รอยเตอร์/เอเอฟพี/ผู้จัดการรายวัน - แม้วคลั่งหลังอังกฤษห้ามเข้าประเทศ ประกาศตอบโต้ศัตรูทางการเมือง อ้างถูกต้อนเข้ามุม เตรียมโฟนอินถึงคนอีสานอีกรอบ ครั้งนี้จะเปิดโปงชื่อ โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ย้ำไม่ต้อนรับให้ไปลี้ภัย ล่าสุดเอเอฟพีปูดคนใกล้ชิดแม้วบอกสุดท้ายอาจจบที่ดูไบ ทูตอังกฤษยันเคารพประชาธิปไตยไทย สมชายเล่นบทเฉไฉเลี่ยงตอบยกเลิกพาสปอร์ตแดง ส่วนลูกพรรคโวยอังกฤษถอนวีซ่าลูกพี่ขาดความสง่างาม ฟุ้งยังมีประเทศอื่นต้อนรับเพียบ "วิชา มหาคุณ" ชี้ถอนวีซ่าไม่เกี่ยวขอตัวกลับง่ายหรือยาก อัยการโยนตำรวจแจ้งที่อยู่ นช.ทักษิณมาก่อนดำเนินการขอตัวกลับไทย
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ว่า กำลังจะเดินทางออกจากปักกิ่งไปยังสถานที่ซึ่งไม่เปิดเผย แต่ไม่ใช่ฟิลิปปินส์ พร้อมกับประกาศว่าตอบโต้กลับพวกศัตรูทางการเมือง โดยเขาจะระบุชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
"ผมจะไปของผมไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมกำลังจะออกจากปักกิ่งแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากกรุงปักกิ่ง แก่นายนพพร วงศ์อนันต์ แห่งสำนักข่าวรอยเตอร์ในกรุงเทพฯ
เขายังปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยที่บอกว่า เขากำลังสร้างคฤหาสน์มูลค่า 60 ล้านหยวน (ราว 300 ล้านบาท) ณ รีสอร์ตสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใกล้ๆ กรุงปักกิ่ง
พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก่อนหน้านี้พำนักอยู่ในกรุงลอนดอน ภายหลังเขาและคุณหญิงพจมาน ผู้เป็นภริยา ได้หลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไทยมาตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ยังได้ปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเขากำลังเดินทางไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าเขาจะเดินทางไปที่ไหนต่อไป
พวกเจ้าหน้าที่อังกฤษยังคงไม่แสดงความเห็นอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับเรื่องการตัดสินใจยกเลิกวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณและภรรยา แต่หนังสือพิมพ์หลายฉบับในลอนดอนรายงานข่าวโดยอ้างพวกเจ้าหน้าที่อังกฤษที่ไม่ระบุชื่อ บอกว่าการที่ศาลไทยมีคำพิพากษาออกมาแล้วในคนละคดีกัน แต่รวมความแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ต่างก็ถูกตัดสินจำคุก คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่อยู่เบื้องหลังการเพิกถอนวีซ่าดังกล่าว
สำหรับเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นายควินตัน เควล ไม่ยอมให้ความเห็นใดๆ ต่อกรณีนี้ แต่เขาก็แถลงข่าวในกรุงเทพฯว่า รัฐบาลอังกฤษนั้นวางตัวเป็นกลางในเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองที่ประเทศไทยประสบอยู่เป็นเวลา 3 ปีแล้ว
รัฐบาลอังกฤษนั้น "กำลังสนับสนุนสถาบันทางประชาธิปไตยในประเทศไทย โดยไม่เลือกข้าง" สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำแถลงของนายเควล
ระหว่างการให้สัมภาษณ์รอยเตอร์วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันเป็นครั้งแรกว่าเขาได้ทำเรื่องยื่นขอลี้ภัยในอังกฤษ แต่ได้ถอนคำร้องดังกล่าวนี้แล้ว เพราะมันจะกลายเป็นการจำกัดทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อย่างเต็มที่
"ผมยกเลิกการขอลี้ภัย เพราะผมไม่คิดว่ามีความจำเป็นอะไร ผมไม่ชอบคำว่าลี้ภัย ผมต้องการเสรีภาพ เพราะผมเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผมไม่ชอบให้มีอะไรมาจำกัดเสรีภาพ" พ.ต.ท.ทักษิณบอก
เขายังประกาศด้วยว่า เขาจะต่อสายพูดปราศรัยกับพวกผู้สนับสนุนในการชุมนุมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นทางภาคอีสานของไทย
"ผมจะโฟนอินและพูดกับประชาชนซึ่งรักและมีศรัทธาตัวผม ผมจะพูดปราศรัยให้ยาวขึ้นและจะเริ่มระบุชื่อคนที่เกี่ยวข้องออกมาด้วย เพราะพวกเขาต้อนผมเข้ามุมอย่างนี้แล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณบอก
ด้านนักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้นในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อไม่ให้ประเทศเจ้าบ้านรายใหม่ของเขาเกิดความอึดอัดไม่พอใจขึ้นมา
"เขาเป็นไฟร้อนแรงทางการเมือง และเขาจะต้องระมัดระวังอย่าทำให้เจ้าบ้านของเขารู้สึกร้อนรุ่มจนเกินไป" นักวิจารณ์การเมือง นายสุขุม นวลสกุล ให้ความเห็น
ปินส์ย้ำไม่ต้อนรับแม้วไปลี้ภัย
