ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (17พ.ย.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นัดแรก ประกอบด้วย นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งในที่ประชุมได้มีการคัดเลือกผู้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการสรรหา โดยที่ประชุมได้ให้ นายชัช เป็นประธาน
จากนั้นสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ส่งมอบรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. ภาคกรอื่นจำนวน 23 ราย โดยเสนอมาจาก 25 องค์กร โดยคณะกรรมการสรรหาชุดนี้ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 16 ธ.ค.
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสรรหา ยังได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นส.ว. โดยมีนายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน จะมีการประชุมกันในวันที่ 24 พ.ย. หลังจากที่ได้ส่งรายชื่อไปตรวจสอบประวัติ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 20 หน่วยงาน ก่อนที่จะส่งให้กับคณะกรรมการสรรหาในวันที่ 27 พ.ย.
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมครั้งนี้ คุณหญิงจารุวรรณ ได้ขอถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการสรรหา ในฐานะที่เป็นตัวแทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เนื่องจากเกรงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 301 ในเรื่องของการเป็นคณะกรรมการสรรหา เพราะขณะนี้ก็มีสภา และได้ประธานศาลรัฐธรรมนูญที่ได้มาจากการสรรหาแล้ว หากว่า คุณหญิงจารุวรรณ เข้าไปรับเป็นเหมือนกรรมการสรรหาในครั้งนี้ อาจจะทำให้ขัดรัฐธรรมนูญ และเป็นปัญหาภายหลังได้ ทำให้คณะกรรมการสรรหาเหลือเพียง 6 คน เท่านั้น
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า จากนี้คณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติจะรอการตรวจสอบจาก 20 หน่วยงาน ที่ทางสำนักงาน กกต.ได้ส่งรายชื่อไปให้แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 สัปดาห์ ก็น่าจะแล้วเสร็จ นอกจากนี้ก็จะรอข้อมูลประชาชนทั่วไปที่สามารถส่งข้อมูลมาให้คณะอนุกรรมการฯ ได้ที่เว็บไซด์ กกต. www.ect.go.th ,โทรสายด่วน 1171 , ตู้ ปณ.71 ปณฝ. รองเมือง กทม.ก่อนวันที่ 24 พ.ย. ที่คณะอนุกรรมการฯนัดประชุมเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ และตั้งเป็นข้อสังเกตให้กับคณะกรรมการสรรหาพิจารณา ในวันที่ 27 พ.ย. หากว่าข้อมูลเพียงพอ ไม่มีข้อสงสัยอะไร ทางคณะกรรมการสรรหาก็สามารถที่จะสรรหาได้เลย แต่หากว่าคณะกรรมการเห็นว่าข้อมูลไม่ชัดเจน ยังต้องการเพิ่มเติมอีก คณะอนุกรรมการฯก็จะกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมให้อีก เพื่อจัดส่งให้กับให้กับคณะกรรมการสรรหาในวันที่ 9 ธ.ค. ตามที่ได้กำหนกรอบแผนงานที่ได้กำหนดไว้
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า สำหรับหน่วยงานที่กกต.ส่งไปตรวจสอบประวัติในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 20 หน่วยงาน อาทิ เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ป.ป.ช. ,ป.ป.ส. สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายข้อมูลการเลือกตั้ง กระทรวงศึกษา เป็นต้น
จากนั้นสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ส่งมอบรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. ภาคกรอื่นจำนวน 23 ราย โดยเสนอมาจาก 25 องค์กร โดยคณะกรรมการสรรหาชุดนี้ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 16 ธ.ค.
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสรรหา ยังได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นส.ว. โดยมีนายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน จะมีการประชุมกันในวันที่ 24 พ.ย. หลังจากที่ได้ส่งรายชื่อไปตรวจสอบประวัติ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 20 หน่วยงาน ก่อนที่จะส่งให้กับคณะกรรมการสรรหาในวันที่ 27 พ.ย.
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมครั้งนี้ คุณหญิงจารุวรรณ ได้ขอถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการสรรหา ในฐานะที่เป็นตัวแทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เนื่องจากเกรงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 301 ในเรื่องของการเป็นคณะกรรมการสรรหา เพราะขณะนี้ก็มีสภา และได้ประธานศาลรัฐธรรมนูญที่ได้มาจากการสรรหาแล้ว หากว่า คุณหญิงจารุวรรณ เข้าไปรับเป็นเหมือนกรรมการสรรหาในครั้งนี้ อาจจะทำให้ขัดรัฐธรรมนูญ และเป็นปัญหาภายหลังได้ ทำให้คณะกรรมการสรรหาเหลือเพียง 6 คน เท่านั้น
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า จากนี้คณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติจะรอการตรวจสอบจาก 20 หน่วยงาน ที่ทางสำนักงาน กกต.ได้ส่งรายชื่อไปให้แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 สัปดาห์ ก็น่าจะแล้วเสร็จ นอกจากนี้ก็จะรอข้อมูลประชาชนทั่วไปที่สามารถส่งข้อมูลมาให้คณะอนุกรรมการฯ ได้ที่เว็บไซด์ กกต. www.ect.go.th ,โทรสายด่วน 1171 , ตู้ ปณ.71 ปณฝ. รองเมือง กทม.ก่อนวันที่ 24 พ.ย. ที่คณะอนุกรรมการฯนัดประชุมเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ และตั้งเป็นข้อสังเกตให้กับคณะกรรมการสรรหาพิจารณา ในวันที่ 27 พ.ย. หากว่าข้อมูลเพียงพอ ไม่มีข้อสงสัยอะไร ทางคณะกรรมการสรรหาก็สามารถที่จะสรรหาได้เลย แต่หากว่าคณะกรรมการเห็นว่าข้อมูลไม่ชัดเจน ยังต้องการเพิ่มเติมอีก คณะอนุกรรมการฯก็จะกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมให้อีก เพื่อจัดส่งให้กับให้กับคณะกรรมการสรรหาในวันที่ 9 ธ.ค. ตามที่ได้กำหนกรอบแผนงานที่ได้กำหนดไว้
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า สำหรับหน่วยงานที่กกต.ส่งไปตรวจสอบประวัติในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 20 หน่วยงาน อาทิ เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ป.ป.ช. ,ป.ป.ส. สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายข้อมูลการเลือกตั้ง กระทรวงศึกษา เป็นต้น