นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ถึงกรณีที่ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคระบุว่านายกฯอยากให้ กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่เป็นส.ส.ระบบสัดส่วนลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสินคดียุบพรรคพลังประชาชน เพื่อให้คนที่อยู่ในลำดับถัดไป เข้ามาเป็นส.ส.แทน ว่า เรื่องนี้ต้องดูก่อนเผื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องการบริหารจัดการภายใน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นแนวทางของพรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นไปได้ ก็พูดกันไปหลายคนแล้วนี่ หากสมมติว่ามีการยุบพรรค แล้วถูกตัดสิทธิ เขาก็มีสิทธิที่จะลาออกก่อนได้ เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ ด้วยหรือไม่ นายสมชายตอบว่า อันนี้ตนไม่รู้ ไม่ทราบ ยังไม่มีการพูดคุยกัน เมื่อถามว่า ส่วนตัวท่านจะลาออกด้วยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการที่นายสมชาย มีแนวคิดเช่นนี้เพราะจะไม่มีการยุบสภาหลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ แต่จะให้ ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ที่ตั้งรองรับไว้แล้ว และให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศต่อไป โดยจะไม่ยุบสภา โดยจะให้แกนนำที่เป็น ส.ส.และไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กลุ่ม ส.ส.ของตัวเองซึ่งมี พ.ต.ท.ทักณิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง ครองอำนาจต่อไป
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ฝ่ายกฎหมาย พรรคมัชฌิมาธิปไตยกล่าวว่า การยื่นเรื่องเพื่อต่อสู้สำนวนคดียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่จะครบในวันที่ 19 พ.ย.นี้นั้น ทางพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ขอขยายเวลาการส่งเอกสารคำร้องคัดค้านกรณียุบพรรค ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ออกไปอีก 15 วัน เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะให้ขยายเวลาออกไปหรือไม่ หากศาลไม่ให้ขยายเวลาออกไป พรรคก็พร้อมที่จะส่งเอกสารคำแก้ข้อกล่าวหาเท่าที่มี
โดยขณะนี้มีเนื้อหาความหนากว่า 40 หน้า โดยเนื้อหาหลักเป็นการยืนยันการกระทำผิดของนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตกรรมการบริหารพรรค โดยเป็น ความผิดส่วนตัว และกรรมการบริหารพรรคคนอื่นไม่รู้เห็นด้วย อีกทั้ง ทาง กกต. ไม่ได้มีหนังสือแจ้งมาให้พรรคทราบก่อนว่ามีกรรมการบริหารของพรรคไปกระทำผิดจนโดนใบแดง นอกจากนี้จะรวบรวมข่าวที่สื่อมวลชนเคยนำเสนอถึงกรณีความขัดแย้งของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคตั้งแต่ก่อตั้งพรรคจนถึงปัจจุบัน ที่ไม่มีความสามัคคีต่างคนต่างอยู่ มาเป็นข้อต่อสู้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ขณะนี้พรรคพลังประชาชนได้ทำคำชี้แจงคดียุบพรรคเสร็จแล้ว ซึ่งในวันนี้ (19 พ.ย.) จะให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคและทนายความ ไปยื่นคำชี้แจง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับจะยื่นคำร้องของกรรมการบริหารพรรคที่จะขอเป็น คู่ความในคดีด้วย เพื่อใช้สิทธิในการสืบพยานหลักฐานตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่าจะสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การที่อัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญใน 2 แนวทาง ทั้งการยุบพรรคตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด และการยุบพรรคตัดสิทธิเฉพาะกรรมการบริหารพรรคที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นเรื่องที่ให้ความเป็นธรรมกับพรรค ซึ่งพรรคจะนำเอาแนวทางของอัยการสูงสุดมาเป็นแนวทางประกอบในการ ต่อสู้คดี โดยเฉพาะการขอให้ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด กับการตัดสิทธิบางคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และให้เป็นดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยว่าสมควรประการใด
ส่วนข้อต่อสู้ในมาตรา 237 ที่เกี่ยวกับการยุบพรรคนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคจะชี้แจงว่า กรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตีความของศาลรัฐธรรมนูญว่า จะเห็นตามแนวทางของอัยการสูงสุดได้หรือไม่ โดยเฉพาะคำว่า บุคคลใด หรือ ผู้ใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเตรียมให้บุคคลที่ไม่ได้เป็น กรรมการบริหารพรรคมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี จะได้มีนายกรัฐมนตรีรักษาการ หากมีการยุบพรรค นายชูศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้หากมีการยุบพรรคก็มีรองนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว
นายชูศักดิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมหานายกรัฐมนตรีสำรองไว้ โดยกล่าวว่าการพิจารณา เลือกนายกรัฐมนตรี พรรคจะเป็นผู้ตัดสินใจ
นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมพรรคชสาติไทย ซึ่งมีนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคเป็นประธานการประชุมว่า วันนี้ (19 พ.ย.) ช่วงบ่ายจะถือฤกษ์จัดทำงานทำบุญครบรอบ 34 ปี พรรคชาติไทยเข้าชื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหา เพื่อต่อสู้คดีการยุบพรรคไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ได้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงอะไรใหม่ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ผู้สมัครที่เป็นกรรมการบริหาร ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าการการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเชื่อมั่นตั้งแต่ต้นตั้งแต่ไปยื่นเรื่องให้กกต.แล้ว
นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ หนึ่งในคณะทำงานรับผิดชอบคดียุบพรรคการเมือง เปิดเผยว่า หลังจากที่อัยการสูงสุด (อสส.)ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองอันประกอบด้วย พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรคพลังประชาชนไปแล้ว และทราบมาว่าทั้ง3พรรคการเมือง ได้ขอขยายเวลาในการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก โดยขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้แจ้งมายัง อสส.เพื่อนัดตรวจพยานหรือดำเนินกระบวนการไต่สวน ซึ่งคงต้องรอให้การยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของทั้ง 3 พรรคเรียบร้อยก่อน
ทั้งนี้ อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินคดีในศาล ซึ่งศาลก็อนุญาตให้ตามคำขอ และตอนนี้คณะทำงานก็ได้เตรียมหารือในเรื่องพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
ส่วนที่อัยการสูงสุดได้ระบุในท้ายคำร้องขอให้ศาลใช้ดุลพินิจตัดสิทธิ กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดหรือตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคที่กระทำผิดเท่านั้นใช่หรือไม่ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า อัยการสูงสุดได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบทั้ง 3 พรรค และขอให้มีการเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค 5 ปี แต่ทั้งนี้ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นกรรมการบริหารพรรคคนใดบ้าง ซึ่งก็ให้เป็นดุลยพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง ว่า กรรมการบริหารคนไหนมีส่วนรู้เห็นบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นแนวทางของพรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นไปได้ ก็พูดกันไปหลายคนแล้วนี่ หากสมมติว่ามีการยุบพรรค แล้วถูกตัดสิทธิ เขาก็มีสิทธิที่จะลาออกก่อนได้ เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ ด้วยหรือไม่ นายสมชายตอบว่า อันนี้ตนไม่รู้ ไม่ทราบ ยังไม่มีการพูดคุยกัน เมื่อถามว่า ส่วนตัวท่านจะลาออกด้วยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการที่นายสมชาย มีแนวคิดเช่นนี้เพราะจะไม่มีการยุบสภาหลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ แต่จะให้ ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ที่ตั้งรองรับไว้แล้ว และให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศต่อไป โดยจะไม่ยุบสภา โดยจะให้แกนนำที่เป็น ส.ส.และไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กลุ่ม ส.ส.ของตัวเองซึ่งมี พ.ต.ท.ทักณิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง ครองอำนาจต่อไป
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ฝ่ายกฎหมาย พรรคมัชฌิมาธิปไตยกล่าวว่า การยื่นเรื่องเพื่อต่อสู้สำนวนคดียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่จะครบในวันที่ 19 พ.ย.นี้นั้น ทางพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ขอขยายเวลาการส่งเอกสารคำร้องคัดค้านกรณียุบพรรค ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ออกไปอีก 15 วัน เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะให้ขยายเวลาออกไปหรือไม่ หากศาลไม่ให้ขยายเวลาออกไป พรรคก็พร้อมที่จะส่งเอกสารคำแก้ข้อกล่าวหาเท่าที่มี
