xs
xsm
sm
md
lg

"หม่อมเต่า-ประสาร"คุมศก.กรณ์คลังมาร์คควบศธ.แม้วดิ้นส่งเหนาะป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.ยื่น 240 ส.ส.ขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ โหวตนายกฯ โดยมีกลุ่มเพื่อนเนวิน 21 คน พร้อม ส.ส.ชาติไทยพัฒนา-เพื่อแผ่นดิน-รวมใจไทยฯ ร่วมลงชื่อ คาดได้ผู้นำก่อนปีใหม่ อภิสิทธิ์-สุเทพ มั่นใจขั้วไม่พลิก แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ย้ำ ถอยเป็นหมา เดินหน้าเพื่อชาติ ยัน 40 ส.ส.ในกลุ่มยังหนุน ปชป. รับถูกประชาชนในพื้นที่กดดัน แต่เคลียร์จบแล้ว เปิดโผ ครม.มาร์ค นายกฯควบ รมว.ศึกษาฯ "กรณ์" รมว.คลัง ดึง หม่อมเต่า-ประสาร ร่วมทีมกู้ซากเศรษฐกิจ ชัย นั่ง รมว.คมนาคม ด้านเพื่อไทยยังดิ้นไม่หยุด ทักษิณ โทร.สั่งตั้งทีมล่ากลุ่มเพื่อนเนวิน กลับมาให้ได้ โวล่าสุดได้กลับมาแล้วเกือบหมด ให้รอเซอร์ไพร์ส หลังถก เนวิน วันนี้ ขณะที่ ยงยุทธ รับบัญชานายใหญ่เดินแผนป่วน เข้าพบ เสนาะ ให้เป็นผู้จัดการรัฐบาลสู้ อ้างคน ปชป.-เพื่อไทยเป็นนายกฯ บ้านเมืองแตกแยก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า เวลา 11.30 น. วานนี้ (8 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำรายชื่อ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ และเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา รวมทั้งกลุ่มเพื่อนเนวิน รวม 240 คน ยื่นต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้นำ ความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อดำเนินการให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สำหรับ ส.ส.แกนนำพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองที่ร่วมยื่นเรื่องต่อนายชัย ครั้งนี้ ประกอบไปด้วย พรรคชาติไทยเดิม นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน นายไชยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี กลุ่มเพื่อนเนวิน นำโดย นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา นายศุภชัย โพธิศุ ส.ส.นครพนม นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคาม พรรคมัชฌิมาธิปไตย นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา มีนายประเชิญ ติยปัญจนิตย์ ผอ.พรรคมาแทน ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยฯ จะเดินทางมายื่นด้วยตัวเอง
นายสุเทพ กล่าวว่า การรวบรวมรายชื่อสมาชิกตามมาตรา 196 คือจำนวน 1 ใน 3 คือ 129 เสียง เพื่อให้เปิดวิสามัญเลือกนายกรัฐมนตรี โดยมีการรวบรวม รายชื่อสมาชิก 240 คน
ด้านนายชัย กล่าวหลังรับคำร้องว่า จะได้มอบให้นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการตรวจสอบรายชื่อตามขั้นตอน ซึ่งตามปกติจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน ถึงจะนำขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อขอเปิดประชุม ทั้งนี้เมื่อมีการ เลือกนายกฯแล้วตนคงหมดหน้าที่และตามมารยาทแล้ว ตนคงลาออกจากตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้สภาเลือกผู้ที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยื่นข้อเสนอให้เป็นประธานสภาต่อจะรับหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องสภาจะดำเนินการเมื่อมีนายกฯแล้วก็ถือว่าสุดทั้งคณะ จะให้เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เลือกคนเดียวคงไม่ได้

***ปชป.เชื่อได้นายกฯก่อนปีใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สนับสนุนซึ่งเจ้าหน้าที่ พรรคประชาธิปัตย์แจกสื่อมวลชนมีส.ส.ลงลายมือชื่อ 240 โดยแบ่งเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 163 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 15 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 21 คน โดยมี ส.ส.อดีตพรรคพลังประชาชนอยู่ส่วนนี้เพิ่มอีก 4 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 8 คน จากพรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม 8 คน และกลุ่มเพื่อนเนวิน 21 คน ทั้งนี้มีลายมือชื่อ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินด้วย
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คาดว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีได้เร็วที่สุดวันที่ 12 ธ.ค.นี้ หรือไม่ก็เป็นวันที่ 15 ธ.ค. นี้ เพราะ ต้องที่จะให้ได้รัฐบาล และนายกฯคนใหม่ก่อนปีใหม่ ซึ่งช่วงระยะเวลาเปิดสมัยวิสามัญ มี 15 วัน อย่างไรก็ตามไม่ได้เป็นห่วงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอินมาในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เพราะเชื่อว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เนื่องจากขณะนี้บ้านเมืองกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแล้ว

