พรศิริ สั่ง ทุกสำนักงานในต่างประเทศ ลงพื้นที่ สำรวจ ความรู้สึกนักท่องเที่ยวและบริษัททัวร์ จากเหตุการณ์ปิดสนามบินในประเทศไทย หวังใช้เป็นฐานข้อมูลกำหนดแผนการทำงาน คาด 2 สัปดาห์รู้ผล
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งให้สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ไปวิจัยกลุ่มย่อย โดยสอบถามถึงความรู้สึกของนักท่องเที่ยวต่างชาติและบริษัทนำเที่ยว ว่า คิดอย่างไรกับประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อต้องการทราบว่า หลังจากมีเหตุการณ์ปิดสนามบิน ที่ผ่านมา ชาวต่างประเทศมองประเทศไทยอย่างไรบ้าง รวมถึงต้องการทราบความกังวลของนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ในแต่ละตลาด ก็ต้องแบ่งย่อยออกไปอีกว่า ขีดความกังวลมีมากน้อยเพียงใด เพราะ หากพบว่า ตลาดใดมีความกังวลน้อย หรือ ไม่กังวล ก็จะรีบเข้าไปทำตลาดในที่นั้นก่อน โดยเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับข่าวสารของประเทศไทยแต่ยังไม่เคยเดินทางเข้ามา ซึ่งกระบวนการทำวิจัยดังกล่าว คาด ใช้เวลา 2 สัปดาห์ แต่ละสำนักงานจะสรุปผลรายงานมายัง ททท.ส่วนกลางได้ ซึ่งผลสำรวจที่ได้มา จะใช้เป็นฐานข้อมูลของการกำหนดทิศทางการทำตลาด
เบื้องต้นมอง ตลาด ยุโรป และ ออสเตรเลีย ที่น่าจะเริ่มทำตลาดได้ก่อน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขาจะเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจทำให้เขาเกิดความไม่มั่นใจ และ ลังเลที่จะเดินทางเข้ามา ตรงนี้ หากใช้กลยุทธ์ที่น่าสนใจ เข้าไปกระตุ้น ผลตอบรับก็จะดีขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ ททท.อาจต้องจ้างบริษัท ผู้มีความรู้ความชำนาญในท้องถิ่นประเทศนั้นๆ มาช่วยทำวิจัยในครั้งนี้ นอกจากนั้น ทุกสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ จะต้องเดินสายออกพบตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท. กล่าวว่า ททท.จะสำรวจมุมมองของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ทั้งก่อนและหลังที่มีการปิดสนามบิน เลยมาถึงการเปิดให้บริการสามบินอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เปรียบเทียบความรู้สึกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตลอดจนรวบรวม ความคิดเห็น ที่โพสต์ไว้ในเว็บไซน์ต่างๆ การสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่โรงแรม และ ผู้ดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทย
ข้อมูลทั้งหมดจะนำมาประมวล สรุปเป็นบทวิเคราะห์ว่า ชาวต่างชาติ คิดอย่างไรกับประเทศไทย รวมถึงการวิเคราะห์หาจุดอ่อน เพื่อนำมาแก้ไข จากนั้น จะเริ่มเดินหน้าฟื้นฟูภาพลักษณ์ และ ปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์
"ยอมรับว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ การดูแลนักท่องเที่ยว ที่ กระทรวงการท่องเที่ยว และ ททท.ดำเนินการอยู่ ย่อมมีทั้งนักท่องเที่ยวที่โกรธ ไม่พอใจ และ กลุ่มที่เข้าใจ และ พอใจกับความรับผิดชอบ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ ททท.ต้องมีผลวิจัยถึงความรู้สึกเหล่านั้นทั้งหมด" นายสุรพล กล่าว
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งให้สำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ไปวิจัยกลุ่มย่อย โดยสอบถามถึงความรู้สึกของนักท่องเที่ยวต่างชาติและบริษัทนำเที่ยว ว่า คิดอย่างไรกับประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อต้องการทราบว่า หลังจากมีเหตุการณ์ปิดสนามบิน ที่ผ่านมา ชาวต่างประเทศมองประเทศไทยอย่างไรบ้าง รวมถึงต้องการทราบความกังวลของนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ในแต่ละตลาด ก็ต้องแบ่งย่อยออกไปอีกว่า ขีดความกังวลมีมากน้อยเพียงใด เพราะ หากพบว่า ตลาดใดมีความกังวลน้อย หรือ ไม่กังวล ก็จะรีบเข้าไปทำตลาดในที่นั้นก่อน โดยเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับข่าวสารของประเทศไทยแต่ยังไม่เคยเดินทางเข้ามา ซึ่งกระบวนการทำวิจัยดังกล่าว คาด ใช้เวลา 2 สัปดาห์ แต่ละสำนักงานจะสรุปผลรายงานมายัง ททท.ส่วนกลางได้ ซึ่งผลสำรวจที่ได้มา จะใช้เป็นฐานข้อมูลของการกำหนดทิศทางการทำตลาด
เบื้องต้นมอง ตลาด ยุโรป และ ออสเตรเลีย ที่น่าจะเริ่มทำตลาดได้ก่อน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขาจะเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจทำให้เขาเกิดความไม่มั่นใจ และ ลังเลที่จะเดินทางเข้ามา ตรงนี้ หากใช้กลยุทธ์ที่น่าสนใจ เข้าไปกระตุ้น ผลตอบรับก็จะดีขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ ททท.อาจต้องจ้างบริษัท ผู้มีความรู้ความชำนาญในท้องถิ่นประเทศนั้นๆ มาช่วยทำวิจัยในครั้งนี้ นอกจากนั้น ทุกสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ จะต้องเดินสายออกพบตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท. กล่าวว่า ททท.จะสำรวจมุมมองของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ทั้งก่อนและหลังที่มีการปิดสนามบิน เลยมาถึงการเปิดให้บริการสามบินอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เปรียบเทียบความรู้สึกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตลอดจนรวบรวม ความคิดเห็น ที่โพสต์ไว้ในเว็บไซน์ต่างๆ การสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่โรงแรม และ ผู้ดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทย
ข้อมูลทั้งหมดจะนำมาประมวล สรุปเป็นบทวิเคราะห์ว่า ชาวต่างชาติ คิดอย่างไรกับประเทศไทย รวมถึงการวิเคราะห์หาจุดอ่อน เพื่อนำมาแก้ไข จากนั้น จะเริ่มเดินหน้าฟื้นฟูภาพลักษณ์ และ ปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์
"ยอมรับว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ การดูแลนักท่องเที่ยว ที่ กระทรวงการท่องเที่ยว และ ททท.ดำเนินการอยู่ ย่อมมีทั้งนักท่องเที่ยวที่โกรธ ไม่พอใจ และ กลุ่มที่เข้าใจ และ พอใจกับความรับผิดชอบ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ ททท.ต้องมีผลวิจัยถึงความรู้สึกเหล่านั้นทั้งหมด" นายสุรพล กล่าว