นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้ จะลดเหลือเพียงร้อยละ 2 ตามการคาดการณ์จากนักวิชาการหลายสถาบัน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีข้อยุติเมื่อใด แต่เชื่อว่าแม้จะเกิดสถานการณ์ขั้นเลวร้ายสุด จีดีพีปีหน้าไม่ถึงขั้นติดลบ
นายสุชาติ มองว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นรวมทั้งกรณีการปิดท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งนั้น คาดว่าต้องใช้เวลานานกว่า 1 ปี ในการฟื้นความเชื่อมั่น และหากปัญหาการเมืองยืดเยื้อนานถึง 3 เดือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินไว้ว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลถึง 100,000 ล้านบาท เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบไปหมดทั้งการท่องเที่ยว ด้านต่างประเทศ และความเชื่อมั่น
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ ( 27 พ.ย.) ที่รัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพราะต้องการแก้ปัญหาผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจด้วย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อดูแลเศรษฐกิจและประเทศชาติ
ขณะเดียวกัน ยังเป็นห่วงการจัดทำงบประมาณกลางปี 2552 จำนวน 100,000 ล้านบาท ว่าอาจเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษเท่านั้น เพราะขณะนี้กรอบการจัดทำงบประมาณดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ และยังต้องมีขั้นตอนอีกมาก อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาด้วย
นายสุชาติ มองว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นรวมทั้งกรณีการปิดท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งนั้น คาดว่าต้องใช้เวลานานกว่า 1 ปี ในการฟื้นความเชื่อมั่น และหากปัญหาการเมืองยืดเยื้อนานถึง 3 เดือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินไว้ว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลถึง 100,000 ล้านบาท เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบไปหมดทั้งการท่องเที่ยว ด้านต่างประเทศ และความเชื่อมั่น
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ ( 27 พ.ย.) ที่รัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพราะต้องการแก้ปัญหาผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจด้วย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อดูแลเศรษฐกิจและประเทศชาติ
ขณะเดียวกัน ยังเป็นห่วงการจัดทำงบประมาณกลางปี 2552 จำนวน 100,000 ล้านบาท ว่าอาจเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษเท่านั้น เพราะขณะนี้กรอบการจัดทำงบประมาณดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ และยังต้องมีขั้นตอนอีกมาก อีกทั้งต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาด้วย