ด้าน นายเจซัส ดูเรซา โฆษกประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อวานนี้ (10) ในกรุงมะนิลาว่า ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณจะยื่นเรื่องขอลี้ภัยในฟิลิปปินส์ ก็จะถูกปฏิเสธ ถึงแม้เขาบอกด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศแดนตากาล็อก ยังไม่เคยได้รับคำร้องอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้จาก พ.ต.ท.ทักษิณ
"เขาจะได้รับแจ้งอย่างสุภาพว่า เขาจะไม่ได้รับอนุญาต (ให้ลี้ภัย) จากประเทศนี้" ดูเรซากล่าวกับโทรทัศน์ เอเอ็นซี
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ผู้หนึ่งก็บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ "ไม่น่า" ที่จะมาขอลี้ภัยในมะนิลา ถึงแม้มีรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ของไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ ก็ตามที
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวด้วยว่า กระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ไม่น่าจะอนุมัติคำขอลี้ภัยรายนี้ถ้าหากยื่นเสนอเข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้ให้เหตุผลรายละเอียด
ข่าวคาดเดาเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะไปขอลี้ภัยที่ฟิลิปปินส์ ยิ่งดูเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น สืบเนื่องจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีของไทยคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กำลังไปเยือนฟิลิปปินส์ และมีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีอาร์โรโยเมื่อวานนี้ด้วย
เอเอฟพีชี้ "ทักษิณ" อาจไปอยู่ดูไบ
สำนักข่าวเอเอฟพีบอกว่า มีรายงานว่า บาฮามาส, เบอร์มิวดา, ตลอดจนหลายๆ ประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย ได้เสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานไปพำนักลี้ภัย
อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีอ้างผู้ช่วยหลายๆ คนของ พ.ต.ท.ทักษิณที่กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะมุ่งหน้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
"ถ้าท่านไม่สามารถไปที่ไหนได้ ท่านก็วางแผนไว้ที่จะไปอยู่ยาวในดูไบ (รัฐหนึ่งของยูเออี)" ผู้ช่วยคนหนึ่งของ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวโดยขอให้สงวนนาม
ทูตอังกฤษยันเคารพ ปชต.ไทย
เมื่อเวลา 17.10 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายควินทัน เควลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังหารือนาน 50 นาที นายเควลย์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือกันหลายเรื่อง ตั้งแต่การเดินทางเยือนกัมพูชาของรัฐมนตรีต่างประเทศ การประชุมอาเซียนและอาเซม รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ไทยอังกฤษ โดยตอนหลังรัฐมนตรีต่างประเทศได้ถามถึงเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนได้ตอบไปว่า ตลอดวิกฤตการณ์ทางการเมืองในไทย ประเทศอังกฤษได้ยึดมั่นในการเคารพประชาธิปไตยของไทยเป็นหลัก โดยไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หลักการเดียวกันนี้ ก็ใช้ในการพิจารณาการเข้าออกประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามกฎหมายอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องการเข้าออกประเทศอังกฤษของบุคคลใดก็ตาม
เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามอื่นๆ รวมถึงกรณีผู้ที่ถูกเพิกถอนวีซ่าจะสามารถยื่นขอวีซ่าอังกฤษได้ใหม่หรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่า ตอบไม่ได้
"สมชาย" เลี่ยงตอบพาสปอร์แดง
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการที่รัฐบาลไม่ยอมยกเลิกพาสปอร์ตแดง หรือ พาสปอร์ตทางการทูต ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของอดีตนายรัฐมนตรี โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้มาทำเรื่องทำมาหากินก่อน เรื่องอื่นปล่อยไปก่อน เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือพี่น้องประชาชนกำลังลำบากเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล
ด้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า พร้อมจะพิจารณาอย่างเป็นธรรมและจะขอรับผิดชอบ เรื่องนี้ด้วยตัวเอง และส่วนตัวเห็นว่าการถือหนังสือเดินทางทูต ไม่ได้มีความพิเศษกว่า หนังสือเดินทางของบุคคลธรรมดาแต่อย่างใด
