ASTVผู้จัดการรายวัน - กกร.ออกแถลงการณ์ 4 ข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภาเพื่อผ่าทางตันปัญหาบ้านเมือง พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ "สมพงษ์" ถกร่วมเอกชนเจออีกเด้ง ถูกแนะให้นายกฯ ลาออก แต่กลับโบ้ยเรื่องของ "สมชาย" แอตต้าสุดทนจี้สมชายลาออกด้วย
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วยสภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย วานนี้ (1ธ.ค.) ว่า ได้ออกแถลงการณ์ 4 ข้อโดย 1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยเนื่องจากไม่สามารถบริหารประเทศได้ก็ควรลาออกเปลี่ยนให้พรรคอื่นจัดตั้งรัฐบาล 2.หากข้อแรกดำเนินการไม่ได้ก็ขอให้ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ 3.ขอให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถอนออกจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิทันที และข้อ 4.อยู่ระหว่างการหารือว่าจะเป็นไปในลักษณะใดหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นนายกพระราชทาน
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กกร.จะออกแถลงการณ์ 4 ข้อซึ่งชัดเจนแล้ว 3 ข้อซึ่งเหลืออีกข้อหนึ่งก็มองอยู่ว่าจะเป็นในลักษณะใดแน่โดยคาดว่าแถลงการณ์จะสมบูรณ์และออกมาได้ในช่วง 10.30 น.ของวันนี้ (2 ธ.ค.) อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีคำตัดสินภายใน 2-3 วันนี้ ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีต่อการเมืองในภาพรวมของไทย
"ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจจะมีการสรุปภายใน 1 สัปดาห์ หลังสถานการณ์ทางการเมืองจบลง แต่หากคำตัดสินของศาลไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ทางสอท.คงจะต้องพิจารณาถึงแนวทางในการแสดงจุดยืนอีกครั้งหนึ่ง โดยยอมรับว่าสิ่งทีเกิดขึ้น เบื้องต้นได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอาหารสดซึ่งยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่ชัดเจนได้"นายสันติกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการประชุม กกร.แล้วภาคเอกชนส่วนหนึ่งได้เดินทางไปสมทบการประชุมที่มีนาย “โอฬาร ไชยประวัติ” รองนายกรัฐมนตรีกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เป็นประธาน ซึ่งได้หารือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเอกชนกว่า 200 คน เรื่องผลกระทบจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงต่างประเทศ กล่าวยอมรับว่า ที่ประชุมมีเอกชนส่วนหนึ่งได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออกซึ่งจะได้นำข้อเสนอดังกล่าวยื่นต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบทันที ส่วนนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจอย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ดำเนินการเอง อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบจากการปิดสนามบิน จะทำให้เศรษฐกิจเสียหายในไตรมาส 1 ปี 2552 ไม่ต่ำกว่า 140,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาทุกด้านตามที่เอกชนเองได้เสนอแนะมา
" ปัญหาการขนส่งสินค้าทางอากาศ (แอร์คาร์โก้) ทางการท่าอากาศยาน (ทอท.) ได้สำรวจเส้นทางพบว่า สามารถใช้เส้นทางขนส่งทางซอยกิ่งแก้ว เพื่อไปใช้บริการที่แอร์คาร์โก้ได้ เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ถูกปิดล้อม และจะมีการติดต่อเครื่องบินให้มารับสินค้า โดยคาดว่าจะเปิดบริการได้ภายใน 1-2 วัน" นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคมกล่าว
นายขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม มีหลายคนเป็นห่วงว่า หากลาออก แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ผู้ชุมนุมยังไม่หยุดการต่อต้าน จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งหลายฝ่ายเสนอว่า ควรต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และให้มีการยอมรับกฎหมาย ที่จะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาได้
นางปวรวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มภัตตาคารได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะทัวร์ยกเลิกการเดินทาง ทำให้ผู้ประกอบการซึ่งเป็นเอสเอ็มอีขาดสภาพคล่อง และปัญหาตกงานก็จะตามมา และแม้สนามบินจะเปิดได้ แต่ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจะยาวนาน ดังนั้นรัฐบาลควรเข้ามาช่วยเหลือด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ การจัดสัมมนาที่ยาวนานกว่า 2-3 วัน ขณะเดียวกัน ควรหางบช่วยเหลือการพัฒนาบุคลากรด้านการค้าการบริการ รองรับการแข่งขันระยะยาว