โดยขณะนี้มีเนื้อหาความหนากว่า 40 หน้า โดยเนื้อหาหลักเป็นการยืนยันการกระทำผิดของนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตกรรมการบริหารพรรค โดยเป็น ความผิดส่วนตัว และกรรมการบริหารพรรคคนอื่นไม่รู้เห็นด้วย อีกทั้ง ทาง กกต. ไม่ได้มีหนังสือแจ้งมาให้พรรคทราบก่อนว่ามีกรรมการบริหารของพรรคไปกระทำผิดจนโดนใบแดง นอกจากนี้จะรวบรวมข่าวที่สื่อมวลชนเคยนำเสนอถึงกรณีความขัดแย้งของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคตั้งแต่ก่อตั้งพรรคจนถึงปัจจุบัน ที่ไม่มีความสามัคคีต่างคนต่างอยู่ มาเป็นข้อต่อสู้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ขณะนี้พรรคพลังประชาชนได้ทำคำชี้แจงคดียุบพรรคเสร็จแล้ว ซึ่งในวันนี้ (19 พ.ย.) จะให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคและทนายความ ไปยื่นคำชี้แจง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับจะยื่นคำร้องของกรรมการบริหารพรรคที่จะขอเป็น คู่ความในคดีด้วย เพื่อใช้สิทธิในการสืบพยานหลักฐานตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่าจะสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การที่อัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญใน 2 แนวทาง ทั้งการยุบพรรคตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด และการยุบพรรคตัดสิทธิเฉพาะกรรมการบริหารพรรคที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นเรื่องที่ให้ความเป็นธรรมกับพรรค ซึ่งพรรคจะนำเอาแนวทางของอัยการสูงสุดมาเป็นแนวทางประกอบในการ ต่อสู้คดี โดยเฉพาะการขอให้ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด กับการตัดสิทธิบางคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และให้เป็นดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยว่าสมควรประการใด
ส่วนข้อต่อสู้ในมาตรา 237 ที่เกี่ยวกับการยุบพรรคนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคจะชี้แจงว่า กรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตีความของศาลรัฐธรรมนูญว่า จะเห็นตามแนวทางของอัยการสูงสุดได้หรือไม่ โดยเฉพาะคำว่า บุคคลใด หรือ ผู้ใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเตรียมให้บุคคลที่ไม่ได้เป็น กรรมการบริหารพรรคมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี จะได้มีนายกรัฐมนตรีรักษาการ หากมีการยุบพรรค นายชูศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้หากมีการยุบพรรคก็มีรองนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว
นายชูศักดิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมหานายกรัฐมนตรีสำรองไว้ โดยกล่าวว่าการพิจารณา เลือกนายกรัฐมนตรี พรรคจะเป็นผู้ตัดสินใจ
นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมพรรคชสาติไทย ซึ่งมีนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคเป็นประธานการประชุมว่า วันนี้ (19 พ.ย.) ช่วงบ่ายจะถือฤกษ์จัดทำงานทำบุญครบรอบ 34 ปี พรรคชาติไทยเข้าชื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหา เพื่อต่อสู้คดีการยุบพรรคไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ได้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงอะไรใหม่ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ผู้สมัครที่เป็นกรรมการบริหาร ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าการการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเชื่อมั่นตั้งแต่ต้นตั้งแต่ไปยื่นเรื่องให้กกต.แล้ว
นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ หนึ่งในคณะทำงานรับผิดชอบคดียุบพรรคการเมือง เปิดเผยว่า หลังจากที่อัยการสูงสุด (อสส.)ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองอันประกอบด้วย พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรคพลังประชาชนไปแล้ว และทราบมาว่าทั้ง3พรรคการเมือง ได้ขอขยายเวลาในการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก โดยขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้แจ้งมายัง อสส.เพื่อนัดตรวจพยานหรือดำเนินกระบวนการไต่สวน ซึ่งคงต้องรอให้การยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของทั้ง 3 พรรคเรียบร้อยก่อน
ทั้งนี้ อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินคดีในศาล ซึ่งศาลก็อนุญาตให้ตามคำขอ และตอนนี้คณะทำงานก็ได้เตรียมหารือในเรื่องพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
ส่วนที่อัยการสูงสุดได้ระบุในท้ายคำร้องขอให้ศาลใช้ดุลพินิจตัดสิทธิ กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดหรือตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคที่กระทำผิดเท่านั้นใช่หรือไม่ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า อัยการสูงสุดได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบทั้ง 3 พรรค และขอให้มีการเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค 5 ปี แต่ทั้งนี้ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นกรรมการบริหารพรรคคนใดบ้าง ซึ่งก็ให้เป็นดุลยพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง ว่า กรรมการบริหารคนไหนมีส่วนรู้เห็นบ้าง