น.ส.วีรินทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง ภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ปี 2551 ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีการวางเป้าหมาย เพื่อลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึงมี 3 แผนงานหลัก คือแผนงานการให้บริการและอำนวยความสะดวก แผนงานด้านความมั่นคง และแผนงานด้านความปลอดภัย โดยแผนงานด้านความปลอดภัยมีทั้งแผนทางบก ทางน้ำและทางอากาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนงานการให้บริการและอำนวยความสะดวกนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาลอยกระทงประจำท่าเทียบเรือต่าง ๆ และเพิ่มเที่ยววิ่งรถเมล์ขสมก. พร้อมกับขยายเวลาการเดินรถ โดยให้บริการตลอดคืนวันที่ 12 พ.ย. ทั้งรถเมล์ธรรมดาและปรับอากาศ ทางบริษัทขนส่งจำกัดยังเพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสารประจำทาง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-สุโขทัย กรุงเทพฯ-ตาก ด้วย และจัดเตรียมรถโดยสารไม่ประจำทางไว้รองรับ หากรถโดยสารประจำทางไม่เพียงพอในสายการเดินรถกรุงเทพฯ-บางปะอิน-บางไทร , กรุงเทพฯ-บางปะอิน-พระนครศรีอยุธยา
นอกจากนี้การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกประจำสถานีรถไฟฟ้าที่มีประชาชนหนาแน่น และยังได้เปิดบริการสายด่วน 1356 เพื่อให้ประชาชนได้ติดต่อสอบถามกับศูนย์ปลอดภัยคมนาคมเพื่อแก้ปัญหาในการเดินทางอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนแผนงานด้านความมั่นคงนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ได้กำชับทุกหน่วยงานคอยเฝ้าระวังเหตุและวัตถุต้องสงสัย โดยในส่วนของพนักงานเก็บค่าโดยสารของ ขสมก. ให้คอยสังเกตบุคคลและสิ่งของ หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งหน่วยงานในทันที โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางน้ำ และพาณิชนาวี ได้จัดเจ้าหน้าที่สังเกตสิ่งผิดปกติ สิ่งแปลกปลอมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ นอกจากนี้กรมทางหลวงชนบทยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ประจำบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าระวังผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ถนนวงแหวน จ.เชียงใหม่
ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจบนสะพานและฐานตอม่อของสะพานพระราม 9 และสะพานกาญจนาภิเษก โดยให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังออกตรวจตราถี่ถ้วนรอบคอบ และเฝ้าระวังผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิดอีกด้วย
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้สั่งการให้ทุกโรงพักจัดกำลังดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน ตลอดจนดูแลการจราจรในจุดที่จัดงานลอยกระทง ป้องกันไม่ให้มีการเล่นดอกไม้ไฟหรือประทัด และปีนี้ยังเพิ่มจุดตรวจบนสะพานข้ามแม่น้ำทุกแห่ง เนื่องจากพบกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง ก่อกวนโยนประทัดลงไปในเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งอาจทำให้ผู้โดยสารตกใจและเกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงเพิ่มด่านตรวจให้ถี่ขึ้นกว่าปกติ และจัดชุดตรวจวัตถุระเบิดเคลื่อนที่เร็วเพื่อออกปฏิบัติการได้ทันที เมื่อได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัย
จากระดมกำลังกวาดล้าง ตรวจค้นแหล่งมั่วสุมของมิจฉาชีพ แหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด และแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เพื่อป้องกันเหตุร้ายช่วงเทศกาลลอยกระทง สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีต่าง ๆ ได้ 322 คน แบ่งเป็นคดีลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน 6 คน ยาเสพติด 150 คน แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 50 คน เล่นหรือจำหน่ายดอกไม้เพลิง 7 คน ส่วนที่เหลือเป็นคดีเมาสุราและเล่นการพนัน
ขณะที่ นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ ลอยกระทงสุขใจ ปลอดภัยทั้งครอบครัว ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และเครือข่ายเยาวชน พร้อมกล่าวว่า มีความเป็นห่วงต่อพฤติกรรมของกลุ่มเด็กวัยรุ่นในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง เนื่องจากข้อมูลจากการสำรวจ “พฤติกรรมทางเพศและกิจกรรมในคืนวันลอยกระทงของกลุ่มวัยรุ่น” ของศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม ปี 2548 จากกลุ่มตัวอย่าง 8,317 ราย พบว่ามีกลุ่มตัวอย่างที่ไปเที่ยวในคืนวันลอยกระทง 5,928 ราย ส่วนใหญ่ไปกับเพื่อน แฟน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว ถึง 4,019 ราย กลุ่มที่ไปกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว มีเพศสัมพันธ์ 563 ราย ในจำนวนนี้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 75 ราย นอกจากนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมการดื่มสุราส่งผลให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกด้วย
