หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหากับอดีตคณะรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รวม 28 คน จงใจกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 ที่ไม่ได้นำเรื่องขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เข้าพิจารณาในการประชุมรัฐสภานั้น วันนี้ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า เป็นการทำงานตามขั้นตอนของ ป.ป.ช. ซึ่งเมื่อเรื่องที่ถูกร้องเรียนเข้ามาและตรวจสอบแล้วมีมูล ก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหา ให้มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งจะเปิดโอกาสตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อดีตรัฐมนตรีทั้ง 28 คนสามารถมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยตนเอง หรือส่งเป็นเอกสารมาได้ ส่วนจะมีการยื้อเวลาให้ยาวนานออกไปหรือไม่นั้น ป.ป.ช. คงต้องพยายามให้อยู่ในกรอบเวลาของกฎหมาย แต่ยอมรับอาจต้องใช้เวลาบ้าง
ประธาน ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า คดีนี้นับเป็นคดีแรกที่มีการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190
สำหรับรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 ประเด็นซึ่งมีการตั้งข้อกล่าวหานั้น มีข้อความสำคัญว่า หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือ เขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญา หรือ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือ จะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือ สังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือ มีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรือ งบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา
ประธาน ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า คดีนี้นับเป็นคดีแรกที่มีการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190
สำหรับรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 ประเด็นซึ่งมีการตั้งข้อกล่าวหานั้น มีข้อความสำคัญว่า หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือ เขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญา หรือ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือ จะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือ สังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือ มีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรือ งบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา