ASTV ผู้จัดการรายวัน- โฟร์ดีเวลลอป ฯมั่นใจแบงก์คุมเข้มสินเชื่อไม่กระทบรับสร้างบ้าน เชื่อลูกค้ามีเงินออมสูง มีที่ดินเป็นของตนเอง ขณะที่แบงก์ออกแพคเกจจูงใจกลุ่มลูกค้ารับสร้างบ้านหวังให้เกิดการใช้สินเชื่อเพิ่ม ด้าน “ทรี.ดี.เฮ้าซิ่ง” ปลื้มลูกค้าแห่สร้างโฮมออฟฟิศ พร้อมออกแบบโฮมออฟฟิศ10แบบรับเอสเอ็มอี เล็งขยายฐานจับลูกค้าสปา ทันตกรรม รับปีนี้ตกเป้า30ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้ารายได้120ล้านบาท
นายวิชัย คงศรีอ่อง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันการเงิน มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทั้งสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อรายย่อย เนื่องจากเกรงปัญหาสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อย่างไรก็ตามในส่วนของลูกค้ารับสร้างบ้านถือว่าไม่ได้รับผลกระทบจากภาวการณ์ดังกล่าว เนื่องจาก2ประการหลัก ๆ คือ ลูกค้าธุรกิจรับสร้างบ้านใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินไม่มากนัก เพราะมีเงินออมสูง นอกจากนี้ ลูกค้ารับสร้างบ้านมีที่ดินเป็นหลักประกัน ในการขอสินเชื่อ และการประเมินราคาสินทรัพย์ส่วนใหญ่ มูลค่าของที่ดินครอบคลุมราคาบ้านอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เห็นได้จากงานรับสร้างบ้านในช่วงแรกที่มีสถาบันการเงินเข้ามาร่วม 1-2 แห่ง แต่ในปัจจุบันสถาบันการเงินเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น 4-5 แห่ง และได้จัดแพคเกจ รับสร้างบ้าน ทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านมีอัตราการขยายตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับอดีตที่ลูกค้า70% ใช้เงินสดเป็นหลัก ทั้งนี้ เชื่อว่ากลุ่มลูกค้ารับสร้างบ้านจะหันมาขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น เพราะธนาคารมีการแข่งขันสูง และมีเงื่อนไขจูงใจมากขึ้น สำหรับบริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด ในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 75 ล้านบาท เพิ่มจากปี50ที่มียอดขาย 57 ล้านบาท 31%
ด้านนายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรี.ดี. เฮ้าซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในกลุ่ม โฮมออฟฟิศอย่างดี หลังจากเปิดบริษัท โฮมออฟฟิศ บิวเดอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ (HOBC) ซึ่งบริษัท มีลูกค้าแล้วจำนวน 5 หลัง และยังมีลูกค้าอยู่ระหว่างการเจรจา4-5 ราย สำหรับตลาดโฮมออฟฟิศ ซึ่งถือว่า “บลูโอเชี่ยน” เป็นตลาดใหม่ ซึ่งขณะนี้บริษัทออกแบบโฮมออฟฟิศใหม่ให้ลูกค้าเลือกถึง 10 แบบ โดยเน้นจับกลุ่มตลาดเอสเอ็มอี
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายกลุ่มเป้าหมาย เพื่อรองรับตลาดนี้โดยเฉพาะ ด้วยการเข้าไปขยายตลาดกลุ่มลูกค้าสปา กลุ่มธุรกิจทันตกรรม เพื่อรองรับลูกค้าเหล่าที่ต้องการสำนักงานและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สำหรับ ผลงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทยอดขายแล้ว 90 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้120ล้านบาท เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยการเมืองรวมถึงภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ เป็นเหตุผลทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจที่จะสร้างบ้านออกไป สำหรับแผนงานในปีหน้านั้น บริษัทฯ คงจะเน้นโฟกัสกลุ่มลูกค้า และปรับกลยุทธ์การทำตลาด นอกจากนี้ยังได้ตั้งเป้าไว้ที่ 120 ล้านบาท เท่ากับปีนี้
นายวิชัย คงศรีอ่อง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันการเงิน มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทั้งสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อรายย่อย เนื่องจากเกรงปัญหาสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อย่างไรก็ตามในส่วนของลูกค้ารับสร้างบ้านถือว่าไม่ได้รับผลกระทบจากภาวการณ์ดังกล่าว เนื่องจาก2ประการหลัก ๆ คือ ลูกค้าธุรกิจรับสร้างบ้านใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินไม่มากนัก เพราะมีเงินออมสูง นอกจากนี้ ลูกค้ารับสร้างบ้านมีที่ดินเป็นหลักประกัน ในการขอสินเชื่อ และการประเมินราคาสินทรัพย์ส่วนใหญ่ มูลค่าของที่ดินครอบคลุมราคาบ้านอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เห็นได้จากงานรับสร้างบ้านในช่วงแรกที่มีสถาบันการเงินเข้ามาร่วม 1-2 แห่ง แต่ในปัจจุบันสถาบันการเงินเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น 4-5 แห่ง และได้จัดแพคเกจ รับสร้างบ้าน ทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านมีอัตราการขยายตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับอดีตที่ลูกค้า70% ใช้เงินสดเป็นหลัก ทั้งนี้ เชื่อว่ากลุ่มลูกค้ารับสร้างบ้านจะหันมาขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น เพราะธนาคารมีการแข่งขันสูง และมีเงื่อนไขจูงใจมากขึ้น สำหรับบริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด ในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 75 ล้านบาท เพิ่มจากปี50ที่มียอดขาย 57 ล้านบาท 31%
ด้านนายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรี.ดี. เฮ้าซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในกลุ่ม โฮมออฟฟิศอย่างดี หลังจากเปิดบริษัท โฮมออฟฟิศ บิวเดอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ (HOBC) ซึ่งบริษัท มีลูกค้าแล้วจำนวน 5 หลัง และยังมีลูกค้าอยู่ระหว่างการเจรจา4-5 ราย สำหรับตลาดโฮมออฟฟิศ ซึ่งถือว่า “บลูโอเชี่ยน” เป็นตลาดใหม่ ซึ่งขณะนี้บริษัทออกแบบโฮมออฟฟิศใหม่ให้ลูกค้าเลือกถึง 10 แบบ โดยเน้นจับกลุ่มตลาดเอสเอ็มอี
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมขยายกลุ่มเป้าหมาย เพื่อรองรับตลาดนี้โดยเฉพาะ ด้วยการเข้าไปขยายตลาดกลุ่มลูกค้าสปา กลุ่มธุรกิจทันตกรรม เพื่อรองรับลูกค้าเหล่าที่ต้องการสำนักงานและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สำหรับ ผลงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทยอดขายแล้ว 90 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้120ล้านบาท เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยการเมืองรวมถึงภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ เป็นเหตุผลทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจที่จะสร้างบ้านออกไป สำหรับแผนงานในปีหน้านั้น บริษัทฯ คงจะเน้นโฟกัสกลุ่มลูกค้า และปรับกลยุทธ์การทำตลาด นอกจากนี้ยังได้ตั้งเป้าไว้ที่ 120 ล้านบาท เท่ากับปีนี้