***กลุ่มเพื่อนเนวินบอกถอยเป็นหมา
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา จากกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า ทางกลุ่มจะไม่กลับไปร่วมกับพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน เพราะกลุ่มตนได้ยืนยันชัดเจนแล้วว่า ถอยเป็นหมา เดินหน้าเพื่อชาติ แม้ขณะนี้จะเผชิญแรงกดดันและแรงเสียดทานจากชาวบ้าน พร้อมทั้งวิธีการดูดสารพัด เพราะขณะนี้กลุ่มเพื่อเนวินมี 37 คน แต่ลงชื่อเพียง 21 คน ที่เหลือไม่กล้าเปิดเผยชื่อ เพราะถูกโจมตีทางการเมือง ดังนั้นในวันโหวตเลือกนายกฯ เชื่อว่าจะมีเสียงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีรายชื่อแสดงเจตจำนงแต่ไม่ได้ร่วมลงชื่อด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังยื่นหนังสือเสร็จกลุ่มเพื่อนเนวิน ได้เข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายชัย ชิดชอบ ที่ห้องประธาน โดยมีรายงานว่า เพื่อหารือ กรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวิน สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และถูกบีบทางการเมือง เพื่อเตรียมมือตั้งรับ เนื่องจาก ส.ส.บางส่วนถูก ส.ส.พรรคเพื่อไทย เกณฑ์ชาวบ้าน ในพื้นที่ปิดบ้าน เช่น ที่ จ.นครพนม และเตรียมไปจังหวัดอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ทางกลุ่มจะได้มีการหารือการไปสังกัดพรรคการเมือง ที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจาณาข้อกฎหมายว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ส่งส.ส.ลงรับสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 50 ได้หรือไม่ ซึ่งทางกลุ่มประเมินว่าจะมีกลุ่มบุคคลไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในประเด็นนี้แน่นอน เพื่อสกัดพรรคเพื่อไทยที่ไม่ได้ส่ง ส.ส.ลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น หากไปตั้งกลุ่มการเมืองใหม่จะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนี้ พรรคที่กลุ่มมองไว้ และน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เพื่อจะไม่โดนโจมตีหากเกิดการเลือกตั้งครั้งหน้า

***เพื่อนเนวินเผยยอดหนุนอภิสิทธิ์ 242
ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า ขณะนี้จำนวน ส.ส.ในการจัดตั้งรัฐบาลนิ่งแล้ว โดยอยู่ที่ 242 เสียง แต่ก็ยังมีแนวโน้มว่าจะมีส.ส. เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมอีก ซึ่งหลายคนยังขอเวลารอให้ทุกอย่างชัดเจนกว่านี้ เพราะหากเปิดตัวตอนนี้จะโดนบี้ โดยทุกคนเห็นด้วยกับแนวทางที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบ และประเทศเดินหน้าต่อไปได้

***ถูกกดดันแต่ต้องอยู่ซีกปชป.เพื่อชาติ
นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.เขต 3 บุรีรัมย์ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ยืนยันว่าขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน จะไม่หันกลับไปให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลอีก ที่ตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะว่าได้หารือกันแล้วว่าที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชนเดิม มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถนำพาประเทศให้หลุดพ้นวิกฤตได้ โดยเฉพาะวิกฤตความขัดแย้งในสังคม ทำให้ประเทศไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้จนขณะนี้ประเทศชาติ บอบช้ำมามากพอแล้ว ดังนั้นควรเลือกหนทางที่จะสามารถนำไปประเทศให้ก้าวไป ข้างหน้า ไม่ใช่ตั้งรัฐบาลเพื่อมาพบกับทางตัน ซึ่งสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวินได้หารือกันแล้วจะมีการจัดตั้งพรรคใหม่ขึ้นเอง ขณะนี้รวบรวมส.ส.ได้ประมาณ 40 คนแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ
นายสนอง ยอมรับว่ากำลังมีข่าวกลุ่มเพื่อนเนวิน ย้ายขั้วไปหนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วมีประชาชนบางราย โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงในจ.บุรีรัมย์ ที่สนับสนุนกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งยังรักศรัทธาในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์เข้ามาต่อว่าด้วยความไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ของกลุ่ม ซึ่งได้ชี้แจง ถึงความจำเป็นที่ทางกลุ่มต้องตัดสินใจดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้ประเทศชาติไม่เดิน เข้าสู่ทางตันอีก ประชาชน ก็เข้าใจและยอมรับในการตัดสินใจของกลุ่มเพื่อนเนวิน และยืนยันจะยังคงให้การสนับสนุนส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวินต่อไป เชื่อว่าในพื้นที่จ.บุรีรัมย์จะไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว เพื่อคัดค้านการตัดสินใจย้ายขั้วของกลุ่มเพื่อนเนวินอย่างแน่นอน

***สุเทพลั่น 30 เพื่อนเนวินชูอภิสิทธิ์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเห็นใจที่มีข่าวสับสนเกี่ยวกับจำนวนเสียงสนับสนุนของแต่ละฝ่ายเพราะกลุ่มอำนาจเก่าพยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่ขอยืนยันให้ประชาชนสบายใจได้ว่า กลุ่มที่ได้พูดคุยกับตนเพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลตามความคาดหวังของประชาชนยังคงมีจำนวน 260 เสียง โดยเสียงสนับสนุนสำหรับกลุ่มเพื่อนเนวินมีจำนวนเสียงสนับสนุนอยู่ที่ 30 เสียง อย่างไรก็ดีเชื่อว่าจำนวนเสียงที่จะลงมติให้นายอภิสิทธิ์ยังคงมีจำนวนเท่าเดิมคือเมื่อรวมกันแล้วอยู่ที่ 260 เสียง
สำหรับกระแสข่าวที่ว่ากลุ่มเพื่อนเนวินแสดงความไม่พอใจที่พรรคประชาธิปัตย์ชู นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้แปลก เท่าที่ตนประชุม ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องนี้เลยเพราะเข้าใจกันดี ไม่มีปัญหาตนไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมีข่าวเช่นนี้ เ
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยและได้รับการยืนยันจำนวนเสียงสนับสนุนจากนายเนวิน ชิดชอบ แล้วหรือยัง นายสุเทพ ตอบว่า ครับผม ส่วนการร่วมมือกับพรรคประชาราชนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาราช ตนได้ติดต่อนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช โดยโทรศัพท์ไปยืนยันกับนายเสนาะแล้ว คงต้องให้นายเสนาะพิจารณาสัก 2-3วัน
ท่านเสนาะพูดว่าขอเวลาตัดสินใจ ส่วนวันนี้ผมกับท่านหัวหน้าพรรคจะไปพบ คุณบรรหาร (ศิลปอาชา) เพื่อไปทำหน้าที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยจะไปกราบ เรียนเชิญท่านอย่างเป็นทางการตามมารยาทเพราะเราเป็นผู้น้อย
นายสุเทพ ยืนยันว่า จนถึงวันนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลเพราะมีเสียงสนับสนุนถึง 260 เสียงแน่นอน จึงมั่นใจร้อยเปอร์เซนต์

