xs
xsm
sm
md
lg

‘ข่าวกรอง’มะกันคาด20ปีข้างหน้า สหรัฐฯบารมีทรุดทั้งการเมือง-ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – บรรดาหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯคาดหมายว่า ในอีกราว 20 ปีข้างหน้า อิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐฯในโลกจะเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงขึ้น ซึ่งทำให้ประเทศต่าง ๆ บนพื้นพิภพเสี่ยงภัยมากกว่าเดิม โดยมีการแข่งขันกันรุนแรงเพื่ออาหารและน้ำที่หายากมากขึ้น สวนทางกับอาวุธอำนาจทำลายล้างสูงที่จะมีใช้กันอย่างแพร่หลาย
สภาการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯได้ออกรายงานวิเคราะห์สถานการณ์โลกชื่อว่า “โกลบอล เทรนด์ 2025” โดยอธิบายว่าวิกฤตการเงินในวอลล์สตรีทเวลานี้ เป็นเพียงฉากต้น ๆของการปรับโครงสร้างใหม่ของเศรษฐกิจโลก
รายงานชี้ว่าบทบาทของเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ใช้เป็นเงินสกุลหลักของโลกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองก็จะเสื่อมลงมา จนมีฐานะเป็นเพียง “เงินสกุลสำคัญสกุลหนึ่งของโลก” เพราะเงินสกุลอื่น ๆจะเพิ่มความสำคัญขึ้นและมีบทบาทเท่าเทียมกับดอลลาร์สหรัฐฯ
รายงานภาพรวมนี้จัดทำขึ้นโดยมุ่งหมายเป็นการให้ข้อมูลต่อ ว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเกี่ยวกับแนวโน้มความน่าจะเป็นของสถานการณ์ทางอำนาจของโลก และเขียนขึ้นโดยอาศัยการทำการสำรวจความเห็นผู้เชี่ยวชาญและแนวโน้มต่างๆ ทั่วโลกอยู่เป็นเวลา 1 ปีของบรรดานักวิเคราะห์ข่าวกรองของสหรัฐฯ
รายงานฉบับนี้มองอิทธิพลของสหรัฐฯและแนวโน้มของความขัดแย้งระหว่างประเทศต่าง ๆในโลกนี้ในทางลบมากกว่ารายงานฉบับก่อนหน้าที่มองสถานการณ์ไว้ถึงปี 2020 โดยส่วนหนึ่งของรายงานกล่าวว่า“ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะเป็นห้วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบใหม่ซึ่งจะเต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านต่าง ๆมากมาย”
โธมัส ฟิงการ์ ประธานของสภาการข่าวกรอง และรองผู้อำนวยการแห่งชาติของงานข่าวกรองสำหรับนักวิเคราะห์ ชี้ว่าสหรัฐฯไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เหล่านี้ได้
“เพราะว่ามันเกินความสามารถของมนุษย์ หรือระบบการเมือง หรือในบางกรณีนั้นอยู่เหนือกลไกตลาดที่จะไปเปลี่ยนแปลงหรือบรรเทาความเสี่ยงเหล่านั้น และหากคิดถึงการแก้ไขก็ยิ่งทำไม่ได้เลย” ฟินการ์กล่าว
ในรายงานชี้ว่าจีนและอินเดียจะกลายมาเป็นมหาอำนาจจากการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยแนวทาง “ทุนนิยมโดยรัฐ” และจะกลายสภาพเป็นขั้วอำนาจที่ตั้งหน้าแข่งขันกับสหรัฐฯเพื่อชิงความนำทางด้านต่าง ๆ ส่วนศักยภาพของรัสเซียนั้นยังคงไม่แน่ชัดนัก ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนี้จะสามารถกอบโกยความร่ำรวยได้เท่าไรจากทรัพยากรด้านพลังงานที่มีอยู่ รวมทั้งการลงทุนภายในประเทศด้วย ในขณะเดียวกันประเทศอย่างอิหร่าน ตุรกีและอินโดนีเซียก็จะมีอิทธิพลเพิ่มขึ้น
รายงานชี้ว่าโลกที่มีขั้วอำนาจหลากหลายนั้นมีเสถียรภาพน้อยกว่าผูกขาดอำนาจโดยประเทศเพียงหนึ่งหรือสองแห่ง เพราะว่าความขัดแย้งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในขณะที่ภาวะโลกร้อนก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การขาดแคลนอาหาร น้ำและพลังงานจะเป็นเชื้อปะทุอย่างดีสำหรับความขัดแย้งระหว่างประเทศ
“การแข่งขันเป็นศัตรูกันรุนแรงจะเกิดขึ้นทั้งด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมทั้งการควบรวมทางด้านธุรกิจด้วย และเราอาจจะประสบกับสถานการณ์เดียวกับศตวรรษที่ 19 ที่มีการแข่งขันกันสั่งสมอาวุธ ขยายดินแดนและแสดงความเป็นศัตรูกันด้านการทหารอย่างเปิดเผย” รายงานระบุ “ความขัดแย้งที่เราไม่ได้เห็นมาระยะหนึ่ง อย่างเช่น การแย่งชิงทรัพยากร ก็จะหวนคืนมาอีก”
ความมั่งคั่งของโลกจะเคลื่อนย้ายจากประเทศพัฒนาแล้วในตะวันตก มาสู่ประเทศตะวันออกกลางและรัสเซียที่เต็มไปด้วยทรัพยากรด้านพลังงาน และสู่เอเชียซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและบริการบางด้านที่มีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศยากจนและร่ำรวยจะเพิ่มขึ้น แอฟริกาที่เป็นภูมิภาคยากจนที่สุดในโลกจะต้องเผชิญหน้ากับความไร้เสถียรภาพที่พัฒนารุนแรงขึ้นทุกขณะ
ฟิงการ์ชี้ว่าการปรับโครงสร้างในระบบการเงินโลกนั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผู้เขียนรายงานมองเอาไว้ การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศจี 20 ระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาชั้นนำที่กรุงวอชิงตันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างอันดีว่าการปรับเปลี่ยนนั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว
ต่อไปก็จะเป็นการเปลี่ยนจากระบบพลังงานที่ใช้น้ำมันเป็นหลัก มาเป็นพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและกระจายพลังงานน้อยกว่ากันมาก
ในขณะเดียวกันประเทศต่าง ๆจะเผชิญหน้าความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์มากขึ้น แต่จะถึงร้ายแรงถึงขั้นใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความแพร่หลายของเทคโนโลยี รวมทั้งขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของระบบควบคุมความแพร่หลายทางนิวเคลียร์ระหว่างประเทศว่าจะสามารถควบคุมได้มากน้อยเพียงใด แต่รายงานชี้ว่าระบบนี้กำลังไร้ซึ่งประสิทธิภาพลงทุกขณะ
ฟิงการ์กล่าวว่าหากอิหร่านสามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองได้ ก็จะทำให้เกิดการแข่งขันสะสมอาวุธในตะวันออกกลาง และจะก่อให้เกิดภาวะ “ความไร้เสถียรภาพอย่างสูงสุด” ขึ้นในโลกนี้
รายงานยังระบุด้วยว่ามีความเสี่ยงที่กลุ่มก่อการร้ายจะโจมตีเป้าหมายด้วยอาวุธชีวภาพที่มีอำนาจการทำลายล้างสูงมากกว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์
กำลังโหลดความคิดเห็น