ศาลฎีกานักการเมือง สั่งออกหมายจับ “ ทักษิณ ” ใบที่ 6 คดีที่ 4 ทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ – ดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต พร้อมมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวจนกว่าจะได้ตัวดำเนินคดี ส่วนพรุ่งนี้ ( 16 ต.ค.) สิบโมงเช้า ศาลนัดฟังคำสั่งอีกคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน
วันนี้(15 ต.ค.)เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ นัดพิจารณาครั้งแรกคดี หมายเลขดำที่ อม.9/2551 ที่นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตัวเอง หรือผู้อื่น , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,152,157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 ,100 ,122 กรณีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท
โดยวันนี้จำเลย และทนายจำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล มีเพียงอัยการโจทก์เท่านั้น ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยทราบหมายโดยชอบแล้วไม่มาศาล เชื่อว่ามีพฤติการณ์มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยมา แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้ตัวจำเลยมาพิจารณาคดีเมื่อใด จึง ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้ตัวจำเลยมา ศาลจึงจะยกคดีมาพิจารณาคดีอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น จนถึงขณะนี้ศาลฎีกา ฯ ได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับแล้วรวม 4 คดี ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาทเศษ จำนวน 3 ใบ ใบแรกเพื่อติดตามตัวมานัดพิจารณาคดีครั้งแรก แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับทราบข้อกล่าวหาและให้การต่อศาลแล้ว หมายจับจึงถูกเพิกถอนไป หมายจับใบที่ 2 เพื่อจับกุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้มารายงานหลังทำผิดเงื่อนไขการเดินทางออกนอกประเทศ และหมายจับใบที่ 3 เพื่อจับกุมตัวมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 21 ต.ค. นี้ ซึ่งในแต่ละคดีจะต้องยึดหมายจับใบสุดท้าย ทำให้หมายจับใบที่ 2 ถูกเพิกถอนไป
นอกจากนี้ศาลฎีกาฯ ยังได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมอีก 3 ใบ คือในคดีนี้ คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์) ให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท และคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ( หวยบนดิน )โดยในวันที่ 16 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ศาลฎีกา ฯ ยังได้นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ฟ้อง คดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ และได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 76,621,603,061.05 บาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดินด้วย