จึงขอฝากย้ำเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองและสังคมให้ช่วยกันเฝ้าระวังดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และ พม.ได้ร่วมกับ สตช. ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอีกแรง หากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ประชาชนพบเห็นเด็ก เยาวชน หรือสตรี ตกอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย หรือประพฤติตนไม่เหมาะสม แจ้งได้ที่ ศูนย์ประชาบดี โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้บริการได้ทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแผนงานการให้บริการและอำนวยความสะดวกนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาลอยกระทงประจำท่าเทียบเรือต่าง ๆ และเพิ่มเที่ยววิ่งรถเมล์ขสมก. พร้อมกับขยายเวลาการเดินรถ โดยให้บริการตลอดคืนวันที่ 12 พ.ย. ทั้งรถเมล์ธรรมดาและปรับอากาศ ทางบริษัทขนส่งจำกัดยังเพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสารประจำทาง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-สุโขทัย กรุงเทพฯ-ตาก ด้วย และจัดเตรียมรถโดยสารไม่ประจำทางไว้รองรับ หากรถโดยสารประจำทางไม่เพียงพอในสายการเดินรถกรุงเทพฯ-บางปะอิน-บางไทร , กรุงเทพฯ-บางปะอิน-พระนครศรีอยุธยา
นอกจากนี้การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกประจำสถานีรถไฟฟ้าที่มีประชาชนหนาแน่น และยังได้เปิดบริการสายด่วน 1356 เพื่อให้ประชาชนได้ติดต่อสอบถามกับศูนย์ปลอดภัยคมนาคมเพื่อแก้ปัญหาในการเดินทางอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนแผนงานด้านความมั่นคงนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ได้กำชับทุกหน่วยงานคอยเฝ้าระวังเหตุและวัตถุต้องสงสัย โดยในส่วนของพนักงานเก็บค่าโดยสารของ ขสมก. ให้คอยสังเกตบุคคลและสิ่งของ หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งหน่วยงานในทันที โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางน้ำ และพาณิชนาวี ได้จัดเจ้าหน้าที่สังเกตสิ่งผิดปกติ สิ่งแปลกปลอมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ นอกจากนี้กรมทางหลวงชนบทยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ประจำบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าระวังผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ถนนวงแหวน จ.เชียงใหม่
ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจบนสะพานและฐานตอม่อของสะพานพระราม 9 และสะพานกาญจนาภิเษก โดยให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังออกตรวจตราถี่ถ้วนรอบคอบ และเฝ้าระวังผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิดอีกด้วย
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้สั่งการให้ทุกโรงพักจัดกำลังดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน ตลอดจนดูแลการจราจรในจุดที่จัดงานลอยกระทง ป้องกันไม่ให้มีการเล่นดอกไม้ไฟหรือประทัด และปีนี้ยังเพิ่มจุดตรวจบนสะพานข้ามแม่น้ำทุกแห่ง เนื่องจากพบกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง ก่อกวนโยนประทัดลงไปในเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งอาจทำให้ผู้โดยสารตกใจและเกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงเพิ่มด่านตรวจให้ถี่ขึ้นกว่าปกติ และจัดชุดตรวจวัตถุระเบิดเคลื่อนที่เร็วเพื่อออกปฏิบัติการได้ทันที เมื่อได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัย
จากระดมกำลังกวาดล้าง ตรวจค้นแหล่งมั่วสุมของมิจฉาชีพ แหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด และแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เพื่อป้องกันเหตุร้ายช่วงเทศกาลลอยกระทง สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีต่าง ๆ ได้ 322 คน แบ่งเป็นคดีลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน 6 คน ยาเสพติด 150 คน แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 50 คน เล่นหรือจำหน่ายดอกไม้เพลิง 7 คน ส่วนที่เหลือเป็นคดีเมาสุราและเล่นการพนัน
ขณะที่ นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ ลอยกระทงสุขใจ ปลอดภัยทั้งครอบครัว ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และเครือข่ายเยาวชน พร้อมกล่าวว่า มีความเป็นห่วงต่อพฤติกรรมของกลุ่มเด็กวัยรุ่นในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง เนื่องจากข้อมูลจากการสำรวจ “พฤติกรรมทางเพศและกิจกรรมในคืนวันลอยกระทงของกลุ่มวัยรุ่น” ของศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม ปี 2548 จากกลุ่มตัวอย่าง 8,317 ราย พบว่ามีกลุ่มตัวอย่างที่ไปเที่ยวในคืนวันลอยกระทง 5,928 ราย ส่วนใหญ่ไปกับเพื่อน แฟน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว ถึง 4,019 ราย กลุ่มที่ไปกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว มีเพศสัมพันธ์ 563 ราย ในจำนวนนี้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 75 ราย นอกจากนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมการดื่มสุราส่งผลให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกด้วย
จึงขอฝากย้ำเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองและสังคมให้ช่วยกันเฝ้าระวังดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และ พม.ได้ร่วมกับ สตช. ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอีกแรง หากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ประชาชนพบเห็นเด็ก เยาวชน หรือสตรี ตกอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย หรือประพฤติตนไม่เหมาะสม แจ้งได้ที่ ศูนย์ประชาบดี โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้บริการได้ทั่วประเทศ