ผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เปิดศูนย์ช่วยแก้ปัญหาโลจิสติกส์ส่งออก หลังสนามบินถูกปิด ทำส่งออกทางอากาศอัมพาต พร้อมสั่งทูตพาณิชย์แจงคู่ค้าทั่วโลกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กระทบส่งออกระยะยาว และให้จับตาภาวะราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด หวั่นพ่อค้าฉวยโอกาส ด้านสมาพันธ์โลจิสติกส์ดิ้นหันใช้สนามบินมาเลเซีย สิงคโปร์แทน แล้วขนส่งต่อทางรถยนต์ แม้ต้นทุนจะขึ้นอีก 25% ร้องรัฐเปิดฟรีโซนรองรับเพิ่ม
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้ศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ (MOC Service Link) เป็นศูนย์กลางเป็นกรณีพิเศษในการประสานงานและรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้ส่งออกในการแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์ หลังจากที่มีปัญหาการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้การส่งออกสินค้าทางอากาศเกิดการชะงักงัน โดยผู้ส่งออกสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 02-512-0123 02-507-7000 และ 02-507-8000
“ปกติศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำหน้าที่ให้บริการผู้ส่งออกในด้านการค้าอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ กระทรวงฯ อยากให้มีศูนย์กลางในการประสานงานและแก้ไขปัญหา ซึ่งหากผู้ส่งออกมีปัญหาอะไรตรงไหน ก็สามารถชี้แจงเข้ามาได้ กระทรวงฯ พร้อมที่จะรับฟังและหาทางเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยสิ่งที่ดำเนินการนี้ จะช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง”นายศิริพลกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ที่ประจำอยู่ที่ต่างๆ ทั่วโลก ทำการชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในของไทยว่าจะไม่มีผลกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออก แต่ยอมรับว่าในระยะสั้นอาจจะมีปัญหาในการส่งสินค้าบ้าง ซึ่งเชื่อว่าจะแก้ไขได้ในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน หากผู้ส่งออกมีประเด็นเร่งด่วนที่จะขอให้กระทรวงฯ ช่วยชี้แจงคู่ค้า ก็พร้อมที่จะดำเนินการให้
ส่วนภายในประเทศ ได้ขอให้พาณิชย์จังหวัด กรมการค้าภายใน จับตาสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้มีการฉกฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า และกักตุนสินค้า จนกระทบต่อผู้บริโภค รวมทั้งขอให้มีการออกสำรวจตลาดอย่างใกล้ชิด
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้จัดส่งสายตรวจออกไปตรวจสอบภาวะราคาสินค้า ทั้งในส่วนภูมิภาคและส่วนกลางเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสในสถานการณ์เช่นนี้ รวมทั้งได้มีการหาทางบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดงานแสดงสินค้านำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพราคาถูกมาจำหน่าย ซึ่งกำลังจัดอยู่ที่สนามกีฬาหัวหมากจนถึง 30 พ.ย. และจะจัดอีกที่สุขุมวิท 101 และในต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน จะขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตสินค้าที่มีต้นทุนลดลง ทำการปรับลดราคาสินค้าลงมาเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนปัญหาผัก และผลไม้ ที่ตกค้างที่สนามบินและไม่สามารถส่งออกได้ กรมฯ จะช่วยประสานงานไปยังตลาดกลาง และตลาดสด นำสินค้าเหล่านี้ไปจำหน่าย เพื่อไม่ให้สินค้าเกิดการเน่าเสีย
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กรมฯ ได้มีการประสานงานกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีปัญหาการปิดสนามบิน เพราะสินค้าหลายๆ รายการไม่สามารถส่งออกได้ และเกิดการตกค้าง เช่น ผัก ผลไม้ และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้พยายามที่จะหาทางออกและแก้ไขให้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ได้ใช้ศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ที่กรมส่งเสริมการส่งออก ถ.รัชดาภิเษก เป็นหน่วยงานกลางในการรับเรื่องขณะนี้
นายเกริกกล้า สนธิมาศ ประธานสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย กล่าวว่า กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์ทั้งด้านการส่งออกและนำเข้า โดยขนส่งทางรถยนต์แล้วไปขึ้นเครื่องบินที่มาเลเซียและสิงคโปร์แทน ซึ่งอยากให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยประสานงานไปยังศุลกากร เพื่อให้มีเขตฟรีโซนเพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการขนถ่ายสินค้า บรรจุสินค้า ไม่เช่นนั้น การส่งออกสินค้าทางอากาศจะมีปัญหา ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้รับที่จะประสานงานให้
“ตอนนี้ มีปัญหาทั้งการส่งออก และนำเข้า แต่เราก็ต้องหาทางออก ในด้านการส่งออก ก็ต้องขนของใส่รถยนต์ไปแล้วไปขึ้นเครื่องที่มาเลเซียหรือสิงคโปร์แทน ในด้านการนำเข้า ก็ต้องมาลงที่มาเลเซีย ที่สิงคโปร์ แล้วใช้รถยนต์ขนเข้ามา แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแน่ โดยคาดว่าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 25% แต่ก็ต้องยอม เพราะไม่งั้นธุรกิจจะมีปัญหา อย่างผัก ผลไม้ ถ้าไม่ส่งออก ก็เน่าเสีย หรืออย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ สต๊อกมีแค่ 2 วัน ถ้าแก้ไขไม่ได้ภายใน 2 วัน ก็มีปัญหา”นายเกริกกล้ากล่าว
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้ศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ (MOC Service Link) เป็นศูนย์กลางเป็นกรณีพิเศษในการประสานงานและรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้ส่งออกในการแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์ หลังจากที่มีปัญหาการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้การส่งออกสินค้าทางอากาศเกิดการชะงักงัน โดยผู้ส่งออกสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 02-512-0123 02-507-7000 และ 02-507-8000
“ปกติศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำหน้าที่ให้บริการผู้ส่งออกในด้านการค้าอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ กระทรวงฯ อยากให้มีศูนย์กลางในการประสานงานและแก้ไขปัญหา ซึ่งหากผู้ส่งออกมีปัญหาอะไรตรงไหน ก็สามารถชี้แจงเข้ามาได้ กระทรวงฯ พร้อมที่จะรับฟังและหาทางเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยสิ่งที่ดำเนินการนี้ จะช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง”นายศิริพลกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ที่ประจำอยู่ที่ต่างๆ ทั่วโลก ทำการชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในของไทยว่าจะไม่มีผลกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออก แต่ยอมรับว่าในระยะสั้นอาจจะมีปัญหาในการส่งสินค้าบ้าง ซึ่งเชื่อว่าจะแก้ไขได้ในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน หากผู้ส่งออกมีประเด็นเร่งด่วนที่จะขอให้กระทรวงฯ ช่วยชี้แจงคู่ค้า ก็พร้อมที่จะดำเนินการให้
ส่วนภายในประเทศ ได้ขอให้พาณิชย์จังหวัด กรมการค้าภายใน จับตาสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้มีการฉกฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า และกักตุนสินค้า จนกระทบต่อผู้บริโภค รวมทั้งขอให้มีการออกสำรวจตลาดอย่างใกล้ชิด
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้จัดส่งสายตรวจออกไปตรวจสอบภาวะราคาสินค้า ทั้งในส่วนภูมิภาคและส่วนกลางเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสในสถานการณ์เช่นนี้ รวมทั้งได้มีการหาทางบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดงานแสดงสินค้านำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพราคาถูกมาจำหน่าย ซึ่งกำลังจัดอยู่ที่สนามกีฬาหัวหมากจนถึง 30 พ.ย. และจะจัดอีกที่สุขุมวิท 101 และในต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน จะขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตสินค้าที่มีต้นทุนลดลง ทำการปรับลดราคาสินค้าลงมาเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนปัญหาผัก และผลไม้ ที่ตกค้างที่สนามบินและไม่สามารถส่งออกได้ กรมฯ จะช่วยประสานงานไปยังตลาดกลาง และตลาดสด นำสินค้าเหล่านี้ไปจำหน่าย เพื่อไม่ให้สินค้าเกิดการเน่าเสีย
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กรมฯ ได้มีการประสานงานกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีปัญหาการปิดสนามบิน เพราะสินค้าหลายๆ รายการไม่สามารถส่งออกได้ และเกิดการตกค้าง เช่น ผัก ผลไม้ และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้พยายามที่จะหาทางออกและแก้ไขให้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ได้ใช้ศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ที่กรมส่งเสริมการส่งออก ถ.รัชดาภิเษก เป็นหน่วยงานกลางในการรับเรื่องขณะนี้
นายเกริกกล้า สนธิมาศ ประธานสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย กล่าวว่า กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์ทั้งด้านการส่งออกและนำเข้า โดยขนส่งทางรถยนต์แล้วไปขึ้นเครื่องบินที่มาเลเซียและสิงคโปร์แทน ซึ่งอยากให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยประสานงานไปยังศุลกากร เพื่อให้มีเขตฟรีโซนเพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการขนถ่ายสินค้า บรรจุสินค้า ไม่เช่นนั้น การส่งออกสินค้าทางอากาศจะมีปัญหา ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้รับที่จะประสานงานให้
“ตอนนี้ มีปัญหาทั้งการส่งออก และนำเข้า แต่เราก็ต้องหาทางออก ในด้านการส่งออก ก็ต้องขนของใส่รถยนต์ไปแล้วไปขึ้นเครื่องที่มาเลเซียหรือสิงคโปร์แทน ในด้านการนำเข้า ก็ต้องมาลงที่มาเลเซีย ที่สิงคโปร์ แล้วใช้รถยนต์ขนเข้ามา แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแน่ โดยคาดว่าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 25% แต่ก็ต้องยอม เพราะไม่งั้นธุรกิจจะมีปัญหา อย่างผัก ผลไม้ ถ้าไม่ส่งออก ก็เน่าเสีย หรืออย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ สต๊อกมีแค่ 2 วัน ถ้าแก้ไขไม่ได้ภายใน 2 วัน ก็มีปัญหา”นายเกริกกล้ากล่าว