นายสมพงษ์ ยังแสดงความกังวลต่อกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ออกมาให้ข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือสอบถามเหตุผลการถอนวีซ่า ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ต่อสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยว่า เรื่องนี้ตนรู้สึกไม่สบายใจกับข่าวที่ออกมา ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายสมพงษ์ ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ขอให้ทางการอังกฤษ ชี้แจงกรณีการเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ภริยา เนื่องจาก เป็นเอกสิทธิที่ทางการอังกฤษสามารถดำเนินการได้
"เรื่องการถอนวีซ่า เป็นเรื่องของประเทศอังกฤษ เป็นสิทธิเด็ดขาดที่จะดำเนินการได้ สามารถถอดถอนได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ใครทราบ และไม่ต้องตรวจสอบว่า เป็นเพราะอะไร และไม่ต้องสอบถามไปยังสถานทูตอังกฤษใดๆ ทั้งสิ้น"
กต.พร้อมร่วมมืออัยการขอตัว "แม้ว"
นายสมพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศพร้อมให้ความร่วมมือกับสำนักงานอัยการสูงสุดหากมีการประสานให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย และแม้จะยังไม่รู้ที่พำนักเป็นหลักแหล่งชัดเจนก็เชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการติดตามตัวกลับมา ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศ จะให้ความร่วมมือทุกขั้นตอน ไม่ว่าอัยการสูงสุดจะสอบถามอะไร ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหนในโลก ก็หาเจอ แต่ในขณะนี้ทางอัยการสูงสุด ยังไม่มีถามมา หากสอบถาม เรื่องใดมา เราก็พร้อมให้ข้อมูล พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ตรงไหนก็หาได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในประเทศจีน และเตรียมขอ ลี้ภัยในประเทศฟิลิปปินส์นั้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ทั้ง 2 ประเทศมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงสามารถ เดินทางเข้าออกประเทศฟิลิปปินส์ได้ เนื่องจากไม่ต้องขอวีซ่า แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางการฟิลิปปินส์ว่าจะอนุญาตหรือไม่
"สาก"เฉ่งอังกฤษขาดความสง่างาม
ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้ติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน แต่การกระทำของทางการอังกฤษนั้นขาดความสง่างาม เพราะการถอนวีซ่าทำให้อังกฤษเสียหาย โดยเฉพาะในเวทีการเมืองโลก
"ที่ผ่านมาอังกฤษบอกว่าเป็นประเทศต้นแบบระบอบประชาธิปไตย ต่อต้านการรัฐประหาร แต่เรื่องการถอนวีซ่านั้น ทั้งที่รู้อยู่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจโดย คมช. และพำนักอยู่ในอังกฤษมานาน และยังมีธุรกิจอยู่ในอังกฤษจำนวนมาก จึงไม่ทราบว่าเรื่องนี้อังกฤษกลัวอะไร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า การถอนวีซ่าครั้งนี้เป็นเพราะการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า การโฟนอินไม่มีอะไรเสียหาย และคงไม่ใช่สาเหตุ การถอนวีซ่า และกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปีนั้น คงไม่ใช่เหตุผลของการถอนวีซ่าเช่นกัน เนื่องจากคำตัดสินนั้น ชนะด้วยเสียง 5 ต่อ 4 และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นผู้ซื้อที่ดินรัชดา เห็นได้ว่า กระบวนการที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ผิด มีการวางขั้นตอนมาตั้งแต่สมัย คมช. เข้ายึดอำนาจแล้ว
"เชื่อว่าหมู่เกาะบาฮามาสจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์อย่างแน่นอน จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถใช้หนังสือเดินทางในฐานะพลเมืองกิตติมศักดิ์ดังกล่าวเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลก ถึงแม้ทางการไทย ถอดถอนหนังสือเดินทางเล่มแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปก็ตาม อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยอยู่ที่เมืองจีนเลยหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ"
เชื่อ "บาฮาบาส" ให้ "ทักษิณ" ซุกหัวแน่
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเมื่อถอนวีซ่าแล้ว สามารถขอใหม่ได้ อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีธุรกิจ และบ้านอยู่ในอังกฤษ ไม่ใช่พลเมืองที่หลักลอย
