เอ็มเคฯ เร่งศึกษาตลาดวิกฤตต้มย้ำกุ้งปรับใช้รับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลกกระทบยอดวูบ ลั่นควบคุมต้นทุน-งบการตลาด อัด 200 ล้านบาท เดินหน้าขยายเอ็มเค สุกี้ 25แห่ง โฟกัสยาโยอิติดลมบน เท 50 ล้านบาท ผุด 10 แห่ง ชูโครงการอาหารปลอดภัยจากผงชูรส หวังมัดใจลูกค้าใส่ใจสุขภาพ
นายสุจินต์ ชุมพลกาญจนา รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มจัดหาและจัดส่งสินค้า บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังศึกษาการทำตลาดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540-2541 เพื่อนำข้อมูลมาปรับใช้การทำตลาดในปีหน้านี้ รองรับกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกและภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศ ซึ่งมีผลทำให้การดำเนินธุรกิจร้านอาหารมีความลำบากมากขึ้น กว่าปีนี้ ซึ่งพบว่ารายได้ปีนี้เริ่มลดลง 10% นับตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ตลาดธุรกิจร้านอาหารโดยรวมคงไม่แตกต่างกันมากนัก โดยพบว่าความถี่ในการเข้าร้านเอ็มเคลดลงและค่าใช้จ่ายต่อคนต่อบิลลดลงเฉลี่ยแล้ว 10%
ทั้งนี้สัญญาณเศรษฐกิจที่ไม่ดีในปีหน้านี้ คาดว่ายอดขายก็ลดลงตามไปด้วย ดังนั้นต้องกลับมาดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุนต่างๆ เช่นเดียวกับปี 2540 โดยไม่รับพนักงานเพิ่มขึ้นและก็ไม่ปลดพนักงาน ส่วนงบการตลาดบริษัทจะพิจารณาใช้เท่ากับปีนี้ จากเดิมตั้งเป้าจะใช้เพิ่มขึ้น โดยการทำตลาดจะมุ่งดำเนินกิจกรรมการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น ตลอดจนเพิ่มความถี่ในการทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นรายได้ ส่วนด้านการขยายสาขาในปีหน้านี้เน้นการขยายสาขาตามโมเดิร์นเทรดและห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยการขยายสาขาของกลุ่มค้าปลีกอาจจะมีการชะลอลงบ้าง
อย่างไรก็ตาม การขยายสาขาในปีหน้าตามแผนของบริษัทวางไว้ 25 แห่ง ภายใต้การทุ่มงบ 200ล้านบาท จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีทั้งหมด 290 แห่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับปีนี้ขยายสาขา 38-39 แห่ง ขณะที่การทำดิลิเวอรี่ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนการขยายสาขาต่างประเทศ กำลังพิจารณาเปิดตลาดในเวียดนาม แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจเป็นหลัก จากปัจจุบันบริษัทขายแฟรนไชส์ให้กับประเทศญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวโดยมีสาขา 19 แห่ง อีกทั้งในปีหน้านี้บริษัทจะโฟกัสร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิให้มีความแข็งแกร่ง โดยทุ่มงบ 50 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม 10 แห่ง จากปัจจุบัน 32 แห่ง
ล่าสุดเอ็มเค สุกี้ ดำเนินนโยบายมาตรฐานอาหารปลอดภัย จับมือกับสถาบันอาหาร ดำเนินการโครงการอาหารปลอดผงชูรส โดยได้ให้สถาบันอาหารตรวจสอบปฏิบัติงานทั้งที่โรงงาน และสาขาต่างๆ ของเอ็มเค เพื่อการันตีว่า เป็นอาหารที่ปลอดภัยจากผงชูรส การดำเนินการดังกล่าว เพื่อตอบรับกระแสสุขภาพและต้องการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุม 100% จากปัจจุบันมีลูกค้าราวไม่ถึง 1% ที่แพ้ผงชูรส และขณะนี้กำลังเดินการทำโครงการอาหารปลอดสารกันบูด ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 80-90%
ดร.อมร งามมงคลรัตน์ รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจร้านอาหารหัวใจสำคัญ คือ ความปลอดภัย ซึ่งมองว่าในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่ดี แต่ไทยก็สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ในช่วงที่ประเทศจีนประสบปัญหาสารปนเปื้อนเมลามีน ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารไทยสามารถฉกฉวยโอกาสในการทำตลาดได้