*** อภิสิทธิ์มั่นใจตั้งรัฐบาลได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า ยังมีความมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ แม้จะมีความ พยายามอย่างหนักที่จะกดดันในทุกรูปแบบ เพื่อให้กลุ่มส.ส.ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์หันกลับไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่ยังมั่นใจในจิตสำนึกของ ส.ส.ว่าจะทำเพื่อชาติ ทำให้กระบวนการกดดันต่างๆ ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการเมืองครั้งนี้
ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าจะปิดล้อมสภาในวันที่มีการลงมติเลือก นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐบาลรักษาการที่จะต้องดูแลรับผิดชอบในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และคนเป็นรัฐบาลคงไม่คิดที่จะปลุกม็อบขึ้นมาต่อต้าน ในเมื่อ การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างชอบธรรมตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ และกลุ่มเสื้อแดงประกาศมาตลอดว่าต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับกรณีที่ถูกโจมตีว่าไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงหลายครั้งแล้วว่าช่วงนั้นไปศึกษาต่อต่างประเทศ และช่วงนั้นได้สอนหนังสือที่โรงเรียนนายร้อยจปร.และติดยศร้อยตรี จึงไม่กังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคจนทำให้ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่ามีการเสนอตัวเลข 8 หลัก ให้พรรคเพื่อแผ่นดินเพื่อกลับไปร่วมกับแกนนำรัฐบาลเดิม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าคงมีความพยายามหลายรูปแบบ ในขณะนี้ แต่ตนเชื่อว่าเมื่อได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันน่าจะพยายามทำให้สำเร็จเพราะเป้าหมายสุดท้ายคือทำอย่างไรให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้
ส่วนจะมีการพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบเป็นการส่วนตัวหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงได้มีการพูดคุยกันในเร็วๆ นี้ โดยนายสุเทพเป็นผู้ประสานงานหลัก ซึ่งจำนวน ส.ส.ที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ยังคงอยู่ที่ 260 เสียง ตามที่นายสุเทพเคยยืนยัน

***เปิดโผ ครม.พรรคร่วมได้เก้าอี้เดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดสรรตำแหน่งคณะรัฐมนตรีนั้น ในเบื้องต้น ได้ตกลงกันว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะยังคงให้ตำแหน่งรัฐมนตรีกับพรรคร่วมในสัดส่วนเดิมที่เคยเป็นมา คือ พรรคชาติไทย ยังคงได้ 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รมว.เกษตรกรและสหกรณ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ รมช. คมนาคม พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ 4 ตำแหน่ง ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรี รมว.อุตสาหกรรม รมช.คลัง และ รมช.มหาดไทย พรรครวมใจไทย ได้ 2 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รมว.พลังงาน และรมช.คลัง ส่วนกลุ่มเพื่อนเนวิน ได้ 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รมว.คมนาคม รมช.คมนาคม รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรมช.มหาดไทย
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ นั้นจะได้โควตาเดิมที่เคยเป็นของพรรคพลังประชาชน จำนวน 18 ตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจัดวางตำแหน่งลงตัวได้ เนื่องจากมีสมาชิกจำนวนมากที่ต้องการจะได้ตำแหน่ง อีกทั้งมีการกำหนดห้ามคน ที่เป็นส.ส.ไม่สามารถเป็นเลขานุการรัฐมนตรี หรือตำแหน่งทางการเมืองอื่นด้วย เว้นแต่ตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้การจัดสรรตำแหน่งยิ่งทำได้ยากขึ้น อีกทั้งส.ส.แต่ละคนล้วนอาวุโสทางการเมืองทั้งสิ้น ประกอบกับที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลมานานทำให้หลายคนแสดงความจำนงจะมีตำแหน่งด้วย

***มาร์ค นายกฯควบ รมว.ศึกษาฯ
สำหรับ ตำแหน่งที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ โดยมี นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เป็นเลขานุการนายกรัฐมนตรี นายชินวรณ์ บุญเกียรติ เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรมว.มหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รมช. มหาดไทย
ส่วนกระทรวงต่างประเทศนั้น ขณะนี้มีการช่วงชิงกันระหว่าง นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ และนายไกรศักดิ์ ชุณหวัน รองหัวหน้าพรรค ส่วนคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช จะเป็น รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่วนคนที่คาดว่าจะได้ตำแหน่ง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะให้ลงกระทรวงไหน คือ นายชัยวุฒิ บรรณวัตร รองหัวหน้าพรรค นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตส.ส.จ.แพร่
สำหรับระทรวงการคลังนั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ โดยในเบื้องต้นมีการวางตัวไว้ที่นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรค แต่ก็มีการกันตำแหน่งไว้ 2 ตำแหน่งสำหรับคนนอกที่มีความรู้ความสามารถและเรียกความเชื่อมั่นจากทุกส่วนได้
โดยมีรายงานข่าวว่า แกนนำพรรคได้ทาบทาม ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล อดีต ผู้ว่าธปท. และนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย มาเป็นทีมเศรษฐกิจ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายห้ามผู้บริหารสถาบันการเงิน มาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลังพ้นตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หาก นายชัย ชิดชอบ จะลาออกจากการเป็นประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อมารับตำแหน่ง รมว.คมนาคม ตามความต้องการของนายเนวิน ชิดชอบ ทางพรรคได้วางตัวให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ไปนั่งเป็นประธานสภา โดยนายบัญญัติมีท่าทีตอบรับกับตำแหน่งนี้

