xs
xsm
sm
md
lg

มักง่าย มักได้ หน้าด้าน = รัฐบาลประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ท่านผู้อ่านที่เคารพ หรือว่าปีใหม่นี้เราจะได้รัฐบาลเป็นของขวัญอันล้ำค่าคือ รัฐบาลของประชาชน ซึ่งมีความเต็มใจและความสามารถที่จะสร้างสรรค์จรรโลงเสรีภาพ สาธารณประโยชน์ และความเป็นธรรมให้กับประชาราษฎรทั่วประเทศ

รัฐบาลนั้นจะได้มาจากที่ไหน และอย่างไร

ก็เราเพิ่งไล่รัฐบาลเถื่อนที่ดอดเข้ามายึดอำนาจรัฐเอาดื้อๆ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและหลักกฎหมายใดๆ ไปมิใช่หรือ เป็นรัฐบาลที่ไล่อย่างไรก็ไม่ยอมไป เพราะอ้างว่าตนจะต้องรักษาผลประโยชน์และประชาธิปไตยไว้ให้ชาติ เป็นการอ้างอย่างหน้าด้านๆ และค้านกับหลักรัฐธรรมนูญหลักกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น

ผมอุตส่าห์ขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ช่วยไล่รัฐบาลห่านั่นออกไป และศาลรัฐธรรมนูญก็สงบเสงี่ยมมิได้เรียกร้องทวงบุญคุณหรือต้องการสินจ้างรางวัลแต่อย่างใดเลย ต่างกับคณะปฏิรูปการปกครองที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น คมช.หรือคณะผู้รักษาความมั่นคงของชาติ ซึ่งผมก็ต้องขอบคุณเหมือนกันที่ช่วยไล่รัฐบาลทักษิณออกไป และอย่างน้อยก็ฝากผลงาน คตส.ไว้ให้ เอาไว้ตามล่าโจรปล้นสมบัติแผ่นดิน ส่วนผลงานทางการเมืองนั้นถึงจะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่รัฐธรรมนูญจับฉ่ายฉบับ 2550 ก็มีหลายหมวดหลายตอนที่มีประโยชน์ ทำหน้าที่ป้องปรามและป้องกันมิให้ระบบโจราธิปไตยที่แอบแฝงมากับการเลือกตั้งทำการปล้นบ้านกินเมืองได้อย่างลอยนวลเหมือนแต่เมื่อก่อน

อย่างน้อยพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่ถูกจับได้ว่าโกงเลือกตั้งจนถียงไม่ขึ้นถูกยุบพรรคไป ก็เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 และกฎหมายประกอบว่าด้วยพรรคและการเลือกตั้ง

แต่มรดกทั้งวิกฤตวิบัติและอุปัทวันตรายจากการเมืองที่ คมช.ทิ้งไว้ให้ประเทศชาติและราชบัลลังก์ ก็ช่างดูไม่จืดเสียจริงๆ

รวมทั้งของขวัญปีใหม่ที่ปวงชนชาวไทยกำลังจะถูกยัดเยียดให้ คือรัฐบาลที่มีองค์ประกอบและส่วนผสมของความมักง่าย ความมักได้ และความหน้าด้านที่เผลอๆ ก็สะเออะอยากจะเรียกตัวเองว่า รัฐบาลประชาชน

ผมเองได้ลองเขียนรัฐบาลทางเลือกของประเทศไทยดู เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและคลื่นเหียนอาเจียน ผมเลยต้องเขียนเป็นภาษาฝรั่ง เป็นคำฝรั่งที่ผมนำมาผูกหรือบัญญัติขึ้นเอง เพราะฉะนั้นอย่าไปค้นหาในตำราฝรั่งให้เสียเวลา จนกว่าผมจะไปสอนหรือมันได้อ่านหนังสือที่ผมเขียนเสียก่อน

แบบหรือ model ของรัฐบาลที่คนไทยจะพากันเลือกนั้น ผมเห็นว่ามีอยู่ 3 อย่าง อย่างน้อยก็พูดถึงกันอยู่ 3 อย่าง ความจริงมีทางเลือกมากกว่านี้ แต่คนไทยและพรรคการเมืองไทยใจไม่ถึง จึงตะกุยตะกายกันเลือกเกือบจะแค่ 2 อย่างในข้อ 1 และข้อ 2 ข้างล่างนี้ด้วยซ้ำ