ส่วนกรณีที่หมู่เกาะบาฮามาสจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์นั้น นายประชา กล่าวว่า ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปอยู่ที่ไหน มีคนยินดีจะให้อยู่อยู่แล้ว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนมีความรู้ มีความสามารถ ทำประโยชน์ให้กับประเทศนั้น ๆ ทั้งนี้ไม่ต้องการให้หลายฝ่ายไปวุ่นวายสอบถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล หากไปวุ่นวายมาก พ.ต.ท.ทักษิณ อาจกลับเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็ได้
ส่วนที่ที่ นายเตช บุนนาค อดีต รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยอยู่ที่ประเทศจีนนั้น นายประชา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ส่วนตัวเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเพื่อนและคนรู้จักอยู่ในประเทศจีน เป็นจำนวนมาก
ปชป.แนะนายกฯ เอาตัว "แม้ว" กลับไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเพิกเฉยต่อการถอนพาสปอร์ตแดง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของคนๆ เดียวว่า ตนไม่อยากไปพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่านี้ เพราะคนในประเทศก็พูดจากันมากแล้ว อยู่ที่รัฐบาลและนายกฯที่จะต้องฟังเสียงประชาชนบ้างว่าเขารู้สึกและคิดอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า อังกฤษแสดงความชัดเจนในการถอนวีซ่าไปแล้ว แต่ทางประเทศไทยกลับไม่มีการดำเนินการอะไร ทั้งที่ศาลได้มีการตัดสินคดีไปแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าผู้ต้องหาที่ถูกพิจารณาคดีในศาลและหลบหนี ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ บ้านเมืองที่จะต้องติดตามนำตัวกลับมาลงโทษตามความผิด แต่ที่ปรากฎคือ ผู้ที่ถูกพิพากษาคืออดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นญาติพี่น้องกับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งหากหน่วยงานที่รับผิดชอบในการตามตัวไม่ทำงาน นายกฯก็จะต้องถูกสังคมวิจารณ์ เขาก็คงต้องโทษนายกฯ และไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ส่วนที่นายกฯ มักจะอ้างว่า อย่าเอาเรื่องคนๆเดียวมาเป็นปัญหาการเมือง จนทำให้ประเทศไม่พัฒนานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เพราะการดำเนินการทางการเมือง ของนายกฯและคนรอบๆ ข้าง ที่ทำให้เป็นปัญหาบ้านเมืองที่จะปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นควรที่จะต้องไปแก้ตรงจุดนี้
ฉะอ้างเรื่องปากท้องแต่ก็ยังไม่ทำ
"นายกฯ ต้องทำให้จริงจัง ส่วนที่จะได้ผลหรือไม่ ประชาชนก็เตรียมพร้อมที่จะทำความเข้าใจอยู่แล้ว เช่น สมมติว่า พ.ต.ท.ทักษิณหนีไปอยู่ประเทศไหน รัฐบาล ทำงานเต็มที่ที่จะไปขอตัวเขามารับโทษ แต่ประเทศนั้นไม่ส่งตัวให้ จะอธิบายกับประชาชนอย่างไรก็เข้าใจได้ แต่ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เกี่ยวไม่ทำ ประชาชนเขาก็ไม่สบายใจ"
ส่วนที่นายกฯระบุว่าการถอนพาสปอร์ตแดงเป็นเรื่องเล็ก ปัญหาปากท้อง ของประชาชนสำคัญกว่านั้นนายสุเทพ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยเรียกร้องว่าเงินงบประมาณกลางปี 1 แสนล้านบาท ที่จะเสนอต่อรัฐสภา แต่ไม่เห็นมีการเสนอเสียที อย่ารอไปจนถึงสมัยการประชุมหน้า และบอกว่าเงินจะถึงมือประชาชนในเดือนเมษายนก็จะสายเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องของ ปากท้องประชาชนก็ไม่ทำ แต่จะไปทำในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำลายความรู้สึกของประชาชนมาก นายกฯต้องพูดให้ตรงกันว่าจะเอาเรื่องปากท้องของประชาชน ก็ทำให้ดูสักที
ถอนวีซ่าไม่เกี่ยวขอ "แม้ว" กลับ
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่าการถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณและภริยาของทางการอังกฤษ เป็นสิทธิ์ขาดของอังกฤษ อาจเป็นเพราะเกรงว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนที่มีคนบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอถอนวีซ่าเองเพื่อให้ตามตัวยากนั้น คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะคงไม่สามารถไปก้าวล่วงรัฐบาลอังกฤษได้ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกับการขอตัว พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี และคนละส่วนกับเรื่องยากหรือง่ายในการนำตัว พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมา เพราะการนำตัวพ.ต.ท. ทักษิณ กลับมานั้น ต้องดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่ไหนเป็นประจำ อัยการสูงสุดของไทยจะเป็นคนดำเนินการในการหาตัว จากนั้นจึงส่งเรื่องไปประเทศนั้น และขึ้นกับประเทศนั้นจะพิจารณา
