ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง ปรับตัวรับมือวิกฤตเศรษฐกิจและห้างต่างชาติระดับใหญ่ที่เปิดทั่วเมือง ชูกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุก เร่งพัฒนาให้เกิดความทันสมัย ครองใจลูกค้าท้องถิ่นแข่งกับห้างยักษ์ใหญ่ โดยเร่งเจรจาดึงร้านอาหารญี่ปุ่นสุดฮอต “ฟูจิ” และโรงภาพยนตร์ขนาดย่อม “โคลีเซียม” ร่วมเป็นพันธมิตร คาดสิ้นปี 2551 ยอดขายเพิ่ม 10 % และยังคงรักษาฐานลูกค้าส่วนใหญ่ในจังหวัดตรัง ที่มีอยู่ประมาณ 80 % เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
นายจิรายุสถ์ พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตลอดช่วงปี 2551 ห้างได้พยายามพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ ความทันสมัย และความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างห้างยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาเปิดกิจการ ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ตรัง เช่น ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส แม็คโคร ซึ่งก็ทำให้ห้างท้องถิ่นยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตั้งแต่ระดับกลุ่มคนชั้นกลางขึ้นไป
นอกจากนั้น ห้างยังมีการปรับแบรนด์สินค้าหรือยี่ห้อใหม่ๆรวมทั้งจัดโปรโมชัน หรือกิจกรรมลดแลกแจกแถมอย่างต่อเนื่อง และนำสินค้าโอทอป หรือสินค้าในท้องถิ่นเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ได้ปรับปรุงในเรื่องอาคารสถานที่ให้สวยงาม และลานจอดรถให้มีความกว้างขวาง ควบคู่กับเรื่องของการบริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจมากที่สุด ซึ่งคาดว่าจนถึงสิ้นปี 2551 จะมียอดการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 10 % และยังคงรักษาฐานลูกค้าส่วนใหญ่ในจังหวัดตรัง ที่มีอยู่ประมาณ 80 % เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ก็กำลังเจรจาเพื่อดึงสินค้าชื่อดังเข้ามาให้บริการเพิ่มขึ้น เช่น ฟูจิ ซึ่งคนตรังมีความรู้จัก และนิยมอาหารประเภทนี้อยู่ไม่น้อย หรือกลุ่มบันเทิง เช่น คาราโอเกะ ซึ่งปกติก็มีให้บริการอยู่แล้ว แต่จะปรับปรุงให้ตอบสนองต่อความต้องการมากขึ้น รวมทั้งมินิเธียเตอร์ หรือโรงหนังขนาดเล็ก 200-300 ที่นั่ง ที่ได้เคยมีการพูดคุยกับค่ายโคลีเซียมไว้บ้าง แต่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ เพราะต้องมองถึงผลตอบแทนที่จะได้รับ เทียบกับการลงทุนที่ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะเรื่องตัวอาคาร
อย่างไรก็ตาม ห้างไม่มีนโยบายที่จะผลิต หรือนำสินค้าบางอย่างมาจำหน่ายเอง ยกเว้นในบางส่วนที่มีความถนัดอยู่แล้ว เช่น ซูเปอร์มาร์เกต ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ เพราะมองว่าการดึงมืออาชีพของสินค้าในแต่ละด้าน มาดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ร่วมทุน หรือผู้เช่าพื้นที่เป็นสิ่งที่สามารถตอบสนองลูกค้าได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว อีกทั้งยังพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขจุดบกพร่องโดยยึดหลักประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ และนี่ก็คือจุดแข็งที่ทำให้ชาวตรังเกิดความเชื่อถือเชื่อมั่น และอยากเข้ามาใช้บริการกับห้างท้องถิ่น
ส่วนการเข้ามาของห้างยักษ์ใหญ่ในจังหวัดตรัง นายจิรายุสถ์ กล่าวว่า คงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการท้องถิ่นไปห้ามได้ยาก เพราะกฎหมายที่จะมาควบคุมก็ยังไม่มีความชัดเจน และขณะนี้ห้างยักษ์ใหญ่ก็พยายามหาช่องทาง เพื่อเจาะตลาดลูกค้าในระดับต่างๆอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้น ผู้ประกอบการท้องถิ่นก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วย เช่น ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ความวุ่นวายทางการเมือง หรือราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ เพราะจะเป็นส่วนที่ชี้ให้เห็นถึงทิศทางเศรษฐกิจในปี 2552