หวั่นพิษเศรษฐกิจส่งผลบัณฑิตใหม่ตกงาน "นิเทศฯ" น่าห่วงสุดเหตุตลาดตัน

หวั่นพิษเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ส่งผลให้บัณฑิตใหม่ตกงาน สวนดุสิตห่วงนิเทศศาสตร์มากสุด เหตุตลาดตันปีหน้าปรับลดรับนักศึกษานิเทศศาสตร์ลงอีก ด้านอาชีวะผุดโครงการอุ้มบัณฑิตใหม่

ดร.อกนิษฐ์ คลังแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า จะมีผลกระทบลามมาถึงประเทศไทย และส่งผลให้สถานประกอบการต่างๆ ต้องปลดพนักงาน และปิดกิจกรรมลงเป็นจำนวนมากนั้น ซึ่งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้จัดโครงการ “พ่อแม่ได้งานลูกหลานได้เรียน” โดยโครงการดังกล่าวส่งเสริมการสร้างงานให้กับผู้ปกครอง และนักศึกษา ซึ่ง สอศ.จะของบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลก้อนหนึ่ง เพื่อสร้างงานในสถานศึกษาของ สอศ.ทั่วประเทศ เช่น การปรับปรุง หรือก่อสร้างอาคารเรียน การจัดทำครุภัณฑ์ต่างๆ เพื่อใช้งานเองในสถานศึกษา หรือเพื่อจำหน่าย โดยให้ผู้ปกครองนักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานและฝึกประสบการณ์

ขณะเดียวกัน จะมีการสอนอาชีพระยะสั้นให้กับประชาชนทั่วไปภายใต้โครงการ “3 ชั่วโมงฝึกจริง ทำง่าย มีรายได้แน่” เช่น การแปรรูปอาหาร เป็นต้น โดย สอศ.จะแจ้งสถานศึกษาที่มีอยู่ทั้งหมด ดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมพร้อมกันทั้งหมดทั่วประเทศในเร็วๆ นี้ และยืนยันว่าจะดูแลนักศึกษาที่ผู้ปกครองได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ โดยจะไม่ปล่อยให้ปัญหาที่เกิดส่งผลให้เด็กต้องออกกลางคันอย่างแน่นอน อีกทั้งจะส่งเสริมการสร้างรายได้ระหว่างเรียนให้กับนักศึกษาด้วย

ด้าน รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) เปิดเผยว่า จากการประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ มสด.หามาตรการรองรับปัญหาบัณฑิตว่างงาน ซึ่ง มสด.มีบัณฑิตที่จะจบในปีการศึกษา 2551 จำนวนกว่า 7,000 คน โดยวางมาตรการไว้ 2 แนวทาง คือ 1.หารือกับสถานประกอบการเพื่อรองรับบัณฑิตในหลักสูตรที่ มสด.มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะบัณฑิตทางด้านอาหาร และอุตสาหกรรมบริการ และ 2.การขยายงานธุรกิจของ มสด.เอง อาทิ ธุรกิจร้านอาหาร และการเปิดโรงเรียนอนุบาลในศูนย์วิทยบริการของ มสด.เพื่อรองรับบัณฑิตที่จบด้านปฐมวัย โดยในปีการศึกษา 2552 จะเปิดได้ที่ ศูนย์ลำปางและนครนายกก่อน ซึ่งเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวน่าจะสามารถดูแลบัณฑิตได้ส่วนหนึ่ง

อธิการบดี มสด.กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาใหญ่ที่สุดที่ มสด.มีความเป็นห่วง ก็คือ บัณฑิตที่จบทางสายนิเทศศาสตร์ เนื่องจากมีแนวโน้มการตกงานสูงมาก เพราะจะมีเด็กจบทางด้านนี้จากมหาวิทยาอื่นๆ ทั้งรัฐและเอกชนเป็นจำนวนมาก ขณะที่ตลาดงานสายนี้หยุดนิ่งแล้ว ดังนั้น ในปีการศึกษาหน้า มสด.จะลดจำนวนรับนักศึกษาในสายนิเทศศาสตร์ลงอีก จากที่มีการลดจำนวนลงมาอย่างต่อเนื่อง 2 ปีแล้ว