ผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติแนะยึดหลักประนีประนอม ชี้ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหนไม่มีใครบอกได้ รู้แต่ว่าปัจจัยจากนอกประเทศกระทบเศรษฐกิจรุนแรงกว่าปัญหาภายใน ขณะที่ในที่ประชุมบอร์ด ธปท.ได้ข้อสรุปแนวทางการให้ซอฟต์โลนแก่ภาคธุรกิจแล้ว รอเสนอคลังอีก 1-2 วันข้างหน้า
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยกันปัญหาการเมืองจะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรบ้าง แต่เป็นการหารือเกี่ยวกับแนวทางออกของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน ซึ่งในที่ประชุมก็เชื่อว่าทางออกที่ดีที่สุดที่ให้ปัญหาทุกอย่างจบ คือ การประนีประนอมกันร่วมกัน แม้เป็นทราบกันดีว่าปัญหาการเมืองต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก็ตาม
ส่วนที่หลายฝ่ายพยายามประเมินตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจจากปัญหาการเมืองนั้น นางธาริษากล่าวว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไปอย่างไรบ้างนั้นไม่มีใครตอบได้ รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวด้วย เพราะที่ผ่านมาแม้ในหลายประเทศจะพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งส่วนใหญ่มีนโยบายการคลังเข้ามาดูแล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยกระตุ้นหรือพยุงเศรษฐกิจได้ผลแค่ไหน รวมทั้งผู้บริโภคจะสามารถเพิ่มการใช้จ่ายจริงได้หรือไม่ จึงต้องติดตามดูต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ประกาศลาออก แม้ คตร.เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการเมืองก็ตามนั้น ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา โดยเป็นเรื่องปกติที่เมื่อที่ประชุม คตร.เสนอไปแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบรับได้ทันที เพราะต้องมีการหารือกับฝ่ายรัฐบาลก่อน
อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจัยจากภายนอกประเทศมีความน่าเป็นห่วงมากกว่าปัจจัยภายในประเทศที่เกิดจากปัญหาการเมือง เนื่องจากจะส่งผลโดยตรงต่อภาคการส่งออก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัญหาการเมืองในไทยในขณะนี้ก็เริ่มกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวบ้างแล้ว
สำหรับการประชุมของคณะกรรมการ ธปท. (บอร์ด ธปท.) เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมานั้นโดยรวมจะหารือเกี่ยวกับการให้เงินสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะต้องรอเสนอให้กระทรวงการคลังให้ทราบเสียก่อน ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ ธปท.จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่อไป
ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในขณะนี้เป็นไปตามทิศทางค่าเงินของประเทศในแถบภูมิภาค ธปท.ก็ดูแลตามความจำเป็นไม่ให้เงินบาทผันผวนมากเกินไป ขณะเดียวกันภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายก็ยังปกติดีเช่นกัน และไม่มีสัญญาณอะไร หลังจากที่ผ่านมาเงินทุนที่ไหลออกส่วนใหญ่จะมาจากฝั่งตลาดหุ้นเป็นสำคัญ.
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยกันปัญหาการเมืองจะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรบ้าง แต่เป็นการหารือเกี่ยวกับแนวทางออกของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน ซึ่งในที่ประชุมก็เชื่อว่าทางออกที่ดีที่สุดที่ให้ปัญหาทุกอย่างจบ คือ การประนีประนอมกันร่วมกัน แม้เป็นทราบกันดีว่าปัญหาการเมืองต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก็ตาม
ส่วนที่หลายฝ่ายพยายามประเมินตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจจากปัญหาการเมืองนั้น นางธาริษากล่าวว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไปอย่างไรบ้างนั้นไม่มีใครตอบได้ รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวด้วย เพราะที่ผ่านมาแม้ในหลายประเทศจะพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งส่วนใหญ่มีนโยบายการคลังเข้ามาดูแล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยกระตุ้นหรือพยุงเศรษฐกิจได้ผลแค่ไหน รวมทั้งผู้บริโภคจะสามารถเพิ่มการใช้จ่ายจริงได้หรือไม่ จึงต้องติดตามดูต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ประกาศลาออก แม้ คตร.เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการเมืองก็ตามนั้น ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา โดยเป็นเรื่องปกติที่เมื่อที่ประชุม คตร.เสนอไปแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตอบรับได้ทันที เพราะต้องมีการหารือกับฝ่ายรัฐบาลก่อน
อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจัยจากภายนอกประเทศมีความน่าเป็นห่วงมากกว่าปัจจัยภายในประเทศที่เกิดจากปัญหาการเมือง เนื่องจากจะส่งผลโดยตรงต่อภาคการส่งออก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัญหาการเมืองในไทยในขณะนี้ก็เริ่มกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวบ้างแล้ว
สำหรับการประชุมของคณะกรรมการ ธปท. (บอร์ด ธปท.) เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมานั้นโดยรวมจะหารือเกี่ยวกับการให้เงินสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะต้องรอเสนอให้กระทรวงการคลังให้ทราบเสียก่อน ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ ธปท.จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่อไป
ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในขณะนี้เป็นไปตามทิศทางค่าเงินของประเทศในแถบภูมิภาค ธปท.ก็ดูแลตามความจำเป็นไม่ให้เงินบาทผันผวนมากเกินไป ขณะเดียวกันภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายก็ยังปกติดีเช่นกัน และไม่มีสัญญาณอะไร หลังจากที่ผ่านมาเงินทุนที่ไหลออกส่วนใหญ่จะมาจากฝั่งตลาดหุ้นเป็นสำคัญ.
