการเข้าพักให้หลากหลาย เช่นเดียวกับที่จังหวัดปราจีนบุรี เราได้ลงทุนอีกไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ระดับ 4 ดาวครึ่งถึง 5 ดาวบริเวณสี่แยกกบินทร์บุรี โดยใช้ชื่อว่าแคนทารี โฮเทล แอนด์เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เพื่อจับกลุ่มผู้บริหารในนิคมอุตสาหกรรมของจังหวัดปราจีนบุรีและรองรับตลาดสัมมนา รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวยังเขาใหญ่ เนื้อที่รวม 170 ไร่ และพร้อมเปิดให้บริการในช่วงกลางปีหน้า ”
ขณะเดียวกันบริษัท ยังจะเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปีหน้าเช่นกัน โดยใช้ชื่อแคนทารี โฮเทล แอนด์เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ พระนครศรีอยุธยา โรงแรมแห่งนี้มีเนื้อที่รวม 160 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท รองรับการใช้บริการของพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่แห่งนี้ ส่วนโรงแรมต่างๆ ในเครือแคนทารีกรุ๊ปและคามิโอ ที่มีอยู่ 10 แห่งทั่วประเทศ บริษัท ยังทุ่มงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งเพื่อปรับปรุงโรงแรมบางแห่งให้มีความทันสมัยรับการแข่งขันในปี 2552 ที่มีการคาดการณ์ว่าจะรุนแรง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวซึ่งจะมีผลต่อการเดินทางของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาจลดลง ทำให้ผู้ประกอบการด้านที่พักต้องหันมาแข่งขันด้านคุณภาพการให้บริการและความพร้อมมากกว่าราคา
“แผนการลงทุนต่างๆ ของบริษัท ได้ถูกวางไว้ล่วงหน้า ซึ่งทั้ง 3 โรงแรมก่อสร้างมาตั้งแต่เมื่อ 15 เดือนก่อนโดยที่ไม่รู้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะเป็นเช่นนี้ ดังนั้น เมื่อเราเดินหน้าแล้วเราก็ต้องรักษามาตรฐานงานบริการของเราให้ดีที่สุดไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ทั้งนี้ผลกระทบทางเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองทำให้ภาพรวมการเข้าพักของกลุ่มโรงแรมในเครือแคนทารีกรุ๊ปและคามิโอ ในปี 51 ลดลงจากปีก่อนกล่าวคือมียอดการเข้าพักประมาณ 85-90% ของจำนวนห้องพักรวมทั้งหมด ขณะที่ปีก่อนทำได้ถึง 97% โดยพบว่ายอดการเข้าพักโรงแรมในกรุงเทพฯ ลดลงถึง 30% จากปัญหาการเมืองที่ส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ”
นายวิวัฒน์ ยังเผยถึงแผนการตลาดในปีหน้าว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของโรงแรมในเครือแคนทารีกรุ๊ปและคามิโอ จะต้องทำงานหนักอย่างเป็นทีมเพื่อขายห้องพักโรงแรมในกลุ่มทั้งหมด โดยชูจุดขายสำคัญที่ความเป็นกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ที่มีศักยภาพด้านงานบริการและคุณภาพ ทั้งนี้โรงแรม 3 แห่งที่จะเปิดให้บริการในปีหน้าใช้งบลงทุนรวมไม่น้อยกว่า 1.5 พันล้านบาท