หลังจากที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ออกมาระบุว่า ขณะนี้ในพรรคพลังประชาชนมีความขัดแย้งอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีอย่างไม่เป็นธรรม เนื่องจากมีบุคคลที่จะทำให้พรรคพลังประชาชนถูกยุบ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดโผ ครม. และเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้แถลงข่าวในนามโฆษกพรรค โดยได้หลุดปากว่า รัฐบาลจะอยู่ไม่นาน การเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ขัดไปก่อน เพราะขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาเฉพาะหน้าหลายเรื่อง และมีเสียงสนับสนุนให้คืนอำนาจให้ประชาชน
วานนี้ (29 ก.ย.) นายศักดา คงเพชร แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่าวันนี้ (30 ก.ย.) ตนจะเสนอให้ถอด ร.ท.กุเทพ ออกจากตำแหน่งโฆษกพรรค เนื่องจากไม่ได้เสนอข้อเท็จจริงในนามของพรรค แต่กลับใช้ความเห็นส่วนตัว ทำให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้อ้างว่า กรรมการบริหารไม่สบายใจการแต่งตั้งรัฐมนตรี ทั้งที่มีมติเอกฉันท์ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินการ
**เตรียมจัดสัมมนาประสานรอยร้าว
ด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถึงเรื่องความขัดแย้งในพรรคว่า ไม่เป็นไร เราพวกเดียวกัน เดี๋ยวคุยกันได้ หลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว พรรคจะจัดงานสัมมนานอกสถานที่ เพื่อพูดคุย และทำกิจกรรมร่วมกัน แต่จะเป็นที่ใดนั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.สพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ออกมาระบุว่า มีบุคคลที่จะทำให้พรรคพลังประชาชนถูกยุบ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดโผ ครม.ว่า เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคมีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งคงไม่ถึงกับทำให้พรรคเสียหาย เพราะเรายังต้องอาศัยชายคาของพรรค แต่อยากให้ส.ส.ดูพฤติกรรมของนายกฯ ที่มีความอดทน อดกลั้น ประนีประนอม ดังนั้นสมาชิกพรรคควรจะดูเป็นตัวอย่าง
ส่วนกรณีที่ ร.ท.กุเทพ พูดในลักษณะเหมือนกับว่าไม่ต้องสนใจอะไร เพราะคิดว่าอีกไม่นานพรรคก็จะถูกยุบนั้น เป็นการคิดเอาเอง เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสิน หรือระบุว่ากรรมการบริหารพรรคจะมีความผิดไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พรรคเตรียมจัดการสัมมนา ส.ส.พรรคพลังประชาชน เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน โดยเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นจังหวัดใกล้ๆกทม. เช่น ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเป็นการจัดกิจกรรมให้สมาชิกทุกคนของพรรคมีส่วนร่วม ทั้งทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสานโดยไม่มีการแบ่งแยกกัน ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น คงจะต้องดูกันต่อไป
**ไพจิตโดดป้องยงยุทธ-เจ๊แดง
ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม แกนนำส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า ร.ท.กุเทพ คงไม่ได้พูดในฐานะโฆษกพรรค แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะของส.ส.เท่านั้น และถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของนักการเมืองที่มีธรรมชาติในเรื่องของการแสดงออก การแสดงความคิดเห็น และวิเคราะห์สถานการณ์ แต่หากพรรคมีความสงสัยในตัว ร.ท.กุเทพ การประชุมพรรควันที่ 30 ก.ย. ก็คงจะมีการสอบถามเหตุผลว่า เหตุใด ร.ท.กุเทพ จึงแสดงความคิดเห็นดังกล่าวออกมา
นายไพจิต ยังกล่าวถึงกรณีความขัดแย้งในพรรคพลังประชาชนว่า ขณะนี้แกนนำพรรคและส.ส. กำลังพูดคุย ปรับความเข้าใจกันอยู่ เพราะถือเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง ที่จะมีส.ส.ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง คงจะต้องช่วยกันประคับประคอง เพราะอยู่พรรคเดียวกัน และจะไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก
ส่วนกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ระบุว่า พรรคแตก และคณะกรรมการบริหารพรรคถูกลอยแพนั้น ก็เป็นความเห็นส่วนตัว ที่ไม่ได้ทำให้พรรคเสียหาย พรรคพลังประชาชนยังเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีปัญหาถึงขั้นพรรคร้าง แต่มีการเปลี่ยนแปลงตามภารกิจ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ควรหารือกันในพรรค
