สธ.เผาทำลายผลิตภัณฑ์ปนเปื้อนเมลามีน 8 รายการ น้ำหนักรวมเกือบ 8 ตัน เป็นผลิตภัณฑ์ขนม 19,824 กล่อง-ผลิตภัณฑ์นม 13,085 กระป๋อง ด้านนมตรามะลิทุ่มงบฯ 5 ล้านบาท ซื้อเครื่องตรวจสารเมลามีน หวังสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
เวลา 09.00 น.วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีการเผาทำลายผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบการปนเปื้อนของสารเมลามีนเกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนด พร้อมตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตนมตรามะลิของบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ว่า ผลิตภัณฑ์ที่เผาทำลายครั้งนี้ มีทั้งสิ้น 8 รายการ ได้แก่ 1.นมข้นแปลงไขมันไม่หวาน สูตรน้ำมันปาล์ม เลขสารบบอาหาร 14-1-02323-1-0037 รุ่นหมดอายุ 16/01/09 จำนวน 1,216 กระป๋อง และ รุ่นหมดอายุอื่นๆ อีก 11,869 กระป๋อง จำนวนรวม 13,085 กระป๋อง น้ำหนัก 5,037 กิโลกรัม
2. ชีสแซนด์วิช ตราจูลี่ส์ เลขสารบบอาหาร 96-4-00136-2-0007 ขนาด 140 กรัม รุ่นหมดอายุ 24/07/2009 จำนวน 444 กล่อง และขนาด 650 กรัม รุ่นหมดอายุ 12/07/2009 จำนวน 480 กล่อง น้ำหนัก 374 กิโลกรัม
3. พีนัทแครกเกอร์ไส้ครีม ตราจูลี่ส์ เลขสารบบอาหาร 96-4-00136-2-0005 รุ่นหมดอายุ 30/08/2009 จำนวน 7,776 กล่อง น้ำหนัก 1,166.4 กิโลกรัม 4. ครีมแคร็กเกอร์ (ขนมปังตราโอโมโต) เลขสารบบอาหาร 96-4-00136-2-0088 รุ่นหมดอายุ 22/07/2009 จำนวน 2,280 ห่อ
5. สตรอเบอรี่สติ๊ก ตราฮาจูกุ เลขสารบบอาหาร 10-3-12535-1-1445 รุ่นหมดอายุ 20/06/2009 จำนวน 1,625 กล่อง น้ำหนัก 65 กิโลกรัม 6. ขนมปังกรอบรูปหมีโคอะล่า สอดไส้ครีมรสช็อกโกแลต ตราโคอะล่า เลขสารบบอาหาร 10-3-13241-1-0299 จำนวน 9 รุ่นได้แก่ รุ่นหมดอายุ 05-02-2009, 15-03-2009 ,10-07-2009, 18-05-2009, 31-05-2009, 05-06-2009, 20-06-2009, 12-08-2009, 14-08-2009 จำนวน 3,559 กล่อง น้ำหนัก 263.29 กิโลกรัม
7. ขนมปังกรอบรูปหมีโคอะล่าสอดไส้ครีมสตรอเบอรี่ ตราโคอะล่า เลขสารบบอาหาร 10-3-13241-1-0300 จำนวน 2,620 กล่อง น้ำหนัก 144.48 กิโลกรัม และ8. ขนมปังกรอบรูปหมีโคอะล่าสอดไส้ครีมรสนม ตราโคอะล่า เลขสารบบอาหาร 10-3-13241-1-0303 จำนวน 1,000 กล่อง น้ำหนัก 94.08 กิโลกรัม รวมผลิตภัณฑ์ที่มีการเผาทำลาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ขนม จำนวน 19,824 กล่อง น้ำหนัก 2,585.25 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์นม จำนวน 13,085 กระป๋อง น้ำหนัก 5,037 กิโลกรัม
“บริษัทผู้ผลิตและผู้นำเข้า ผลิตภัณฑ์ที่ อย.ตรวจพบสารเมลามีนเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดได้พร้อมกันนำผลิตภัณฑ์ ที่สามารถเรียกคืนได้จากท้องตลาดมาเผาทำลาย ผมจึงมาเป็นสักขีพยานในพิธีการเผาทำลายครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ประกอบการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนสารเมลามีนเกินเกณฑ์มาตรฐานหลงเหลืออยู่ในท้องตลาด และแม้ขณะนี้ถือว่าผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดมีความปลอดภัย แต่ สธ.จะดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนสารเมลามีนอย่างเข้มงวดต่อไป”นายวิชาญกล่าว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.