ส่วนที่หลายประเทศอ้าแขนรับ พ.ต.ทักษิณ นายวิชา กล่าวว่า ต้องดูว่าประเทศนั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องการ เจรจาระหว่างประเทศที่สามารถทำได้
สำหรับการขอคืนเครื่องราชฯกับเรื่องการถอนพาสปอร์ตแดงนั้น นายวิชา กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุดเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังสามารถอุทธรณ์ คดีได้อีก 30 วัน ซึ่งไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะดำเนินการตามขั้นตอนหรือไม่
อัยการโยน สตช.แจ้งที่อยู่ "แม้ว"
นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการ ติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องคำพิพากษาคดีทุจริต ซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวว่า ภายหลังที่มีข่าวประเทศอังกฤษ ยกเลิกวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคณะทำงานอัยการได้หารือเตรียมความพร้อมการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต้องรอความชัดเจนทั้งการยื่นอุทธรณ์คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และแหล่งที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งหากปรากฏข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ย้ายไปพำนักประเทศอื่นที่ไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน อัยการต้องเตรียมการพิจารณาข้อกฎหมายเพิ่มเติมของประเทศนั้นเพื่อยื่นคำร้องโดยใช้หลักการต่างตอบแทน
ทั้งนี้ ความชัดเจนเรื่องแหล่งที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องรอว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร้องขอให้อัยการดำเนินการขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน จะแจ้งความชัดเจนได้เมื่อใด ส่วนอัยการกำลังหารือว่าจะประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่อยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศเพิ่มเติมด้วยหรือไม่
"ผมยืนยันได้ว่า อัยการจะตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และพยายามอย่างเต็มที่ ในการเป็นผู้ประสานงานกลาง ยื่นคำร้องขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน"
ไทย-บาฮามาสไม่มีสนธิสัญญา
ด้าน นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า ตามขั้นตอนการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจะดำเนินการได้ต่อเมื่อมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าบุคคลนั้นมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในประเทศใด แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน บางกระแสข่าวว่าไปที่ประเทศฟิลิปปินส์ บางกระแสก็บอกว่าอยู่ในประเทศจีน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ สตช.ในฐานะผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตามหมายจับของศาลที่จะสืบหาข้อมูลที่ชัดเจนว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ที่ใดโดย สตช.จะต้องประสานขอความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศที่จะดำเนินการเรื่องดังกล่าว หลังจากที่มีข้อมูลชัดเจนแล้ว อัยการในฐานะผู้ทำหน้าที่ยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะได้ดำเนินการต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานเข้ามาจากทาง สตช.แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพำนักอยู่ที่หมู่เกาะบาฮามาส ตามที่มีรายงานข่าวออกมาก่อนหน้านี้ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบประเทศไทยกับบาฮามาสไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่อัยการยังสามารถดำเนินการยื่นคำร้องได้โดยอาศัยการให้คำมั่นหลักต่างตอบแทน แลกเปลี่ยนกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย โดยการยื่นข้อเสนอว่าถ้ายินยอมส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไทยก็ยินดีพิจารณาอำนวยความสะดวกในเรื่องลักษณะเดียวกันหากมีการร้องขอเข้ามา ซึ่งก็ยอมรับว่าขั้นตอนการดำเนินการคงยุ่งยากกว่าประเทศที่มีสนธิสัญญาระหว่างกันในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ว่า กำลังจะเดินทางออกจากปักกิ่งไปยังสถานที่ซึ่งไม่เปิดเผย แต่ไม่ใช่ฟิลิปปินส์ พร้อมกับประกาศว่าตอบโต้กลับพวกศัตรูทางการเมือง โดยเขาจะระบุชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
"ผมจะไปของผมไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมกำลังจะออกจากปักกิ่งแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากกรุงปักกิ่ง แก่นายนพพร วงศ์อนันต์ แห่งสำนักข่าวรอยเตอร์ในกรุงเทพฯ
เขายังปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยที่บอกว่า เขากำลังสร้างคฤหาสน์มูลค่า 60 ล้านหยวน (ราว 300 ล้านบาท) ณ รีสอร์ตสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใกล้ๆ กรุงปักกิ่ง
พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก่อนหน้านี้พำนักอยู่ในกรุงลอนดอน ภายหลังเขาและคุณหญิงพจมาน ผู้เป็นภริยา ได้หลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไทยมาตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ยังได้ปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเขากำลังเดินทางไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าเขาจะเดินทางไปที่ไหนต่อไป
พวกเจ้าหน้าที่อังกฤษยังคงไม่แสดงความเห็นอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับเรื่องการตัดสินใจยกเลิกวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณและภรรยา แต่หนังสือพิมพ์หลายฉบับในลอนดอนรายงานข่าวโดยอ้างพวกเจ้าหน้าที่อังกฤษที่ไม่ระบุชื่อ บอกว่าการที่ศาลไทยมีคำพิพากษาออกมาแล้วในคนละคดีกัน แต่รวมความแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ต่างก็ถูกตัดสินจำคุก คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่อยู่เบื้องหลังการเพิกถอนวีซ่าดังกล่าว
สำหรับเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นายควินตัน เควล ไม่ยอมให้ความเห็นใดๆ ต่อกรณีนี้ แต่เขาก็แถลงข่าวในกรุงเทพฯว่า รัฐบาลอังกฤษนั้นวางตัวเป็นกลางในเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองที่ประเทศไทยประสบอยู่เป็นเวลา 3 ปีแล้ว
รัฐบาลอังกฤษนั้น "กำลังสนับสนุนสถาบันทางประชาธิปไตยในประเทศไทย โดยไม่เลือกข้าง" สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำแถลงของนายเควล
ระหว่างการให้สัมภาษณ์รอยเตอร์วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันเป็นครั้งแรกว่าเขาได้ทำเรื่องยื่นขอลี้ภัยในอังกฤษ แต่ได้ถอนคำร้องดังกล่าวนี้แล้ว เพราะมันจะกลายเป็นการจำกัดทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อย่างเต็มที่
"ผมยกเลิกการขอลี้ภัย เพราะผมไม่คิดว่ามีความจำเป็นอะไร ผมไม่ชอบคำว่าลี้ภัย ผมต้องการเสรีภาพ เพราะผมเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผมไม่ชอบให้มีอะไรมาจำกัดเสรีภาพ" พ.ต.ท.ทักษิณบอก
เขายังประกาศด้วยว่า เขาจะต่อสายพูดปราศรัยกับพวกผู้สนับสนุนในการชุมนุมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นทางภาคอีสานของไทย
"ผมจะโฟนอินและพูดกับประชาชนซึ่งรักและมีศรัทธาตัวผม ผมจะพูดปราศรัยให้ยาวขึ้นและจะเริ่มระบุชื่อคนที่เกี่ยวข้องออกมาด้วย เพราะพวกเขาต้อนผมเข้ามุมอย่างนี้แล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณบอก
ด้านนักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้นในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อไม่ให้ประเทศเจ้าบ้านรายใหม่ของเขาเกิดความอึดอัดไม่พอใจขึ้นมา
"เขาเป็นไฟร้อนแรงทางการเมือง และเขาจะต้องระมัดระวังอย่าทำให้เจ้าบ้านของเขารู้สึกร้อนรุ่มจนเกินไป" นักวิจารณ์การเมือง นายสุขุม นวลสกุล ให้ความเห็น
ปินส์ย้ำไม่ต้อนรับแม้วไปลี้ภัย
ด้าน นายเจซัส ดูเรซา โฆษกประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อวานนี้ (10) ในกรุงมะนิลาว่า ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณจะยื่นเรื่องขอลี้ภัยในฟิลิปปินส์ ก็จะถูกปฏิเสธ ถึงแม้เขาบอกด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศแดนตากาล็อก ยังไม่เคยได้รับคำร้องอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้จาก พ.ต.ท.ทักษิณ
"เขาจะได้รับแจ้งอย่างสุภาพว่า เขาจะไม่ได้รับอนุญาต (ให้ลี้ภัย) จากประเทศนี้" ดูเรซากล่าวกับโทรทัศน์ เอเอ็นซี
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ผู้หนึ่งก็บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ "ไม่น่า" ที่จะมาขอลี้ภัยในมะนิลา ถึงแม้มีรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ของไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ ก็ตามที
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวด้วยว่า กระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ไม่น่าจะอนุมัติคำขอลี้ภัยรายนี้ถ้าหากยื่นเสนอเข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้ให้เหตุผลรายละเอียด