ส่วนการแต่งตั้งเลขาฯ และที่ปรึกษารัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช และ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายกฯ อยู่เบื้องหลังนั้น ตนไม่ต้องการให้มีการพูดถึง เนื่องจากว่าทั้ง 2 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งตนมั่นใจว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มีการคำนึงว่าใครใกล้ชิดใคร ส่วนเรื่องการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบแน่นอน
**ยุ"ครม.พี่เมีย"เลิกทำตามใบสั่ง
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท. กุเทพ ออกมายอมรับถึงเบื้องหลังการจัด ครม. ชุดนี้ว่า เป็นสายตรงจากลอนดอน ซึ่งสอดคล้องกับที่ตนเคยระบุว่า เป็น"ครม.พี่เมีย" ดังนั้น การออกมายอมรับของร.ท.กุเทพในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงเจตนาว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง และอาจส่งผลต่อการบริหารงานได้ ไม่ว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะชอบหรือไม่ชอบคำว่า "ครม.พี่เมีย" หรือไม่ก็ตาม แต่ สิ่งที่ ร.ท.กุเทพได้ออกมาบอก ก็สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ส่วนหนึ่ง
"ถ้าครม.มีลักษณะเช่นนี้ และการจัดตั้งรัฐบาลมีที่มาเช่นนี้ ผมไม่แน่ใจว่านายกฯ จะมีอิสระในการบริหารราชการแผ่นดินมากน้อยเพียงใด ผมอยากให้นายกฯ สลัดภาพเหล่านี้ให้ออก สลัดสายสัมพันธ์ภายในครอบครัว และต้องเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าที่จะปล่อยให้ตัวเองรองรับคำสั่งจากบุคคลอื่นอยู่ตลอดเวลา" นายองอาจกล่าว
**โต้แทน"ยุทธ"อ้างไม่ได้ฮุบโควต้า
นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเสนอรายชื่อเลขานุการนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ ( 30 ก.ย.) โดยจะเป็นเรื่องที่รัฐมนตรี แต่ละคนเป็นผู้พิจารณาเองว่า จะแต่งตั้งบุคคลใดเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากวิจารณ์ว่า จะมีคนในกลุ่มของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.)เข้ามาดำรงตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรี เป็นจำนวนมาก จนทำให้บางกลุ่มในพรรคไม่พอใจนั้น ได้มอบหมายให้รัฐมนตรี ไปดูแลแล้วว่า จะนำใครมาช่วยงานได้ แต่ต้องทำงานเป็นและทุ่มเท ที่สำคัญคือมาทำงานแล้วต้องให้เข้าขากันได้ ยืนยันไม่มีเรื่องของโควต้า เพราะให้สิทธิรัฐมนตรีไปดูแลเอง
ส่วนที่ ร.ท.กุเทพ ออกมาระบุว่า ขณะนี้พรรคพลังประชาชน ไม่มีเอกภาพแล้วนั้น คงไม่ใช่เป็นความคิดของ ร.ท.กุเทพ เอง เมื่อก่อน ร.ท.กุเทพ ก็ทำหน้าที่ได้ดี มีมติพรรคอะไรก็ออกมาชี้แจง แต่หลังจากแต่งตั้ง ครม.แล้ว ไม่ทราบว่าท่านคิดอย่างนั้นเพราะอะไร อาจจะต้องคุยกัน
เมื่อถามว่า ร.ท.กุเทพ เป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน หรือไม่ จึงออกมาแสดงความไม่พอใจแบบนี้ นายสุขุมพงษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คงต้องคุยกันถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อทุกอย่างลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครม. เข้าบริหารบ้านเมืองแล้ว การแต่งตั้งทุกตำแหน่งลงตัวหมดแล้ว ก็น่าจะทำความเข้าใจกันได้
**"สุขุมพงษ์"รับช่วงต่อจาก"ชูศักดิ์"
นายสุขุมพงษ์ ยังกล่าวถึงการแบ่งงานในตำแหน่งของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ว่านายกฯ จะเป็นผู้พิจารณา คงมอบงานเดิมของนายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ตน และขณะนี้ยังมีกฎหมายหลายฉบับที่ค้างอยู่ในสภา ของรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งก็ต้องไปดูว่าจะเร่งรัดต่อไปหรือไม่ และกฎหมายที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทำมีหลายฉบับที่ต้องเร่งรัด เพราะใกล้ถึงระยะเวลากำหนดแล้ว
"นายกฯ อาจจะแบ่งให้รัฐมนตรีไปรับผิดชอบ สื่อในแต่ละส่วนก็ได้ หรือมอบหมายให้คนเดียวดูแลสื่อ แล้วแต่นโยบายของนายกฯ" นายสุขุมพงษ์กล่าว