***มาร์คนำเทียบเชิญไปให้เติ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพักของนายบรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ ว่า เมื่อเวลา13.30 น.วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกระเช้าดอกกุหลาบสีแดง มาเข้าพบนายบรรหาร โดยมีอดีตแกนนำ พรรคชาติไทย อาทิ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ นายอัศวิน วิภูศิริ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง คอยให้การต้อนรับ
นายบรรหาร กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์มาขอคำแนะนำและพูดคุยถึงสถานการณ์ บ้านเมือง ซึ่งตนไม่ใช่ มังกรการเมือง ตอนนี้เปรียบ เสมือน มังกือการเมือง ถูกเด็ดหัวเด็ดหาง และเห็นว่าการเมืองรุ่นตนหมดสมัยไปแล้ว คงต้องไปเป็นที่ปรึกษา ส่วนการเมืองรุ่นใหม่ต้องได้คนหนุ่มไฟแรง มีความรู้ความสามารถ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีความอดทนและขยัน หากอยู่ในแนวนี้ก็เชื่อว่าสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้

*** บรรหารให้เพื่อไทยยอมรับสภาพ
นายบรรหารเห็นว่า บ้านเมืองเกิดวิกฤติ จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ไม่ควรถือฝัก ถือฝ่าย ถ้าปรองดองกันได้จะเป็นเรื่องดี ดังนั้น หากใครสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ อีกฝ่ายควรยอมรับและแสดงความยินดี เหมือนประเทศสหรัฐ เมื่อนายบารัค โอบามา ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็โทรศัพท์ไปแสดงความยินดี
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวหลังเข้าพบนายบรรหารว่า การพูดคุยกันในวันนี้เป็นไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ เพราะเข้าใจความรู้สึกของทุกคนในตอนนี้ ที่ต่างอยากทำให้บ้านเมืองดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายบรรหารให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังการเข้าพบของ นายอภิสิทธิ์ ว่า อยากจะไปบวช ส่วนการที่นายอภิสิทธิ์มาพบก็ไม่อยากให้สื่อ ตีความว่าเป็นการส่งเทียบเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล เพราะไม่มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าว แต่เป็นการหารือเรื่องทั่วๆ ไปของบ้านเมือง เพราะหลังจากที่เป็นฝ่ายค้านมาด้วยกันก็ไม่ได้เจอกันอีก ส่วนกรณีที่กลุ่ม นปช.เตรียมชุมนุมเคลื่อนไหวอีกนั้น ส่วนตัวอยากขอร้องทุกกลุ่มหยุดการเคลื่อนไหว เพราะเศรษฐกิจพังพินาศไปหมดแล้ว

***ย้ำหนุนอภิสิทธิ์นั่งนายกฯ
ส่วนพรรคชาติไทยยอมเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ข้อตกลงต่างๆ ให้ไปถาม พล.ต.สนั่น เพราะเป็นผู้เจรจา
ขณะที่ พล.ต.สนั่น กล่าวภายหลังการเข้าพบของนายอภิสิทธิ์ว่า มาถึงวันนี้คิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คือ ให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นมติของพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนที่มีข่าวว่าบางคน ในพรรคแตกแถวนั้น กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา จะมีก็เพียงเล็กน้อย ซึ่งมีเพียงพอที่จะสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้
มาถึงตรงนี้ มาบอกว่าเสียงไม่พอ ก็ต้องเอาคนจัดตั้งรัฐบาลไปยิงเป้า ผมว่าบริหารไปแล้ว ตั้งรัฐบาลแล้ว ก็ยังมีเวลาอีก 60 วันที่จะย้ายพรรค ดังนั้นก็คงมาร่วมกันมากขึ้น

***มัชฌิมาฯ ย้ำไม่กลับไปซีกเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายว่าจากนั้น นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสุเทพ และแกนนำพรรค ได้เดินทางไปพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมาธิปไตย ที่บ้านพักย่านสนามบินน้ำ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังบ้านพักนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในเวลา 15.00 น. โดยมีนายสมศักดิ์ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย นางพรทิวา นาคาศัย อดีตเลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย ให้การต้อนรับ และมีการหารือประมาณ 20 นาที
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า หลังจากเข้าพบตัวแทนพรรคมัชฌิมาธิปไตย แล้ว วันนี้ (9 ธ.ค.) จะไปพบกลุ่มเพื่อนเนวิน ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดินนั้น คงต้องรอ ให้การประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อให้คัดเลือกหัวหน้า และกรรมการบริหารพรรค เพื่อแผ่นดิน เสร็จเรียบร้อยก่อน โดยเวลา 12.00 น.จะเดินสายไปพบแกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา จากนั้นเวลา 14.00 น.จะไปพบแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน

***เพื่อไทยยังดิ้นตั้งรัฐบาลแข่ง
สำหรับบรรยากาศความเคลื่อนไหวที่พรรคเพื่อไทยตลอดทั้งวันนั้น มี ส.ส. ทยอยเดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรคอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรมว.สาธารณสุข นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รักษาการรมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา อดีตประธานวิปรัฐบาล ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน นายมามิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลพล ส.ส.อุบลราชธานี และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกรัฐบาล เป็นต้น เพื่อหารือกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล
นอกจากนี้ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ี ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทยด้วย
อัด ปชป.อยากเป็นรัฐบาลจนตัวสั่น

***อ้าง ปชช.ขู่จนเพื่อนเนวินต้องกลับ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สมาชิกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนทราบว่ พี่น้องของตน มีความทุกข์เพราะได้รับโทรศัพท์จากประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากตอนนี้บางพรรค นำรายชื่อและตำแหน่งส.ส.พรรคพลังประชาชนไปอ้าง ซึ่งส.ส.เหล่านั้นที่อ้างชื่อ ก็มาอยู่ที่นี่ เช่น นางบุญรื่น และนายนิพนธ์ ศรีธเรศ นายพีรเพชร ศิริกุล นายประเสริฐ บุญเรือง นายวีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ ส.ส. กาฬสินธุ์ นายไชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู นายพิษณุ หัตถสงเคราะหนายวิชัย สามิตร ส.ส.หนองบัวลำภู นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี และพวกอีก7คนที่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ รวมทั้งพล.อ.สมชาย พิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี ก็ย้ายมาตามปกติหลังพรรคพลังประชาชนโดนยุบด้วย ดังนั้นทั้งหมดนี้จึงขอมาคลายทุกข์ว่า ไม่ไปไหน มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ต้น
ทั้งหมดนี้ยอมรับว่าเป็นเพื่อนของกลุ่มเพื่อนเนวินจริง แต่วันนี้มาอยู่ พรรคเพื่อไทย และทราบว่าประชาชนในอีสานจะเคลื่อนไปบ้านของ ส.ส.เหล่านั้นแล้ว อีกไม่กี่วันไม่กี่ชั่วโมงนี้จะมีของใหม่คือ ส.ส.พรรคอื่นจะมาอยู่ที่นี่

*** มั่นใจเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้แน่
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พรรคของเราเมื่อรวมกันจะแข็งแก่งเป็นปึกแผ่น ขอฝาก ไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า อย่าประดิษฐ์คำพูดว่าพรรคเพื่อไทยไปดูดไปดึงส.ส. คนพวกนี้เป็นพวกของตนทั้งนั้น แต่พรรคประชาธิปัตย์มาแซะเอาไป พรรคเพื่อไทยก็เอาคืน และขอบคุณที่พรรคประชาธิปัตย์ไปยื่นเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญแล้ว พวกตนจะไม่ไปยื่นขอเปิดประชุมเพราะจะซ้ำซ้อน ตอนนี้พรรเพื่อไทยมีส.ส. 220 คน และยังคิดว่าพรรคพวกจะกลับมาที่นี่เรื่อยๆ แม้จะมาช้าแต่ก็ไม่ไปไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวนั้น บรรดากองเชียร์ พรรคเพื่อไทย ที่เข้ามาฟังการแถลงข่าวด้วยนั้น ได้มีการสอบถามร.ต.อ.เฉลิมเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลด้วยว่ามั่นใจหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องรอวันโหวตเลือกนายกฯ ส่วนรายชื่อนายกฯนั้นก็ไม่ต้องมาจากพรรคเพื่อไทยก็ได้ พรรคร่วมฯ สามารถเสนอชื่อ ได้เลย แต่เวลาโหวตนั้นชนะหรือแพ้ยังไม่ทราบ ส่วนข้อกังวลว่าพรรคเพื่อไทย อาจแพ้โหวตเพราะส.ส.ไม่พอนั้น เชื่อว่าสุดท้ายแล้วกลุ่มเพื่อนแนวินจะมาอยู่ที่นี่ นอกจากนี้บรรดากองเชียร์ยังสอบถามด้วยว่า ปัญหาการเมืองตอนนี้มาจากกองทัพและอดีตคมช.ล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ทหารไม่เกี่ยวกับการเมือง อย่าไปพูดถึง
นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวว่าส.ส.อดีตพรรคพลังประชาชน ย้ายไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เพื่อตั้งรัฐบาลมีกระแสความไม่พอใจของชาวบ้าน ในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยรู้สึกรับไม่ได้กับการตัดสินใจของส.ส.เหล่านั้นเพราะตอนนี้ ส.ส.ส่วนหนึ่งที่หันไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ไปหลอกชาวบ้านว่าไม่ย้ายไปไหน ยังอยู่ ถ้าชาวบ้านรู้ความจริงเชื่อว่าจะลงพื้นที่ในเขตเลือกตั้งไม่ได้ ที่ผ่านมาส.ส.บางคน ก็ถูกชาวบ้านไปล้อมบ้านปาอึ คงจะมีอีกหลายพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวเช่นนี้ และเชื่อว่าในสัปดาห์หน้าจะวุ่นวายกว่านี้ จะมีประชาชนออกมากดดันหนักกว่านี้

***วิทยาให้รอดูนาทีสุดท้าย
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าแม้พรรคประชาธิปัตย์จะรวบรวมรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 3 เพื่อยื่นขอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ยังไม่ถือว่าเป็นชัยชนะในการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล เพราะใครก็ตาม ที่รวบรวมรายชื่อ ส.ส. ได้ครบตามจำนวนที่กำหนด ก็สามารถยื่นขอเปิดประชุมได้
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเลือกนายกฯ เพราะทั้งหมดอยู่ที่การโหวตของ ส.ส. แต่ละพรรคแต่ละคน ตอนนี้ต้องรอให้ ส.ส.เปล่งเสียงออกมาก่อนว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี
นายวิทยา ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมยอมรับหากพรรคประชาธิปัตย ์มีเสียงข้างมาก แต่หากพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก พรรคประชาธิปัตย์ต้องยอมรับเช่นกัน สำหรับพรรคเพื่อไทย ไม่เคยไปดึง ดูด หรือปล้น ส.ส.ของพรรคอื่น มาร่วมงานด้วย ส.ส.ทุกคนเป็นอิสระ ดังนั้น จึงต้องรอดูกันในนาทีสุดท้าย ถึงจะรู้ว่า ส.ส.คนไหน สนับสนุนใครเพราะจนถึงขณะนี้ยังมีการพลิกไปพลิกมา
ผู้สื่อข่าวถามว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยพยายามดึงพรรคเพื่อแผ่นดินกลับมาร่วมรัฐบาล นายวิทยา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเคยทำงาน ร่วมกันมา ได้ประสานและพูดคุยกันอยู่ ซึ่งหลายคนในพรรคเพื่อแผ่นดินยังไม่ได้ตัดสินใจไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น หลายคนมีการประสานมายังพรรคเพื่อไทย และกลับมาให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ซึ่งถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่เห็นว่านโยบายพรรคเพื่อไทย สามารถตอบสนองให้กับประชาชน ที่เลือกเข้ามาเป็นตัวแทน ซึ่งหากไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.เหล่านั้นจะกลับไปบอกกับประชาชนอย่างไร ตอนนี้อุดมการณ์ทางการเมืองเป็นคนละฝ่ายชัดเจนอยู่แล้ว

***เปิดทางพรรคอื่นเสนอชื่อนายกฯ
ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานที่ปรึกษา พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ใหญ่ในพรรค ได้คุยกันแล้วและเห็นตรงกันว่า คนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็นคนของ พรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยจะสร้างมิติทางการเมืองใหม่ให้เห็น เรื่องนอมินีจะไม่มี เพราะต้องการขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตยให้เดินไปข้างหน้า และหมากนี้ไม่ใช่ไพ่ใบสุดท้าย นอกจากนี้พรรคไม่เคยยื่นข้อเสนอให้กับ ส.ส. ที่รวบรวม รายชื่อได้ครบ 5 คน จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง เพราะตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้มีมากมายถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย ยังคงมี ส.ส. ของพรรคเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันประเมิณสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า มี ส.ส.จังหวัดสุรินทร์ ของพรรคตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคเพื่อแผ่นดิน อีกจำนวนหนึ่งด้วย อาทิ นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ และนางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ

***งัดชื่อกลุ่มเพื่อนเนวินโชว์
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย แถลงร่วมกับ ส.ส.อีสาน ประมาณ 10 คน ว่าได้นำหนังสือขอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี พร้อมรายชื่อ ส.ส. ไปส่งให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ แต่ประธานสภาฯ ไปต่างจังหวัด และรองประธานสภาฯ รับเรื่องแทนไม่ได้ ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จึงจะไม่ยื่นอีก เพราะเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นไปแล้ว
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวขอเปิดประชุมสภาฯ ของพรรคเพื่อไทยนั้นเชื่อมั่นว่าจะมี ส.ส.สนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้จัดตั้งรัฐบาลเกินกว่ากึ่งหนึ่งแน่นอน แม้จะมีรายชื่อ ส.ส.บางส่วนไปซับซ้อนกับรายชื่อ ในมือของพรรคประชาธิปัตย์ แต่รายชื่อในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นของจริงแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อให้สื่อมวลชนทราบได้
มี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินที่เข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้ว อาทิ นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น นายธนเทพ ทิมสุวรรณ และนางนันทนา ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย รวมทั้งนายวิเชียร อุดมศักดิ์ ส.ส.อำนาจเจริญ ฉะนั้นตอนนี้กลุ่มเพื่อนเนวินเหลือเพียง 15-17 คนที่ยังสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าเรายังมีเวลา
ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าว ได้มีการนำบัญชีรายชื่อ ส.ส. ซึ่งระบุว่ามีจำนวน 230 คน มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู แต่เมื่อผู้สื่อข่าวขอคัดลอกรายชื่อดังกล่าว เพื่อนำไป ตรวจสอบ แต่ถูกปฏิเสธแต่เปิดให้ดูเท่านั้น ซึ่งพบว่า จากรายชื่อส.ส.ที่เซ็นชื่อไว้ทั้งสิ้น 14 แผ่น คาดว่ามีส.ส.ทั้งหมดไม่น่าจะเกิน 140 คน โดยในจำนวนนี้มีรายชื่อ ส.ส.พรรคประชาราช จำนวน 5 คน รวมอยู่ด้วย ขณะที่รายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีส่วนหนึ่งซ้ำซ้อนกับรายชื่อ ที่ไปร่วมลงชื่อกับพรรคประชาธิปัตย์

***วิเชียรโต้ทันควันเพื่อไทยมั่ว
ด้านนายวิเชียร อุดมศักดิ์ ส.ส.อำนาจเจริญ กลุ่มเพื่อนเนวิน เปิดเผยว่า การที่ ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ออกมาระบุว่า ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินกลับมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย จนเหลือเพียง 15 คนที่ยังสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนพร้อมทั้งส.ส.ในกลุ่มฯยังคงเหนียวแน่นในการสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่พลิกมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยแน่นอน ทั้งนี้ ตนก็อยากเห็นรายชื่อที่เซ็นชื่อเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ได้รับทราบจาก ส.ส.ในกลุ่มว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ก็จะมาอยู่กับเราด้วย

***ยงยุทธขอเสนาะช่วยประสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายวิทยา บุรณศิริ พร้อมแกนนำได้เดินทางไปพบ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ย่านเมืองทองธานี เพื่อหารือถึงการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ต่อมาเวลา 15.50 น. พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้เดินทางมายังบ้านพักนายเสนาะด้วย โดยปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงวัตถุประสงค์ที่เดินทางมา
หลังจากที่แกนนำพรรคเพื่อไทยได้เข้าพบนายเสนาะ เป็นเวลาประมาณ 1 ชม.เศษ นายวิทยา เปิดเผยว่า ได้เข้าพบนายเสนาะในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ เพื่อขอแนวทางและคำแนะนำ ซึ่งนายเสนาะได้ให้คำแนะนำว่า ให้เห็นแก่บ้านเมือง ซึ่งนายยงยุทธเองก็ยืนยันกับนายเสนาะว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ต้องการเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องการให้เดินไปในแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย ใครจะมาเป็น นายกรัฐมนตรีก็แล้วแต่พรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นว่าเหมาะสม
เราได้ขอให้นายเสนาะเป็นตัวแทนประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เพื่อจัดตั้งรัฐบาล และหลังจากนี้ นายยงยุทธ จะเดินสายพบหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึง นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อแสดงเจตนารมณ์ขอให้มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.อ.เชษฐา ได้เดินทางออกจากบ้านพักนายเสนาะ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า มาคุยกันเล่นๆ ไม่มีอะไร เมื่อถามว่า พรรครวมใจไทยฯ ตัดสินใจอย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ พรรครวมใจไทยฯ ไม่มีขั้ว เราอยู่ตรงกลาง

