ผู้จัดการรายวัน - คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง มีมติปรับลดอัตราค่าโดยสารรถเมล์ร้อน 1.50 บาท รถปรับอากาศ 1บาท และรถบขส.-รถร่วมบขส.ระยะทางกิโลเมตรละ 3 สตางค์ มีผลบังคับใช้ 28 ต.ค.นี้
นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขอ.)ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางว่า ที่ประชุมฯมีมติปรับลดอัตราค่าโดยสารทั้งรถหมวด 1ถึงหมวด 4 โดยมีผลบังคับในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งการลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวนี้พิจารณาจากราคาน้ำมันที่ราคา 23.94 บาทต่อลิตร
โดยรถขสมก.และรถร่วมขสมก.รถร้อน ปรับลดค่าโดยสารลง 1.50 บาท โดยรถขาว-น้ำเงินจาก 10 บาทเหลือ 8.50 บาท รถครีมแดงจาก 9 บาท เหลือ 7.50 บาท รถมินิบัสลดลง 1บาท จากเดิม 8 บาทเหลือ 7 บาท
ส่วนรถประจำทางปรับอากาศลดอัตราค่าโดยสารระยะละ 1 บาท หรือรถปรับอากาศครีม-น้ำเงินจากเบื้องต้นที่ 13-23 บาทเหลือ 12-22 บาท และรถปรับอากาศยูโร จากเริ่มต้นที่ 14-24 บาท เหลือ 13-23 บาท ส่วนรถสองแถวลดลง 1.50 บาท จากเดิม 7.50 บาทเหลือ 6 บาท ส่วนรถบขส.และรถร่วมบขส.ปรับลด 3 สตางค์/กิโลเมตร
ส่วนข้อเสนอของรถร่วมขสมก.และรถร่วมบขส.ขอใช้ตารางแบบแปรผันนั้น ที่ประชุมฯจะนำไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง
สำหรับค่าเรือโดยสารนั้นจะหารือกับผู้ประกอบการอีกครั้ง ซึ่งจากการที่ได้รับรายงานเบื้องต้นจากผู้ประกอบการเห็นว่าผู้ประกอบการยินดีที่จะลดค่าโดยสารให้อย่างไม่มีปัญหา
ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) กำหนดจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ในอัตราใหม่ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยอัตราค่าผ่านทางพิเศษที่ปรับขึ้นใหม่นี้มีส่วนลดพิเศษสำหรับรถทุกประเภทแล้วจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552
สำหรับการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษมีรายละเอียด คือ ด่านเมืองทองจัดเก็บในราคา 25, 50, 75 บาท ด่านศรีสมาน 30, 60, 90 บาท ด่านบางพูน 35, 70, 105 บาท ด่านเชียงราก 40, 80, 120 บาท และด่านบางปะอิน 45, 90, 135 บาท สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ 6-10 ล้อ มากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ
นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขอ.)ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางว่า ที่ประชุมฯมีมติปรับลดอัตราค่าโดยสารทั้งรถหมวด 1ถึงหมวด 4 โดยมีผลบังคับในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งการลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวนี้พิจารณาจากราคาน้ำมันที่ราคา 23.94 บาทต่อลิตร
โดยรถขสมก.และรถร่วมขสมก.รถร้อน ปรับลดค่าโดยสารลง 1.50 บาท โดยรถขาว-น้ำเงินจาก 10 บาทเหลือ 8.50 บาท รถครีมแดงจาก 9 บาท เหลือ 7.50 บาท รถมินิบัสลดลง 1บาท จากเดิม 8 บาทเหลือ 7 บาท
ส่วนรถประจำทางปรับอากาศลดอัตราค่าโดยสารระยะละ 1 บาท หรือรถปรับอากาศครีม-น้ำเงินจากเบื้องต้นที่ 13-23 บาทเหลือ 12-22 บาท และรถปรับอากาศยูโร จากเริ่มต้นที่ 14-24 บาท เหลือ 13-23 บาท ส่วนรถสองแถวลดลง 1.50 บาท จากเดิม 7.50 บาทเหลือ 6 บาท ส่วนรถบขส.และรถร่วมบขส.ปรับลด 3 สตางค์/กิโลเมตร
ส่วนข้อเสนอของรถร่วมขสมก.และรถร่วมบขส.ขอใช้ตารางแบบแปรผันนั้น ที่ประชุมฯจะนำไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง
สำหรับค่าเรือโดยสารนั้นจะหารือกับผู้ประกอบการอีกครั้ง ซึ่งจากการที่ได้รับรายงานเบื้องต้นจากผู้ประกอบการเห็นว่าผู้ประกอบการยินดีที่จะลดค่าโดยสารให้อย่างไม่มีปัญหา
ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) กำหนดจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ในอัตราใหม่ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยอัตราค่าผ่านทางพิเศษที่ปรับขึ้นใหม่นี้มีส่วนลดพิเศษสำหรับรถทุกประเภทแล้วจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552
สำหรับการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษมีรายละเอียด คือ ด่านเมืองทองจัดเก็บในราคา 25, 50, 75 บาท ด่านศรีสมาน 30, 60, 90 บาท ด่านบางพูน 35, 70, 105 บาท ด่านเชียงราก 40, 80, 120 บาท และด่านบางปะอิน 45, 90, 135 บาท สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ 6-10 ล้อ มากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ
