กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ชงของบฉุกเฉิน ครม.อีก 1,000 ลบ.วันนี้ เดินหน้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ ระบุชัด ต้องเป็นสถานประกอบการที่จดทะเบียนเป็นโรงแรมเท่านั้น ที่ส่งบิลมาเบิกได้ ส่วนเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และเกสต์เฮาส์ กินแห้ว ด้าน ททท.เดินหน้า งานพืชสวนโลก แต่ทำใจ นักท่องเที่ยวเหลือครึ่งเดียวของเป้าหมาย
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันนี้ (2ธ.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวเตรียมเสนอขออนุมัติงบฉุกเฉินพิเศษ จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เยียวยา ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ซึ่งเบื้องต้น นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.กระทรวงการคลัง เห็นชอบในหลักการแล้ว
“วงเงินดังกล่าว จะเพิ่มจากของเดิมที่ได้อนุมัติมาแล้ว 10 ล้านบาท ซึ่ง ไม่น่าจะเพียงพอ เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่รอเดินทาง ได้พักอยู่ในโรงแรมต่างๆ รวมประมาณคืนละ 100,000 ห้อง โดยกระทรวงยืนยันที่จะจ่ายเงินให้แก่โรงแรม เพื่อใช้รับรองนักท่องเที่ยวในส่วนนี้ คนละ 2,000 บาท ต่อวัน โดยวงเงิน 1,000 ล้านบาทนี้ เมื่อ ครม.อนุมัติ คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์”
****เมินจ่ายให้เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และเกสต์เฮาส์***
สำหรับขั้นตอน การเบิกจ่าย ในส่วนของนักท่องเที่ยวติดค้างกลุ่ม FIT หรือผู้ที่เดินทางมาเอง ให้ทางโรงแรมสรุปค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางกลับได้ จนถึงวันที่เช็กเอาต์ออกจากโรงแรม โดยใช้หลักฐาน สำเนาพาสปอร์ต สำเนาตั๋วเครื่องบิน โดยให้นักท่องเที่ยวเซ็นรับรอง พร้อมกับใบแจ้งรายการค่าเช่าที่พัก และกรอกแบบฟอร์มขอรับเงินช่วยเหลือ ซึ่งสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) จะนำขึ้นหน้าเว็บไซต์ของสมาคม ทีเอชเอ ให้ดาวน์โหลด โดยรวมเอกสารทั้งหมด ส่งให้ ทีเอชเอ ตรวจสอบ ก่อนนำส่งมาที่กระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงจะดำเนินการพร้อมเบิกเงินได้ภายใน 7 วัน ส่วน นักท่องเที่ยวที่มากับกรุ๊ปทัวร์ ให้บริษัทนำเที่ยวดำเนินการ ส่งเอกสารผ่านมาทางแอตต้า
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น กระทรวงการท่องเที่ยว ขอสงวน ความช่วยเหลือ ในวงเงินดังกล่าว ให้แก่สถานที่ที่จดทะเบียนเป็นโรงแรมเท่านั้น ส่วนที่จดทะเบียนเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และ เกสต์เฮาส์ ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้
ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวความคืบหน้าการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ว่า ล่าสุด ตัดสินใจใช้ อิมแพค เมืองทองธานี สำหรับ นักท่องเที่ยวที่จะเช็กอิน โดยเดินทางที่สนามบิน จ.นครราชสีมา ส่วนที่ ศูนย์ไบเทค บางนา จะใช้เช็กอิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวไปแออัดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง และสะดวกต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่
***บัวแก้วชงขอ ครม.100 ลบ.ช่วยคนไทยใน ตปท.****
ด้านกรณีคนไทยที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ นายเสกข์ วรรณเมธี ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ประสานงานไปยังสถานทูตไทยในต่างประเทศ และกงสุลไทยในต่างประเทศ ให้เป็นศูนย์รวบรวมนักท่องเที่ยวคนไทย พร้อมแจ้งว่า รัฐบาลไทย จะช่วยเหลือเงินเป็นค่าที่พักและอาหาร วงเงิน 2,000 บาท ต่อคนต่อวัน โดยในวันที่ 2 ธ.ค.2551 กระทรวงต่างประเทศจะเงินของบฉุกเฉินต่อ ครม.วงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อใช้ช่วยเหลือคนไทยที่ติดอยู่ในต่างประเทศเช่นกัน