***เสนะชูส.ส.พรรคเล็กขึ้นนายกฯ
ด้านนายเสนาะ เทียนทอง ให้สัมภาษณ์ว่า กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ขั้วไหน แต่อยู่ขั้วประชาชนและราชบัลลังก์ ซึ่งตอนนี้หากใครเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจะก็เกิดความขัดแย้ง ต้องตั้ง รัฐบาลเพื่อชาติ
ตอนนี้บ้านเมืองทรุดหนัก ผมอายุ 75 ปีไม่เคยเห็นบ้านเมืองทรุดขนาดนี้ เราเคยเห็นเวียดนามเหนือ เวียดนามใต้ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ หากประเทศไทย แก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็จะเป็นไทยเหนือ ไทยใต้ได้ ดังนั้นจึงขอยืนยันแนวคิดเดิมว่า นายกฯ จะมาจากพรรคพลังประชาชนเดิมไม่ได้ และมาจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เช่นกัน นี่หากนายบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง ตนก็จะเสนอให้ นายบรรหารเป็นนายกฯ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้นายกฯจะต้องมาจาก 5 พรรคร่วมเดิม ซึ่งจะเป็นใครก็ต้องคุยกันต่อไป แต่ไม่ใช่นายเสนาะแน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็มีตัวเลือกเป็นอดีตนายทหารใหญ่และอดีตนายตำรวจใหญ่อยู่

***ฟันธง ปชป.ตั้งรัฐบาลไม่ได้
นายเสนาะ กล่าวว่า ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ตนเสนอแนวคิดรัฐบาลเพื่อชาติ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็โทรศัพท์มาบอกว่าเห็นด้วย แล้วก็ไปคุยกับกลุ่มเนวิน ชิดชอบ และกลุ่มของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม รวมทั้งกลุ่มของนายสุชาติ ตันเจริญ ก็พูดกันว่าจะเอาแนวทางรัฐบาลเพื่อชาติ แต่พรรคพลังประชาชนเดิมคงเคลื่อนไหวช้าไป ทำให้กลุ่มของนายเนวินไปประกาศหนุนพรรคประชาธิปัตย์และชูนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ซึ่งทำอย่างนั้นไม่ได้แล้ว เมื่อตนเสนอให้มีรัฐบาลเพื่อชาติ แต่จะให้ไปหนุนพรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่ใช่ นายเสนาะแล้ว แต่เป็นหมาไปแล้ว
ขอเตือนให้พรรคประชาธิปัตย์ยุติการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เพราะรู้ๆ อยู่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯแล้วไปเหนือไม่ได้ ไปอีสานไม่ได้ แล้วอย่างนี้จะเป็นอย่างไร ผมฟันธงว่าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่ ตอนนี้ก็ไม่มีใครเอาด้วยแล้ว กลุ่มนายสรอรรถ ก็มาคุยกับผมเรียบร้อยแล้วว่า ไม่ไปหนุนกลุ่มนั้น พรรคเพื่อแผ่นดินวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ก็จะประชุมพรรค พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกก็จะเป็นหัวหน้าพรรค แล้วถามว่าถ้า พล.ต.อ.ประชา ไปชูมือสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ จะกลับอุดรธานีได้เหรอ นี่ผมก็เพิ่งโทรศัพท์คุยกับ พล.ต.อ.ประชา ก็บอกว่าถ้าผมเอาแนวทางไหน เขาก็เอาด้วย พล.อ.เชษฐา ก็เอาด้วยแล้วอย่างนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นไปได้ยังไง ผมยืนยันเต็มร้อยว่าส่วนใหญ่เอาตามแนวทาง ที่ผมเสนอไป วันนี้เหลืออยู่เพียงพรรคเดียวที่ยังไม่ได้คุย คือพรรคชาติไทย เพราะเกรงใจพี่บรรหาร แต่ต่อไปก็คงต้องคุยกัน

***เพื่อไทยโว 3 พรรครับลูกเสนอนายกฯ
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ส.ส.กลุ่มภาคกลางของ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำพรรคไทยรักไทยเดิมนั้น มีแนวโน้มว่าจะไปจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน โดยได้โควตารัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง แม้จะมีส.ส.ภาคกลางบางส่วนแยกตัวออกไปสังกัดพรรคเพื่อไทยก็ตาม
ส่วนนายเสนาะ เทียนทอง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร มีการนัดหารือกันภายหลังนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบนั้น ปรากฎว่า ทั้ง 3 คนยอมรับข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยที่จะให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้ทั้ง 3 คนไปตกลงกัน ซึ่งแนวโน้มมีความเป็นไปได้มากที่สุดว่า พล.ต.อ.ประชาน่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

***นัดถกเนวินเปลี่ยนขั้ววันนี้
รายงานแจ้งด้วยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำอดีตพรรคพลังประชาชน อยู่ระหว่างการประสานพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินตลอดทั้งวัน เพื่อขอให้พาส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวินกลับมาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทย
นายวิทยา บุรณศิริ อดีตประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่า คณะเจรจาซึ่งประกอบด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตน และอดีตแกนนำที่เป็นเพื่อนกับนายเนวินนั้น ได้นัดพบเจรจากับนายเนวินในวันนี้(9 ธ.ค.)เพื่อขอให้กลับมาร่วมงานกันต่อไป แต่ยังไม่ทราบกำหนดเวลาและสถานที่ ส.ส.เหนือ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย และนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน กำลังจะเดินทางออกจากพรรคเพื่อไทยนั้น ได้พูดเปรย กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์เขาเล่นไป แต่วันพรุ่งนี้เป็นวันของเราบ้าง จะมีเซอร์ไพรส์ก่อน 5 โมงเย็น ให้รอดูให้ดีๆ จากนั้นจึงเดินออกจากพรรคไปอย่างอารมณ์ดี