ไม่ว่าจะเลือกอย่างที่ 1 หรือที่ 2 ผมเห็นว่ารัฐบาลดังกล่าวมีลักษณะผสมผสานกันอยู่ระหว่างความมักง่าย มักได้ หน้าด้าน และค้านหรือมิชอบด้วยกฎหมายด้วยกันทั้งนั้น

สาเหตุที่เลือกเรียกรัฐบาลแบบที่ 1 ว่า Incipient ก็เพราะมีความมักง่ายเป็นเจ้าเรือนอยู่ในพรรค ส่วนความมักง่ายและหน้าด้านนั้น ก็ปฏิเสธมิได้ว่ามีอยู่มากเหมือนกัน แต่ดีกรีไม่แรงเท่าหรือไม่มีอยู่ในตัวของสมาชิกบางคน

รัฐบาลแบบที่ 2 ก็เหมือนกัน ที่เรียกว่า Precipitous ก็เพราะมีลักษณะตอดเล็กตอดน้อย พอมีช่องมีโอกาสปุ๊บก็ฮุบเหยื่อทันที สมมติว่าสนนราคากลุ่มเนวิน+คิงส์เพาเวอร์ +อภิบริษัทหย่อนลง มีคนอื่นเข้ามาสมทบทุนเกทับ พวกนี้ก็จะตั้งรัฐบาลได้ทันที โดยลากจูงพวกบริวารเก่าและเนวินกลับมาได้หมด พวกนี้ถือสุภาษิตว่า สมบัติยืนหยัดชม ถ้าผสมต้องให้กูกินก่อน

ต่างกับแบบที่ 1 ซึ่งถือว่าสมบัติผลัดกันชม กูอยากผสมกูให้มึงกินเท่าเก่า

The Three Choices Facing Thailand Todays

1. The Incipient Government Democrats + Remnant Coalition + Newin + Army + Money

2. The Precipitous Government Pheu Thai + Newin + Remnant Coalition + Money+Police

3.The Royal Communitarian Government หรือรัฐบาลแบบราชประชาสมาสัยนั้น คำว่าราชประชาสมาสัยในหลวงทรงเป็นผู้บัญญัติ แปลว่าในหลวงและพสกนิกรพึ่งซึ่งกันและกัน ภาษาอังกฤษผมบัญญัติขึ้นเองโดยเอาคำว่า Royal ซึ่งแปลว่าแห่งหรือของพระมหากษัตริย์มา+กับคำว่า Community ซึ่งแปลว่าชุมชนหรือประชาคม และ + กับคำว่า Unitarian ซึ่งเป็นแนวคิดหรืออุดมการณ์ทางการเมืองที่ถือว่าประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่

ผมเชื่อว่า การเมืองแบบราชประชาสมาสัยนี้หากจะเกิดก็เกิดขึ้นได้แห่งเดียวในโลกคือในประเทศไทย และโอกาสที่จะเกิดก็มีอยู่รัชกาลเดียว คือรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน

The Royal Communitarian Governmanet จะเป็นนวัตกรรมทางการเมืองอันยิ่งใหญ่ คือบรรจุเอาความดีของระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญทั่วโลกเอาไว้ได้หมด+กับทศพิธราชธรรมความเป็นประชาธิปไตย และเอาใจใส่ดูแลพึ่งพากันอย่างทั่วถึงทั้งขอบขัณฑสีมา (Community) และอาณาประชาราษฎร์

แต่โอกาสของราชประชาสมาสัยนั้นอยู่ที่โชควาสนาของคนไทย อยู่ที่ความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อในหลวง อยู่ที่ความเข้าใจในพระราชอำนาจอันถูกต้องครรลองประชาธิปไตย และอยู่ที่ปัญญาสมาธิและความกล้าหาญของปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยร่วมกับองค์พระมหากษัตริย์จะพากันเลือก

ผมเชื่อว่าหากพวกเราเชื่อในกฤษฎาภินิหาร เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง เชื่อว่าคนไทยทั้งในชาตินี้และชาติก่อนทำบุญและคุณงามความดีไว้มากกว่าทำบาป เราก็จะสามารถเลือกเดินทางราชประชาสมาสัยได้