รายงานล่าสุด คาดว่า จำนวนคนไทยในต่างประเทศ ที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ มีจำนวนราว 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบเอเชีย เช่น ประเทศจีน แบ่งเป็น เซียะเหมิน 96 คน, ซัวเถา 16 คน, ปักกิ่ง 100 คน, เซี่ยงไฮ้ 300 คน และ คุนหมิง 113 คน เป็นต้น
***ททท.ยันจัดพืชสวนโลก***
ขณะที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว กล่าวว่า ททท.ยังยืนยันจัดงาน ราชพฤกษ์รวมใจพรรครักพ่อหลวง วันที่ 1-10 ธ.ค.อยู่ แต่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานน้อยลง ครึ่งหนึ่ง จากเดิมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมา 200,000 คน สร้างรายได้ 1,000 ล้านบาท ลดเหลือ 100,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ 500 ล้านบาท ทั้งนี้ เพราะนักท่องเที่ยวอาจไม่สะดวกในเรื่องของการเดินทาง เพราะมีการปิดสนามบิน แต่บางคนอาจกังวลเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง
สัดส่วนผู้เข้าร่วมงานก็ปรับเปลี่ยนจากเดิมตั้งเป้า คนไทย 65% ต่างชาติ 35% เปลี่ยนเป็น คนไทยน่าจะมากกว่า 80% โดยสนามบินเชียงใหม่ ยังเปิดให้บริการปกติ สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวที่บินตรงมาจากประเทศอื่นๆ ได้เช่น แอร์เอเชีย ที่บินมาจาก มาเลเซีย ส่วนคนไทย ก็สามารถเดินทางมากับ รถไฟ รถทัวร์ หรือรถยนต์ส่วนตัวก็ได้ ซึ่งอยากขอร้องให้คนไทย ออกมาเดินทางท่องเที่ยว เพื่อช่วยให้เงินได้หมุนเวียนเข้ามาในระบบ และในวันที่ 3-7 ธ.ค.นี้ ททท.ยังได้ร่วมสนับสนุนการจัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ด้วย จึงต้องการเชิญชวนคนไทยไปท่องเที่ยวคลายเครียดกัน
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันนี้ (2ธ.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวเตรียมเสนอขออนุมัติงบฉุกเฉินพิเศษ จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เยียวยา ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ซึ่งเบื้องต้น นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.กระทรวงการคลัง เห็นชอบในหลักการแล้ว
“วงเงินดังกล่าว จะเพิ่มจากของเดิมที่ได้อนุมัติมาแล้ว 10 ล้านบาท ซึ่ง ไม่น่าจะเพียงพอ เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่รอเดินทาง ได้พักอยู่ในโรงแรมต่างๆ รวมประมาณคืนละ 100,000 ห้อง โดยกระทรวงยืนยันที่จะจ่ายเงินให้แก่โรงแรม เพื่อใช้รับรองนักท่องเที่ยวในส่วนนี้ คนละ 2,000 บาท ต่อวัน โดยวงเงิน 1,000 ล้านบาทนี้ เมื่อ ครม.อนุมัติ คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์”
****เมินจ่ายให้เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และเกสต์เฮาส์***
สำหรับขั้นตอน การเบิกจ่าย ในส่วนของนักท่องเที่ยวติดค้างกลุ่ม FIT หรือผู้ที่เดินทางมาเอง ให้ทางโรงแรมสรุปค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางกลับได้ จนถึงวันที่เช็กเอาต์ออกจากโรงแรม โดยใช้หลักฐาน สำเนาพาสปอร์ต สำเนาตั๋วเครื่องบิน โดยให้นักท่องเที่ยวเซ็นรับรอง พร้อมกับใบแจ้งรายการค่าเช่าที่พัก และกรอกแบบฟอร์มขอรับเงินช่วยเหลือ ซึ่งสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) จะนำขึ้นหน้าเว็บไซต์ของสมาคม ทีเอชเอ ให้ดาวน์โหลด โดยรวมเอกสารทั้งหมด ส่งให้ ทีเอชเอ ตรวจสอบ ก่อนนำส่งมาที่กระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงจะดำเนินการพร้อมเบิกเงินได้ภายใน 7 วัน ส่วน นักท่องเที่ยวที่มากับกรุ๊ปทัวร์ ให้บริษัทนำเที่ยวดำเนินการ ส่งเอกสารผ่านมาทางแอตต้า