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า มูลค่าเสียหายของอุตสาหกรรมอาหารเบื้องต้นนับหลายพันล้านบาท และความเสียหายยังต่อเนื่องไปถึงอนาคต เพราะปกติช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักธุรกิจจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาร่วมเจรจาวางแผนการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทย แต่เมื่อสนามบินถูกปิด ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าหดหายไป และจะย้ายไปสั่งซื้อประเทศอื่น โดยเฉพาะกลุ่มญี่ปุ่น
" เตรียมเชิญสมาคมที่เกี่ยวข้องกับส่งออกอาหารซึ่งมีสมาชิกรวมกัน 1,000 ราย มาหารือการจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ค้าในต่างประเทศที่ได้รับความเสียหายกรณีไทยไม่สามารถส่งสินค้าได้ตามกำหนด ในช่วงที่ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนให้คู่ค้าต่างประเทศสั่งออร์เดอร์จากไทยต่อหลังจากเหตุการณ์ปกติแล้ว เพราะหากไม่จ่ายคู่ค้าจะหันไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่แข่งแทน จนเกิดปัญหาต่อภาคการส่งออกไทยในอนาคต"นายไพบูลย์กล่าว
**แอตต้าสุดทนจี้สมชายลาออก
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า จากกรณีที่หนังสือพิมพ์ เทเลกราฟ ประเทศอังกฤษ ประกาศให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 7 ของประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก จากการจัดอันดับทั้งหมด 20 ประเทศ ขณะที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีเหตุก่อวินาศกรรม มีผู้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กลับถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 11 จึงสะท้อนให้เห็นว่าต่างประเทศขาดความมั่นใจในประเทศไทย จึงต้องการให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลออกมารับผิดชอบเร่งดูแล เพราะต่างประเทศเริ่มมองประเทศไทยไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว ซึ่งทางที่ดีนายกรัฐมนตรีควรพิจารณาตัวเอง ด้วยการลาออก หรือหาทางออกให้ประเทศโดยเร็ว ซึ่งการที่ต่างชาติจัดอันดับไทยเช่นนี้ เพราะประเทศไทยไม่มีผู้นำประเทศออกมารับผิดชอบเหมือนประเทศอินเดีย
“จะตัดสินใจลาออกหรือทำอะไรก็ได้สักอย่างหนึ่งไม่ใช่ปล่อยแบบนี้ เพราะ ตัวนายกเองจะกลับมากรุงเทพยังทำไม่ได้ ฉะนั้นควรพิจารณาตัวเองจะลาออกก็ทำเลย เพราะขณะนี้ประเทศไม่เหลืออะไรแล้ว”
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วยสภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย วานนี้ (1ธ.ค.) ว่า ได้ออกแถลงการณ์ 4 ข้อโดย 1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยเนื่องจากไม่สามารถบริหารประเทศได้ก็ควรลาออกเปลี่ยนให้พรรคอื่นจัดตั้งรัฐบาล 2.หากข้อแรกดำเนินการไม่ได้ก็ขอให้ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ 3.ขอให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถอนออกจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิทันที และข้อ 4.อยู่ระหว่างการหารือว่าจะเป็นไปในลักษณะใดหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นนายกพระราชทาน
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กกร.จะออกแถลงการณ์ 4 ข้อซึ่งชัดเจนแล้ว 3 ข้อซึ่งเหลืออีกข้อหนึ่งก็มองอยู่ว่าจะเป็นในลักษณะใดแน่โดยคาดว่าแถลงการณ์จะสมบูรณ์และออกมาได้ในช่วง 10.30 น.ของวันนี้ (2 ธ.ค.) อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีคำตัดสินภายใน 2-3 วันนี้ ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีต่อการเมืองในภาพรวมของไทย
"ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจจะมีการสรุปภายใน 1 สัปดาห์ หลังสถานการณ์ทางการเมืองจบลง แต่หากคำตัดสินของศาลไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ทางสอท.คงจะต้องพิจารณาถึงแนวทางในการแสดงจุดยืนอีกครั้งหนึ่ง โดยยอมรับว่าสิ่งทีเกิดขึ้น เบื้องต้นได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอาหารสดซึ่งยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่ชัดเจนได้"นายสันติกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการประชุม กกร.แล้วภาคเอกชนส่วนหนึ่งได้เดินทางไปสมทบการประชุมที่มีนาย “โอฬาร ไชยประวัติ” รองนายกรัฐมนตรีกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เป็นประธาน ซึ่งได้หารือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเอกชนกว่า 200 คน เรื่องผลกระทบจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงต่างประเทศ กล่าวยอมรับว่า ที่ประชุมมีเอกชนส่วนหนึ่งได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออกซึ่งจะได้นำข้อเสนอดังกล่าวยื่นต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบทันที ส่วนนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจอย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ดำเนินการเอง อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบจากการปิดสนามบิน จะทำให้เศรษฐกิจเสียหายในไตรมาส 1 ปี 2552 ไม่ต่ำกว่า 140,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาทุกด้านตามที่เอกชนเองได้เสนอแนะมา
" ปัญหาการขนส่งสินค้าทางอากาศ (แอร์คาร์โก้) ทางการท่าอากาศยาน (ทอท.) ได้สำรวจเส้นทางพบว่า สามารถใช้เส้นทางขนส่งทางซอยกิ่งแก้ว เพื่อไปใช้บริการที่แอร์คาร์โก้ได้ เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ถูกปิดล้อม และจะมีการติดต่อเครื่องบินให้มารับสินค้า โดยคาดว่าจะเปิดบริการได้ภายใน 1-2 วัน" นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคมกล่าว
นายขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม มีหลายคนเป็นห่วงว่า หากลาออก แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ผู้ชุมนุมยังไม่หยุดการต่อต้าน จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งหลายฝ่ายเสนอว่า ควรต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และให้มีการยอมรับกฎหมาย ที่จะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาได้
นางปวรวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มภัตตาคารได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะทัวร์ยกเลิกการเดินทาง ทำให้ผู้ประกอบการซึ่งเป็นเอสเอ็มอีขาดสภาพคล่อง และปัญหาตกงานก็จะตามมา และแม้สนามบินจะเปิดได้ แต่ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจะยาวนาน ดังนั้นรัฐบาลควรเข้ามาช่วยเหลือด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ การจัดสัมมนาที่ยาวนานกว่า 2-3 วัน ขณะเดียวกัน ควรหางบช่วยเหลือการพัฒนาบุคลากรด้านการค้าการบริการ รองรับการแข่งขันระยะยาว
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า มูลค่าเสียหายของอุตสาหกรรมอาหารเบื้องต้นนับหลายพันล้านบาท และความเสียหายยังต่อเนื่องไปถึงอนาคต เพราะปกติช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักธุรกิจจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาร่วมเจรจาวางแผนการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทย แต่เมื่อสนามบินถูกปิด ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าหดหายไป และจะย้ายไปสั่งซื้อประเทศอื่น โดยเฉพาะกลุ่มญี่ปุ่น
" เตรียมเชิญสมาคมที่เกี่ยวข้องกับส่งออกอาหารซึ่งมีสมาชิกรวมกัน 1,000 ราย มาหารือการจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ค้าในต่างประเทศที่ได้รับความเสียหายกรณีไทยไม่สามารถส่งสินค้าได้ตามกำหนด ในช่วงที่ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนให้คู่ค้าต่างประเทศสั่งออร์เดอร์จากไทยต่อหลังจากเหตุการณ์ปกติแล้ว เพราะหากไม่จ่ายคู่ค้าจะหันไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่แข่งแทน จนเกิดปัญหาต่อภาคการส่งออกไทยในอนาคต"นายไพบูลย์กล่าว
**แอตต้าสุดทนจี้สมชายลาออก
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า จากกรณีที่หนังสือพิมพ์ เทเลกราฟ ประเทศอังกฤษ ประกาศให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 7 ของประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก จากการจัดอันดับทั้งหมด 20 ประเทศ ขณะที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีเหตุก่อวินาศกรรม มีผู้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กลับถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 11 จึงสะท้อนให้เห็นว่าต่างประเทศขาดความมั่นใจในประเทศไทย จึงต้องการให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลออกมารับผิดชอบเร่งดูแล เพราะต่างประเทศเริ่มมองประเทศไทยไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว ซึ่งทางที่ดีนายกรัฐมนตรีควรพิจารณาตัวเอง ด้วยการลาออก หรือหาทางออกให้ประเทศโดยเร็ว ซึ่งการที่ต่างชาติจัดอันดับไทยเช่นนี้ เพราะประเทศไทยไม่มีผู้นำประเทศออกมารับผิดชอบเหมือนประเทศอินเดีย
“จะตัดสินใจลาออกหรือทำอะไรก็ได้สักอย่างหนึ่งไม่ใช่ปล่อยแบบนี้ เพราะ ตัวนายกเองจะกลับมากรุงเทพยังทำไม่ได้ ฉะนั้นควรพิจารณาตัวเองจะลาออกก็ทำเลย เพราะขณะนี้ประเทศไม่เหลืออะไรแล้ว”