***แฉแม้วเฉ่งเนวินไม่สำนึกบุญคุณ
อย่างไรก็ตามมีรายงานด้วยว่าตลอดทั้งวัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้สั่งให้แกนนำ พรรคเพื่อไทย พยายามต่อสายถึงนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้พาส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินกลับมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย แต่ปรากฎว่า นายเนวินไม่รับโทรศัพท์จากแกนนำของพรรคเพื่อไทย พ.ต.ทักษิณจึงโทรศัพท์ถึง นายเนวิน เพื่อเจรจาด้วยตัวเอง
ทั้งที่ก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณเคยโทรศัพท์มาต่อว่านายเนวินหลังจากที่ทราบ ว่า ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินยืนยันว่าจะไม่กลับมาอยู่พรรคเพื่อไทยว่า ไม่สำนึกบุญคุณ แต่นายเนวินยังยืนกรานว่าจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า ยอมรับว่า มีแกนนำของพรรคเพื่อไทยประสานให้นายเนวินพาส.ส.ในกลุ่มกลับไปอยู่ พรรคเพื่อไทย แต่นายเนวินเลือกที่จะคุยกับแกนนำบางคนเท่านั้น ทั้งนี้ ตนทราบว่าระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณสนทนากับนายเนวินนั้น ปรากฎว่านายเนวินมีสีหน้าไม่สู้ดี โดยพูดเพียงสั้นๆว่า ทุกอย่างจบแล้วครับนาย

***ป้าอุรับอยากเป็นรัฐบาล
นางอุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยานายเสนาะ เทียนทอง กล่าวว่า ขณะนี้พรรคประชาราชยังคงมีจุดยืนตรงกลางเพราะยังไม่ทราบว่าขั้วการเมืองใดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากตัวเลข ส.ส.ยังไม่ชัดเจน ยังมีการดึงกันไปมา ขณะนี้เลยไม่ทราบว่า จะเข้าร่วมกับฝ่ายใด พรรคมี ส.ส.เพียง 5 คน ถือเป็นพรรคเล็กๆ จึงไม่ต้องต่อรอง
หากพูดกันตรง ๆ ใครบ้างไม่อยากเป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หากถึงที่สุด ต้องเป็นพรรคฝ่ายค้าน ก็พร้อมจะเป็น
นางอุไรวรรณ กล่าวว่าที่ไปแถลงข่าวร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น ไม่ได้ไปแสดงจุดยืน แต่เป็นการไปดูท่าทีและข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ก่อนจะตัดสินใจ ซึ่งข้อสรุปในวันนั้นคือพรรคเพื่อไทยจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้ 5 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเป็นผู้เสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสม สำหรับท่าทีของนายเสนาะ ในขณะนี้ คืออยากขออยู่ตรงกลาง และอยากเห็นทุกพรรคเป็นรัฐบาลเพื่อชาติ เนื่องจากหากปล่อยให้ขั้วใดขั้วหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลจะเกิดม็อบเสื้อเหลืองเสื้อแดงอยู่ดี

***พผ.กั๊กขั้วไหนตั้งรัฐบาลได้เอาด้วย
นายไชยยศ จิรเมธากร รักษาการโฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ส.ส. พรรคเพื่อแผ่นดิน ทั้ง 25 เสียงคือส.ส.ของพรรคเดิมที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 21 คน รวมกับส.ส.ของพรรคพลังประชาชนกลุ่มเพื่อนเนวินที่ย้ายมาสังกัดกับพรรคเพื่อแผ่นดินอีก 4 คนจาก จ.สุรินทร์ ได้แก่นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา นางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจและนายเลิศศักดิ์ ทัศนเศรษฐ ได้เข้าชื่อสนับสนุน ให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญไปแล้ว และทุกคนพร้อมจะตัดสินใจ ทางการเมืองไปในทิศทางเดียวกันไม่ว่าพรรคจะมีมติอย่างไร
ส่วนที่แกนนำพรรคเพื่อไทย จะสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานคณะที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายไชยยศ ตอบว่า ขึ้นอยู่กับมติพรรคที่ขณะนี้มีการพูดคุยกับส.ส.ของพรรคอยู่ตลอดเวลา
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อแผ่นดินเปิดเผยว่า ส.ส.ในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน จำนวน 21 คน จาก 24 คน ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีเสียง ส.ส.อยู่ในอันดับ 2 ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้แบ่งกำลังกระจายไปทั้งสองทาง เพื่อดูสถานการณ์ว่าใครมีแนวโน้มตั้งรัฐบาลได้ ก็พร้อมสนับสนุน แต่เสียงส่วนใหญ่โน้มเอียงไปในซีกของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีทั้งกลุ่ม ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำ กลุ่มนายไพโรจน์ สุวรรณฉวี และกลุ่ม ส.ส.อีสานทั้งหมด 13 คน ส่วน ส.ส.อีก 8 คน อาทิ นายมั่น พัธโนทัย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ม.ร.ว.กิติวัฒนา ปกมนตรี นพ.แวมาฮะดี แวดาโอ๊ะ ยังกั๊กอยู่กับพรรคเพื่อไทย เพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มจากเดิม และจะมีท่าทีที่ชัดเจนเมื่อข้อตกลงลงตัว และพรรคจะเทคะแนนเสียงทั้งหมดให้กับแกนนำที่จัดตั้งรัฐบาลได้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (9 ธ.ค.) พรรคเพื่อแผ่นดินจะมีการเลือกหัวหน้าพรรค แทน นายสุวิทย์ คุณกิตติ ที่ลาออกไป โดยมีรายงานด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปยังพรรคเพื่อแผ่นดินเพื่อส่งเทียบเชิญ อย่างเป็นทางการ.
กำลังโหลดความคิดเห็น