** "ชูศักดิ์" ส่งจม.ลาออกจาก ส.ส.แล้ว
นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับหนังสือลาออกจากส.ส.ของนายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.สัดส่วนลำดับ 2 ของกลุ่ม 2 พรรคพลังประชาชนเรียบร้อยแล้ว โดยจะไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยจะมีการเลื่อนลำดับรายชื่อสัดส่วนคนต่อไปของพรรคพลังประชาชน คือ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ขึ้นมาเป็นส.ส.สัดส่วนแทน หลังจากที่นายชูศักดิ์ ได้รับการวางตัวให้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด
วานนี้ (29 ก.ย.) นายศักดา คงเพชร แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่าวันนี้ (30 ก.ย.) ตนจะเสนอให้ถอด ร.ท.กุเทพ ออกจากตำแหน่งโฆษกพรรค เนื่องจากไม่ได้เสนอข้อเท็จจริงในนามของพรรค แต่กลับใช้ความเห็นส่วนตัว ทำให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้อ้างว่า กรรมการบริหารไม่สบายใจการแต่งตั้งรัฐมนตรี ทั้งที่มีมติเอกฉันท์ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินการ
**เตรียมจัดสัมมนาประสานรอยร้าว
ด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถึงเรื่องความขัดแย้งในพรรคว่า ไม่เป็นไร เราพวกเดียวกัน เดี๋ยวคุยกันได้ หลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว พรรคจะจัดงานสัมมนานอกสถานที่ เพื่อพูดคุย และทำกิจกรรมร่วมกัน แต่จะเป็นที่ใดนั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.สพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ออกมาระบุว่า มีบุคคลที่จะทำให้พรรคพลังประชาชนถูกยุบ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดโผ ครม.ว่า เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคมีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งคงไม่ถึงกับทำให้พรรคเสียหาย เพราะเรายังต้องอาศัยชายคาของพรรค แต่อยากให้ส.ส.ดูพฤติกรรมของนายกฯ ที่มีความอดทน อดกลั้น ประนีประนอม ดังนั้นสมาชิกพรรคควรจะดูเป็นตัวอย่าง
ส่วนกรณีที่ ร.ท.กุเทพ พูดในลักษณะเหมือนกับว่าไม่ต้องสนใจอะไร เพราะคิดว่าอีกไม่นานพรรคก็จะถูกยุบนั้น เป็นการคิดเอาเอง เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสิน หรือระบุว่ากรรมการบริหารพรรคจะมีความผิดไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พรรคเตรียมจัดการสัมมนา ส.ส.พรรคพลังประชาชน เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน โดยเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นจังหวัดใกล้ๆกทม. เช่น ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเป็นการจัดกิจกรรมให้สมาชิกทุกคนของพรรคมีส่วนร่วม ทั้งทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสานโดยไม่มีการแบ่งแยกกัน ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น คงจะต้องดูกันต่อไป
**ไพจิตโดดป้องยงยุทธ-เจ๊แดง
ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม แกนนำส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า ร.ท.กุเทพ คงไม่ได้พูดในฐานะโฆษกพรรค แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะของส.ส.เท่านั้น และถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของนักการเมืองที่มีธรรมชาติในเรื่องของการแสดงออก การแสดงความคิดเห็น และวิเคราะห์สถานการณ์ แต่หากพรรคมีความสงสัยในตัว ร.ท.กุเทพ การประชุมพรรควันที่ 30 ก.ย. ก็คงจะมีการสอบถามเหตุผลว่า เหตุใด ร.ท.กุเทพ จึงแสดงความคิดเห็นดังกล่าวออกมา
นายไพจิต ยังกล่าวถึงกรณีความขัดแย้งในพรรคพลังประชาชนว่า ขณะนี้แกนนำพรรคและส.ส. กำลังพูดคุย ปรับความเข้าใจกันอยู่ เพราะถือเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง ที่จะมีส.ส.ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง คงจะต้องช่วยกันประคับประคอง เพราะอยู่พรรคเดียวกัน และจะไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก
ส่วนกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ระบุว่า พรรคแตก และคณะกรรมการบริหารพรรคถูกลอยแพนั้น ก็เป็นความเห็นส่วนตัว ที่ไม่ได้ทำให้พรรคเสียหาย พรรคพลังประชาชนยังเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีปัญหาถึงขั้นพรรคร้าง แต่มีการเปลี่ยนแปลงตามภารกิจ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ควรหารือกันในพรรค
