xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เล็งระดมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ SMEs อีกระลอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ธปท.เสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี เพิ่มสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมตั้งกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอี เชื่อเศรษฐกิจไทยปีหน้าชะลอตัวแน่นอน เป็นไปตามกลไกเศรษฐกิจโลก ชี้ขณะนี้ยังไม่พบคุณภาพสินเชื่อตกต่ำลงอย่างชัดเจน และไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ต้องไม่ประมาท ติดตามและดูแลอย่างใกล้ชิด

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึง การช่วยเหลือสภาพคล่องธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ว่า สภาพคล่องที่เดิมให้ผ่านช่องทางของ ธปท. ขณะนี้ส่วนที่มีการใช้อยู่แล้วก็ยังมีอยู่ โดยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟท์โลนที่ให้กับภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมทั้งเอสเอ็มอี เช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท และจะยังใช้ได้โดยบางระเบียบใช้ได้จนถึงปี 2553 และปี 2554 เพราะฉะนั้นส่วนที่มีอยู่ก็สามารถใช้ได้ต่อไป

สำหรับสินเชื่อที่จะให้ใหม่นั้น เคยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ เนื่องจาก ธปท.อยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ แต่เพิ่งได้รับจดหมายจาก นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้พิจารณาปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือเอสเอ็มอีอีก จึงต้องให้คณะกรรมการ ธปท.พิจารณาอีกครั้ง เพราะโดยสภาพข้อเท็จจริงแล้ว สินเชื่อยังขยายตัวได้พอสมควร และเข้าใจว่าขณะนี้กระทรวง การคลังอยู่ในขั้นตอนของการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นวิธีการที่คล้ายคลึงกันก็คงจะเป็นส่วนที่จะช่วยเอสเอ็มอีได้

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ปีหน้าเศรฐกิจไทยจะชะลอตัวลง โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยวันที่ 24 พ.ย.นี้ ซึ่งคงจะมีความชัดเจนมากขึ้น สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้มีปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศค่อนข้างมาก แต่ประเทศไทยแตกต่างจากต่างประเทศ จึงไม่อยากให้ตกใจกันมาก อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าเศรษฐกิจคงจะชะลอตัวลงบ้างในปีหน้า ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่สิ่งที่ควรทำในขณะนี้ คือ ไม่ควรประมาทควรหาทางเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ตัวเองว่าการที่เศรษฐกิจตกต่ำจะรับมือได้อย่างไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบว่าคุณภาพสินเชื่อตกต่ำลงอย่างชัดเจน ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ต้องไม่ประมาท ติดตามและดูแลอย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาหนี้สินภาคครัวเรือนลดลงก็ถือเป็นสิ่งที่ดี คงเป็นเพราะมีบทเรียนจากวิกฤติเศรษฐกิจ และทุกคนได้ยึดกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช้จ่ายเกินตัว มีเท่าไร ใช้เท่านั้น หากจะเป็นหนี้ก็มีการตรึกตรองพอสมควร ถือว่าไทยมีการปรับตัวและสามารถรองรับเศรษฐกิจที่ผันผวน ในภาวะที่เศรษฐกิจต่างประเทศตกต่ำรุนแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น