ปชป.ตีปีก เผย “ป๋าเหนาะ” ดันรัฐบาล “เพื่อชาติ” ไม่สำเร็จ หาทางลงติดต่อ “สุเทพ” ขอร่วมรัฐบาลแล้ว เตรียมโควตา รมว.แรงงานรองรับ ยัน 260 เสียงแน่นปึ้ก “เพื่อแม้ว” ดูดกลับ 20 ส.ส.แค่ราคาคุย ถ้าจริงประกาศตั้งรัฐบาลไปแล้ว ไม่ห่วง “นช.แม้ว” โฟนอิน เหตุอดีตพรรคร่วมยืนยันหนุน “มาร์ค” หนักแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้เรียกประชุมแกนนำพรรค เพื่อประเมินสถานการณ์การจับขั้วตั้งรัฐบาลนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรค นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรค โดยได้มีการประเมินกันถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรค ออกมาแถลงข่าวโจมตีการตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ถึง 2 ครั้ง โดยในที่ประชุมเห็นว่าท่าทีดังกล่าวเป็นเพราะนายเสนาะได้ไปตกลงกับพรรคเพื่อไทยเรื่องการตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ และเชื่อว่าเมื่อการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติไม่สำเร็จ นายเสนาะได้หาทางลง โดยได้ประสานมายังนายสุเทพเพื่อติดต่อขอร่วมรัฐบาลแล้ว โดยเบื้องต้นพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมโควตารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไว้ให้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้หารือถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 13 ธันวาคม โดยส่วนใหญ่เห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากขณะนี้แกนนำอดีตพรรคร่วมและกลุ่มการเมืองทุกกลุ่มที่ร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยืนยันว่าตัวเลขขณะนี้ได้นิ่งแล้ว โดยจะมี 260 เสียงโหวตให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่าสามารถดูด ส.ส.คืนไปได้ 20 เสียง ที่ประชุมประเมินว่าเป็นเพียงการเกทับกัน ไม่มีมูลความจริง เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถดึง ส.ส.ไปได้จริง จะต้องประกาศจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนี้พรรคจะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ เนื่องจากกังวลว่าอาจมีการเล่นเกม เพื่อไม่ให้มีการเปิดประชุมสภาได้
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้ขณะนี้จะมีความชัดเจนว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ ก็ยังไม่นิ่ง ซึ่งแหล่งข่าวในพรรคแจ้งว่า จากเดิมที่พรรคประชาธิปัตย์ได้โควตา 17-18 ตำแหน่งรวมถึงในโควตาคนนอกอีก 2 คน ล่าสุดสัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคลดลงเหลือ 15 ตำแหน่งเพื่อแบ่งให้กับพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะต้องมีการเจรจาต่อรองกันอีกครั้ง
ส่วนตำแหน่งของนายอภิสิทธิ์เองที่ก่อนหน้านี้จะขอควบตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการด้วยนั้น มีความเป็นไปได้ว่าที่สุดแล้วอาจจะทาบทามบุคคลภายนอกมานั่งแทน เนื่องจากเห็นว่า การทำงานของนายกฯ ในครั้งนี้ต้องเจอภาระหนักอย่างมาก เพราะสภาพปัญหาของบ้านเมืองขณะนี้มีความวิกฤตมากกว่าที่ผ่านมา คนเป็นนายกฯ จะต้องทำงานทุ่มเทมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า ดังนั้น หากควบสองตำแหน่งอาจจะทำไม่ไหว
ส่วนกระทรวงการคลัง อาจเป็นไปได้ว่านายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรค ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการเอง โดยจะมีบุคคลภายนอกมาร่วมทำงานด้วย ส่วน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าฯ ธปท.และนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทยนั้นอาจจะติดปัญหาข้อกฎหมาย
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในช่วงเย็นวันที่ 11 ธ.ค. นายสุเทพได้เดินทางไปหารือกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช อีกครั้งเพื่อเทียบเชิญเข้ามาร่วม ครม.โดยยื่นข้อเสนอให้อยู่ในตำแหน่งเดิม คือ กระทรวงแรงงาน ของนางอุไรวรรณ เทียนทอง ขณะที่มีรายงานว่าแกนนำ พรรคเพื่อแผ่นดินได้พยายามต่อรองขอเพิ่มตำแหน่งจากเดิมที่เคยได้จากพรรคพลังประชาชน คือกระทรวงสาธารณสุข โดยพรรคเพื่อแผ่นดินต้องการให้ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีต รมช.สาธารณสุข สมัย คมช.มานั่ง