นายสุจินต์ ชุมพลกาญจนา รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มจัดหาและจัดส่งสินค้า บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังศึกษาการทำตลาดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540-2541 เพื่อนำข้อมูลมาปรับใช้การทำตลาดในปีหน้านี้ รองรับกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกและภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศ ซึ่งมีผลทำให้การดำเนินธุรกิจร้านอาหารมีความลำบากมากขึ้น กว่าปีนี้ ซึ่งพบว่ารายได้ปีนี้เริ่มลดลง 10% นับตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ตลาดธุรกิจร้านอาหารโดยรวมคงไม่แตกต่างกันมากนัก โดยพบว่าความถี่ในการเข้าร้านเอ็มเคลดลงและค่าใช้จ่ายต่อคนต่อบิลลดลงเฉลี่ยแล้ว 10%
ทั้งนี้สัญญาณเศรษฐกิจที่ไม่ดีในปีหน้านี้ คาดว่ายอดขายก็ลดลงตามไปด้วย ดังนั้นต้องกลับมาดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุนต่างๆ เช่นเดียวกับปี 2540 โดยไม่รับพนักงานเพิ่มขึ้นและก็ไม่ปลดพนักงาน ส่วนงบการตลาดบริษัทจะพิจารณาใช้เท่ากับปีนี้ จากเดิมตั้งเป้าจะใช้เพิ่มขึ้น โดยการทำตลาดจะมุ่งดำเนินกิจกรรมการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น ตลอดจนเพิ่มความถี่ในการทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นรายได้ ส่วนด้านการขยายสาขาในปีหน้านี้เน้นการขยายสาขาตามโมเดิร์นเทรดและห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยการขยายสาขาของกลุ่มค้าปลีกอาจจะมีการชะลอลงบ้าง
อย่างไรก็ตาม การขยายสาขาในปีหน้าตามแผนของบริษัทวางไว้ 25 แห่ง ภายใต้การทุ่มงบ 200ล้านบาท จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีทั้งหมด 290 แห่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับปีนี้ขยายสาขา 38-39 แห่ง ขณะที่การทำดิลิเวอรี่ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนการขยายสาขาต่างประเทศ กำลังพิจารณาเปิดตลาดในเวียดนาม แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจเป็นหลัก จากปัจจุบันบริษัทขายแฟรนไชส์ให้กับประเทศญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวโดยมีสาขา 19 แห่ง อีกทั้งในปีหน้านี้บริษัทจะโฟกัสร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิให้มีความแข็งแกร่ง โดยทุ่มงบ 50 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม 10 แห่ง จากปัจจุบัน 32 แห่ง
ล่าสุดเอ็มเค สุกี้ ดำเนินนโยบายมาตรฐานอาหารปลอดภัย จับมือกับสถาบันอาหาร ดำเนินการโครงการอาหารปลอดผงชูรส โดยได้ให้สถาบันอาหารตรวจสอบปฏิบัติงานทั้งที่โรงงาน และสาขาต่างๆ ของเอ็มเค เพื่อการันตีว่า เป็นอาหารที่ปลอดภัยจากผงชูรส การดำเนินการดังกล่าว เพื่อตอบรับกระแสสุขภาพและต้องการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุม 100% จากปัจจุบันมีลูกค้าราวไม่ถึง 1% ที่แพ้ผงชูรส และขณะนี้กำลังเดินการทำโครงการอาหารปลอดสารกันบูด ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 80-90%
ดร.อมร งามมงคลรัตน์ รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจร้านอาหารหัวใจสำคัญ คือ ความปลอดภัย ซึ่งมองว่าในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่ดี แต่ไทยก็สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ในช่วงที่ประเทศจีนประสบปัญหาสารปนเปื้อนเมลามีน ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารไทยสามารถฉกฉวยโอกาสในการทำตลาดได้