แต่ถ้าคนไทยทั้งหลายแพ้ความมักง่าย มักได้ หน้าด้าน ต่อต้านมองข้ามหักงอตัวบทกฎหมาย ติดยึดสินจ้างรางวัล โทสะ มานะ ตัณหาและมิจฉาทิฐิ เราก็ได้รัฐบาลแบบที่ 1 และที่ 2 คือ รัฐบาลที่ตั้งขึ้นได้ด้วยกงจักรและน้ำเน่า คืออำนาจของเงินและอำนาจของกองทัพ เมืองไทยก็จะวนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์และวัฏจักรน้ำอีกนานเท่านาน

ผมขอให้ท่านผู้อ่านลองไปอ่านบทความผู้พิพากษาอาวุโส ยินดี วัชรพงศ์ ต่อสุวรรณ เรื่องรัฐบาลรักษาการกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรค กำลังเดินอยู่บนเส้นทางของการกระทำความผิดอาญา และของผมเรื่อง ผ่าทางตันด้วยปัญญา และพระบารมี กับเรื่อง ดับปฏิวัติ ขจัดนองเลือด ทางเลือกสุดท้าย พึ่งพระปัญญาบารมี ในผู้จัดการออนไลน์ฉบับก่อนๆ ได้ ท่านก็จะพบคำถามและคำตอบบางประการในเรื่องนี้

แต่ท่านไม่ต้องเชื่อและไม่ควรเชื่อ ท่านควรจะไปหาความรู้และข้อมูลต่อๆ ไปด้วยตนเองหรือกับหมู่คณะ แล้วท่านจะตอบคำถามดังต่อไปนี้ด้วยตนเองได้

1. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ซึ่งมิใช่ ส.ส.แต่เป็นสมาชิกของพรรคพลังประชาชนที่ถูกยุบไป สามารถรักษาการต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ มีอำนาจยุบสภาฯ หรือไม่

2. นายชัย ชิดชอบ ส.ส.สัดส่วนของพรรคที่ถูกยุบไป มีสิทธิเป็นประธานสภาฯ และเรียกประชุมรัฐสภาได้หรือไม่

3. รัฐบาลที่หมดสภาพไปตามนายกรัฐมนตรีย่อมหมดสภาพไม่สามารถรักษาการได้ตาม มาตรา 181 ใช่หรือไม่ สมควรจะใช้รัฐธรรมนูญหรือ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินหรือทั้งสองอย่างเป็นหลักในการตั้ง ครม.รักษาการ นั่นก็คือ จากปลัดกระทรวงทั้งหมดขณะนี้ปลัดกระทรวงใดบ้างเป็นรัฐมนตรีรักษาการแล้ว เพราะเหตุใด

4. ส.ส.สัดส่วนที่พรรคถูกยุบ ต้องสิ้นสภาพ ส.ส.หรือไม่ ถ้าสิ้น ปัจจุบันนี้สภาฯ มี ส.ส.เหลือเท่าไร

5. ส.ส.เขตพรรคที่ถูกยุบจะต้องคอยเข้าพรรคให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายเสียก่อน (ภายใน 60 วัน) จึงจะทำหน้าที่เข้าประชุมได้

และยังมีปัญหาอีกมากมายที่จะบ่งบอกตามหลักของการตีความว่าการเรียกเปิดประชุมวิสามัญและการเลือกนายกรัฐมนตรีมิน่าจะกระทำได้

แต่ถ้าเราจะใช้หลักมักง่าย หลักมักได้ และหลักหน้าด้าน เราก็จะได้รัฐบาลประชาชนเป็นของขวัญปีใหม่อย่างแน่นอน คือประชาชนที่ถูกนักการเมืองอ้าง เพื่อนักการเมืองจะทำอะไรก็ได้รวมทั้งการทำลายหลักกฎหมายและหลักรัฐธรรมนูญ และอนาคตของราชประชาสมาสัย และประชาธิปไตยที่แท้จริงของประเทศไทย

พวกที่หน้าด้านที่สุดคือพวกโมฆบุรุษโมฆสตรีแห่งรัฐบาลที่ออกไปจะประกอบกันเป็นรัฐมนตรีส่วนใหญ่ตามสูตรของรัฐบาลใหม่ พวกที่หน้าด้านเหมือนกัน น้อยหรือมากยังเปรียบกันไม่ได้ คือพวกที่เคยด่าแต่ไปกอดหรือกราบตีนพวกที่เคยถูกประชาชนด่าว่าหน้าด้านบันลือโลกมาร่วมรัฐบาล ไชโย
กำลังโหลดความคิดเห็น