นางอุไรวรรณ เทียนทอง รักษาการ รมว.แรงงาน กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์ การเลิกจ้างขณะนี้น่าเป็นห่วงมากและอาจมีตัวเลขคนตกงานนับล้านคนตามที่ หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามเหมือนโดมิโนล้มเพียงอย่างเดียว แต่มีสถานการณ์ทางการเมืองช่วง 1- 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น การยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่งผลกรทบต่อสถานประกอบการจำนวนมาก อาจเร่งทำให้คนตกงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจท่องเที่ยวและภาคการส่องออก รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ธุรกิจโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งถ้าสายป่านไม่ยาวพอได้รับผลกระทบจนต้องปิดกิจการในที่สุด
สำหรับสถานการณ์เลิกจ้างล่าสุด มีสถานประกอบการปิดกิจการเพิ่มขึ้นเป็น 519 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 44,794 คน และยังมีสถานประกอบการที่มีแนวโน้มจะถูกเลิกจ้างอีก 2,000 แห่ง ลูกจ้าง 83,721 คน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะนำนโยบายการแก้ปัญหาวิกฤตการเลิกจ้างที่เตรียมไว้มาปรับให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะงบประมาณ 1,536 ล้านบาทที่กำลังขออนุมัติจาก ครม.เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเลิกจ้าง และคาดว่าจะได้รับในเร็วๆ นี้ โดยจะต้องนำมาใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน เพื่อบรรเทาปัญหาให้ได้มากที่สุด ขณะที่ข้าราชการจะต้องทำงานในเชิงรุกให้มากขึ้น
แม้ว่ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอีกครั้ง แต่ทุกคนก็เอาใจใจใส่ปัญหาคนตกงาน ว่างงานเป็นพิเศษ เราเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราขอไปแล้ว 1.5 พันล้านบาทซึ่งคิดว่าคงได้ในไม่ช้านี้ ซึ่งหากเราได้รับมาแล้วเราจะต้องดูแล ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ต้องฟังเอกชนที่เกี่ยวข้องด้วย
นางอุไรวรรณ กล่าวว่าสำหรับ นโยบายนั้น คงไม่ปรับเปลี่ยน แต่คงต้องทำให้เข้มขึ้น เพื่อรองรับซูปเปอร์วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ จะให้ทุกคนทำงานกันแบบไม่กระพริบตา ยอมรับว่าตอนนี้ภาระของกระทรวงแรงงานหนักแต่ทุกคน พร้อมที่จะทำงาน
สำหรับสถานการณ์เลิกจ้างล่าสุด มีสถานประกอบการปิดกิจการเพิ่มขึ้นเป็น 519 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 44,794 คน และยังมีสถานประกอบการที่มีแนวโน้มจะถูกเลิกจ้างอีก 2,000 แห่ง ลูกจ้าง 83,721 คน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะนำนโยบายการแก้ปัญหาวิกฤตการเลิกจ้างที่เตรียมไว้มาปรับให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะงบประมาณ 1,536 ล้านบาทที่กำลังขออนุมัติจาก ครม.เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเลิกจ้าง และคาดว่าจะได้รับในเร็วๆ นี้ โดยจะต้องนำมาใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน เพื่อบรรเทาปัญหาให้ได้มากที่สุด ขณะที่ข้าราชการจะต้องทำงานในเชิงรุกให้มากขึ้น
แม้ว่ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอีกครั้ง แต่ทุกคนก็เอาใจใจใส่ปัญหาคนตกงาน ว่างงานเป็นพิเศษ เราเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราขอไปแล้ว 1.5 พันล้านบาทซึ่งคิดว่าคงได้ในไม่ช้านี้ ซึ่งหากเราได้รับมาแล้วเราจะต้องดูแล ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ต้องฟังเอกชนที่เกี่ยวข้องด้วย
นางอุไรวรรณ กล่าวว่าสำหรับ นโยบายนั้น คงไม่ปรับเปลี่ยน แต่คงต้องทำให้เข้มขึ้น เพื่อรองรับซูปเปอร์วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ จะให้ทุกคนทำงานกันแบบไม่กระพริบตา ยอมรับว่าตอนนี้ภาระของกระทรวงแรงงานหนักแต่ทุกคน พร้อมที่จะทำงาน