มีนโยบายให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้านมและผลิตภัณฑ์อาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบต้องมีมาตรการในการควบคุมคุณภาพและมีกระบวนการคัดสรรวัตถุดิบที่จะเข้ามาในกระบวนการผลิตให้ปราศจากการปนเปื้อนสารเมลามีนและสารในกลุ่มเมลามีนทั้งหมด ซึ่งบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตรามะลิจะเป็นโรงงานแห่งแรกที่มีเครื่องตรวจสอบสารเมลามีนก่อนผลิต ตามคำแนะนำของ อย. และหวังอย่างยิ่งว่า ผู้ประกอบการจะมีมาตรการควบคุมการผลิตนำเข้าสินค้าอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และให้ความร่วมมือกับ อย.ในการร่วมกันคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคให้ได้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
“ผลการตรวจหาสารเมลามีนในผลิตภัณฑ์ของบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย มีเพียงผลิตภัณฑ์เดียวและล็อตการผลิตเดียวที่มีการปนเปื้อนของสารเมลามีน ซึ่งก็ได้มีการเก็บออกจากท้องตลาดและนำมาเผาทำลาบเรียบร้อยแล้ว ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนวางขายอยู่ในท้องตลาด ส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นและนมข้นแปลงไขมันไม่หวาน สูตรน้ำมันปาล์มล็อตอื่นๆ ตรวจไม่พบการปนเปื้อนของสารเมลามีน ส่วนวันถุดิบที่นำเข้าจากจีนจำนวน 120 ตัน ซึ่งอย.ได้อายัดไว้ก่อนหน้านี้ บริษัทผู้นำเข้าได้ส่งคืนวัตถุดิบดังกล่าวไปยังแหล่งผลิตแล้วตั้แต่วันที่ 19 ต.คที่ผ่านมา” นพ.พิพัฒน์กล่าว
ด้านนายสุวิทย์ ผลวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ผู้ผลิตนมตรามะลิ กล่าวว่า การตรวจพบสารเมลามีนในผลิตภัณฑ์นมและอาหารต่างๆ ส่งผลกระทบต่อการผลิตภัณฑ์ทุกประเภทของบริษัทและชะลอการเติบโตเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน บริษัทจึงได้ลงทุนซื้อเครื่องตรวจสอบสารเมลามีน มูลค่า 5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเอกชนรายแรกที่สั่งเครื่องนี้เข้ามา ทั้งนี้เครื่องตรวจสอบสารเมลามีนจะมีประสิทธิภาพเท่ากันกับการตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แม้จะใช้เทคโนโลยีต่างกัน แต่เทคโนโลยีแก๊สโครโทกราฟี่-แมสสเปกโตรมินทรี สามารถเจาะจงชนิดขององค์ประกอบที่มีอยู่ในนมได้อย่างแม่นยำ ละเอียด และสามารถใช้ในการวิเคราะห์ได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยจะทำการตรวจวิเคราะห์วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์นมทุกชนิดที่เข้ามาสู่โณงงาน เพิ่มมาตรการควบคตุมคุณภาพให้เข้มงวดยิ่งขึ้นจากเดิมที่มีการตรวจปริมาณค่าโปรตีนในนมเท่านั้น
“การปนเปื้อนเมลามีนส่งผลให้ยอดขายของนมข้นจืดไขมันไม่หวาน สูตรน้ำมันปาล์มในช่วงแรกทำให้ยอดขายนิ่ง แต่ลดลงไม่มาก อย่างไรก็ตาม ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เพราะประชาชนเกิดความสับสนไม่ชัดเจน เมื่อมีการชี้แจงและทำลายผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนเมลามีนไปแล้ว และได้ส่งวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ให้ อย.ตรวจสอบ ทำให้ประชาชนมั่นใจมากขึ้น ซึ่งล่าสุดพม่าได้ซื้อผลิตภัณฑ์นมของบริษัทจำนวน 3 หมื่นลัง”นายสุวิทย์กล่าว