ส่วนการแต่งตั้งเลขาฯ และที่ปรึกษารัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช และ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายกฯ อยู่เบื้องหลังนั้น ตนไม่ต้องการให้มีการพูดถึง เนื่องจากว่าทั้ง 2 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งตนมั่นใจว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มีการคำนึงว่าใครใกล้ชิดใคร ส่วนเรื่องการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบแน่นอน
**ยุ"ครม.พี่เมีย"เลิกทำตามใบสั่ง
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท. กุเทพ ออกมายอมรับถึงเบื้องหลังการจัด ครม. ชุดนี้ว่า เป็นสายตรงจากลอนดอน ซึ่งสอดคล้องกับที่ตนเคยระบุว่า เป็น"ครม.พี่เมีย" ดังนั้น การออกมายอมรับของร.ท.กุเทพในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงเจตนาว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง และอาจส่งผลต่อการบริหารงานได้ ไม่ว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะชอบหรือไม่ชอบคำว่า "ครม.พี่เมีย" หรือไม่ก็ตาม แต่ สิ่งที่ ร.ท.กุเทพได้ออกมาบอก ก็สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ส่วนหนึ่ง
"ถ้าครม.มีลักษณะเช่นนี้ และการจัดตั้งรัฐบาลมีที่มาเช่นนี้ ผมไม่แน่ใจว่านายกฯ จะมีอิสระในการบริหารราชการแผ่นดินมากน้อยเพียงใด ผมอยากให้นายกฯ สลัดภาพเหล่านี้ให้ออก สลัดสายสัมพันธ์ภายในครอบครัว และต้องเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าที่จะปล่อยให้ตัวเองรองรับคำสั่งจากบุคคลอื่นอยู่ตลอดเวลา" นายองอาจกล่าว
**โต้แทน"ยุทธ"อ้างไม่ได้ฮุบโควต้า
นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเสนอรายชื่อเลขานุการนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ ( 30 ก.ย.) โดยจะเป็นเรื่องที่รัฐมนตรี แต่ละคนเป็นผู้พิจารณาเองว่า จะแต่งตั้งบุคคลใดเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากวิจารณ์ว่า จะมีคนในกลุ่มของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.)เข้ามาดำรงตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรี เป็นจำนวนมาก จนทำให้บางกลุ่มในพรรคไม่พอใจนั้น ได้มอบหมายให้รัฐมนตรี ไปดูแลแล้วว่า จะนำใครมาช่วยงานได้ แต่ต้องทำงานเป็นและทุ่มเท ที่สำคัญคือมาทำงานแล้วต้องให้เข้าขากันได้ ยืนยันไม่มีเรื่องของโควต้า เพราะให้สิทธิรัฐมนตรีไปดูแลเอง
ส่วนที่ ร.ท.กุเทพ ออกมาระบุว่า ขณะนี้พรรคพลังประชาชน ไม่มีเอกภาพแล้วนั้น คงไม่ใช่เป็นความคิดของ ร.ท.กุเทพ เอง เมื่อก่อน ร.ท.กุเทพ ก็ทำหน้าที่ได้ดี มีมติพรรคอะไรก็ออกมาชี้แจง แต่หลังจากแต่งตั้ง ครม.แล้ว ไม่ทราบว่าท่านคิดอย่างนั้นเพราะอะไร อาจจะต้องคุยกัน
เมื่อถามว่า ร.ท.กุเทพ เป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน หรือไม่ จึงออกมาแสดงความไม่พอใจแบบนี้ นายสุขุมพงษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คงต้องคุยกันถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อทุกอย่างลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครม. เข้าบริหารบ้านเมืองแล้ว การแต่งตั้งทุกตำแหน่งลงตัวหมดแล้ว ก็น่าจะทำความเข้าใจกันได้
**"สุขุมพงษ์"รับช่วงต่อจาก"ชูศักดิ์"
นายสุขุมพงษ์ ยังกล่าวถึงการแบ่งงานในตำแหน่งของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ว่านายกฯ จะเป็นผู้พิจารณา คงมอบงานเดิมของนายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ตน และขณะนี้ยังมีกฎหมายหลายฉบับที่ค้างอยู่ในสภา ของรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งก็ต้องไปดูว่าจะเร่งรัดต่อไปหรือไม่ และกฎหมายที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทำมีหลายฉบับที่ต้องเร่งรัด เพราะใกล้ถึงระยะเวลากำหนดแล้ว
"นายกฯ อาจจะแบ่งให้รัฐมนตรีไปรับผิดชอบ สื่อในแต่ละส่วนก็ได้ หรือมอบหมายให้คนเดียวดูแลสื่อ แล้วแต่นโยบายของนายกฯ" นายสุขุมพงษ์กล่าว
** "ชูศักดิ์" ส่งจม.ลาออกจาก ส.ส.แล้ว
นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้รับหนังสือลาออกจากส.ส.ของนายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.สัดส่วนลำดับ 2 ของกลุ่ม 2 พรรคพลังประชาชนเรียบร้อยแล้ว โดยจะไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยจะมีการเลื่อนลำดับรายชื่อสัดส่วนคนต่อไปของพรรคพลังประชาชน คือ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ขึ้นมาเป็นส.ส.สัดส่วนแทน หลังจากที่นายชูศักดิ์ ได้รับการวางตัวให้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด