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น กระทรวงการท่องเที่ยว ขอสงวน ความช่วยเหลือ ในวงเงินดังกล่าว ให้แก่สถานที่ที่จดทะเบียนเป็นโรงแรมเท่านั้น ส่วนที่จดทะเบียนเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และ เกสต์เฮาส์ ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้
ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวความคืบหน้าการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ว่า ล่าสุด ตัดสินใจใช้ อิมแพค เมืองทองธานี สำหรับ นักท่องเที่ยวที่จะเช็กอิน โดยเดินทางที่สนามบิน จ.นครราชสีมา ส่วนที่ ศูนย์ไบเทค บางนา จะใช้เช็กอิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวไปแออัดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง และสะดวกต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่
***บัวแก้วชงขอ ครม.100 ลบ.ช่วยคนไทยใน ตปท.****
ด้านกรณีคนไทยที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ นายเสกข์ วรรณเมธี ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ประสานงานไปยังสถานทูตไทยในต่างประเทศ และกงสุลไทยในต่างประเทศ ให้เป็นศูนย์รวบรวมนักท่องเที่ยวคนไทย พร้อมแจ้งว่า รัฐบาลไทย จะช่วยเหลือเงินเป็นค่าที่พักและอาหาร วงเงิน 2,000 บาท ต่อคนต่อวัน โดยในวันที่ 2 ธ.ค.2551 กระทรวงต่างประเทศจะเงินของบฉุกเฉินต่อ ครม.วงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อใช้ช่วยเหลือคนไทยที่ติดอยู่ในต่างประเทศเช่นกัน
รายงานล่าสุด คาดว่า จำนวนคนไทยในต่างประเทศ ที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ มีจำนวนราว 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบเอเชีย เช่น ประเทศจีน แบ่งเป็น เซียะเหมิน 96 คน, ซัวเถา 16 คน, ปักกิ่ง 100 คน, เซี่ยงไฮ้ 300 คน และ คุนหมิง 113 คน เป็นต้น
***ททท.ยันจัดพืชสวนโลก***
ขณะที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว กล่าวว่า ททท.ยังยืนยันจัดงาน ราชพฤกษ์รวมใจพรรครักพ่อหลวง วันที่ 1-10 ธ.ค.อยู่ แต่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานน้อยลง ครึ่งหนึ่ง จากเดิมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมา 200,000 คน สร้างรายได้ 1,000 ล้านบาท ลดเหลือ 100,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ 500 ล้านบาท ทั้งนี้ เพราะนักท่องเที่ยวอาจไม่สะดวกในเรื่องของการเดินทาง เพราะมีการปิดสนามบิน แต่บางคนอาจกังวลเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง
สัดส่วนผู้เข้าร่วมงานก็ปรับเปลี่ยนจากเดิมตั้งเป้า คนไทย 65% ต่างชาติ 35% เปลี่ยนเป็น คนไทยน่าจะมากกว่า 80% โดยสนามบินเชียงใหม่ ยังเปิดให้บริการปกติ สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวที่บินตรงมาจากประเทศอื่นๆ ได้เช่น แอร์เอเชีย ที่บินมาจาก มาเลเซีย ส่วนคนไทย ก็สามารถเดินทางมากับ รถไฟ รถทัวร์ หรือรถยนต์ส่วนตัวก็ได้ ซึ่งอยากขอร้องให้คนไทย ออกมาเดินทางท่องเที่ยว เพื่อช่วยให้เงินได้หมุนเวียนเข้ามาในระบบ และในวันที่ 3-7 ธ.ค.นี้ ททท.ยังได้ร่วมสนับสนุนการจัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ด้วย จึงต้องการเชิญชวนคนไทยไปท่องเที่ยวคลายเครียดกัน