ข่าวคาดเดาเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะไปขอลี้ภัยที่ฟิลิปปินส์ ยิ่งดูเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น สืบเนื่องจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีของไทยคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กำลังไปเยือนฟิลิปปินส์ และมีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีอาร์โรโยเมื่อวานนี้ด้วย
เอเอฟพีชี้ "ทักษิณ" อาจไปอยู่ดูไบ
สำนักข่าวเอเอฟพีบอกว่า มีรายงานว่า บาฮามาส, เบอร์มิวดา, ตลอดจนหลายๆ ประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย ได้เสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานไปพำนักลี้ภัย
อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีอ้างผู้ช่วยหลายๆ คนของ พ.ต.ท.ทักษิณที่กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะมุ่งหน้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
"ถ้าท่านไม่สามารถไปที่ไหนได้ ท่านก็วางแผนไว้ที่จะไปอยู่ยาวในดูไบ (รัฐหนึ่งของยูเออี)" ผู้ช่วยคนหนึ่งของ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวโดยขอให้สงวนนาม
ทูตอังกฤษยันเคารพ ปชต.ไทย
เมื่อเวลา 17.10 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายควินทัน เควลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังหารือนาน 50 นาที นายเควลย์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือกันหลายเรื่อง ตั้งแต่การเดินทางเยือนกัมพูชาของรัฐมนตรีต่างประเทศ การประชุมอาเซียนและอาเซม รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ไทยอังกฤษ โดยตอนหลังรัฐมนตรีต่างประเทศได้ถามถึงเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนได้ตอบไปว่า ตลอดวิกฤตการณ์ทางการเมืองในไทย ประเทศอังกฤษได้ยึดมั่นในการเคารพประชาธิปไตยของไทยเป็นหลัก โดยไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หลักการเดียวกันนี้ ก็ใช้ในการพิจารณาการเข้าออกประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามกฎหมายอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องการเข้าออกประเทศอังกฤษของบุคคลใดก็ตาม
เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามอื่นๆ รวมถึงกรณีผู้ที่ถูกเพิกถอนวีซ่าจะสามารถยื่นขอวีซ่าอังกฤษได้ใหม่หรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่า ตอบไม่ได้
"สมชาย" เลี่ยงตอบพาสปอร์แดง
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการที่รัฐบาลไม่ยอมยกเลิกพาสปอร์ตแดง หรือ พาสปอร์ตทางการทูต ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของอดีตนายรัฐมนตรี โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้มาทำเรื่องทำมาหากินก่อน เรื่องอื่นปล่อยไปก่อน เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือพี่น้องประชาชนกำลังลำบากเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล
ด้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า พร้อมจะพิจารณาอย่างเป็นธรรมและจะขอรับผิดชอบ เรื่องนี้ด้วยตัวเอง และส่วนตัวเห็นว่าการถือหนังสือเดินทางทูต ไม่ได้มีความพิเศษกว่า หนังสือเดินทางของบุคคลธรรมดาแต่อย่างใด
นายสมพงษ์ ยังแสดงความกังวลต่อกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ออกมาให้ข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือสอบถามเหตุผลการถอนวีซ่า ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ต่อสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยว่า เรื่องนี้ตนรู้สึกไม่สบายใจกับข่าวที่ออกมา ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นายสมพงษ์ ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ขอให้ทางการอังกฤษ ชี้แจงกรณีการเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ภริยา เนื่องจาก เป็นเอกสิทธิที่ทางการอังกฤษสามารถดำเนินการได้
"เรื่องการถอนวีซ่า เป็นเรื่องของประเทศอังกฤษ เป็นสิทธิเด็ดขาดที่จะดำเนินการได้ สามารถถอดถอนได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ใครทราบ และไม่ต้องตรวจสอบว่า เป็นเพราะอะไร และไม่ต้องสอบถามไปยังสถานทูตอังกฤษใดๆ ทั้งสิ้น"
กต.พร้อมร่วมมืออัยการขอตัว "แม้ว"
นายสมพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศพร้อมให้ความร่วมมือกับสำนักงานอัยการสูงสุดหากมีการประสานให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย และแม้จะยังไม่รู้ที่พำนักเป็นหลักแหล่งชัดเจนก็เชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการติดตามตัวกลับมา ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศ จะให้ความร่วมมือทุกขั้นตอน ไม่ว่าอัยการสูงสุดจะสอบถามอะไร ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหนในโลก ก็หาเจอ แต่ในขณะนี้ทางอัยการสูงสุด ยังไม่มีถามมา หากสอบถาม เรื่องใดมา เราก็พร้อมให้ข้อมูล พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ตรงไหนก็หาได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในประเทศจีน และเตรียมขอ ลี้ภัยในประเทศฟิลิปปินส์นั้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ทั้ง 2 ประเทศมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงสามารถ เดินทางเข้าออกประเทศฟิลิปปินส์ได้ เนื่องจากไม่ต้องขอวีซ่า แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางการฟิลิปปินส์ว่าจะอนุญาตหรือไม่
"สาก"เฉ่งอังกฤษขาดความสง่างาม
ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้ติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน แต่การกระทำของทางการอังกฤษนั้นขาดความสง่างาม เพราะการถอนวีซ่าทำให้อังกฤษเสียหาย โดยเฉพาะในเวทีการเมืองโลก
"ที่ผ่านมาอังกฤษบอกว่าเป็นประเทศต้นแบบระบอบประชาธิปไตย ต่อต้านการรัฐประหาร แต่เรื่องการถอนวีซ่านั้น ทั้งที่รู้อยู่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจโดย คมช. และพำนักอยู่ในอังกฤษมานาน และยังมีธุรกิจอยู่ในอังกฤษจำนวนมาก จึงไม่ทราบว่าเรื่องนี้อังกฤษกลัวอะไร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า การถอนวีซ่าครั้งนี้เป็นเพราะการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า การโฟนอินไม่มีอะไรเสียหาย และคงไม่ใช่สาเหตุ การถอนวีซ่า และกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปีนั้น คงไม่ใช่เหตุผลของการถอนวีซ่าเช่นกัน เนื่องจากคำตัดสินนั้น ชนะด้วยเสียง 5 ต่อ 4 และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นผู้ซื้อที่ดินรัชดา เห็นได้ว่า กระบวนการที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ผิด มีการวางขั้นตอนมาตั้งแต่สมัย คมช. เข้ายึดอำนาจแล้ว
"เชื่อว่าหมู่เกาะบาฮามาสจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์อย่างแน่นอน จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถใช้หนังสือเดินทางในฐานะพลเมืองกิตติมศักดิ์ดังกล่าวเดินทางไปได้ทุกประเทศทั่วโลก ถึงแม้ทางการไทย ถอดถอนหนังสือเดินทางเล่มแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปก็ตาม อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยอยู่ที่เมืองจีนเลยหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ"
เชื่อ "บาฮาบาส" ให้ "ทักษิณ" ซุกหัวแน่
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเมื่อถอนวีซ่าแล้ว สามารถขอใหม่ได้ อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีธุรกิจ และบ้านอยู่ในอังกฤษ ไม่ใช่พลเมืองที่หลักลอย
ส่วนกรณีที่หมู่เกาะบาฮามาสจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์นั้น นายประชา กล่าวว่า ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปอยู่ที่ไหน มีคนยินดีจะให้อยู่อยู่แล้ว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนมีความรู้ มีความสามารถ ทำประโยชน์ให้กับประเทศนั้น ๆ ทั้งนี้ไม่ต้องการให้หลายฝ่ายไปวุ่นวายสอบถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล หากไปวุ่นวายมาก พ.ต.ท.ทักษิณ อาจกลับเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็ได้
ส่วนที่ที่ นายเตช บุนนาค อดีต รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยอยู่ที่ประเทศจีนนั้น นายประชา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ส่วนตัวเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเพื่อนและคนรู้จักอยู่ในประเทศจีน เป็นจำนวนมาก
ปชป.แนะนายกฯ เอาตัว "แม้ว" กลับไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเพิกเฉยต่อการถอนพาสปอร์ตแดง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของคนๆ เดียวว่า ตนไม่อยากไปพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่านี้ เพราะคนในประเทศก็พูดจากันมากแล้ว อยู่ที่รัฐบาลและนายกฯที่จะต้องฟังเสียงประชาชนบ้างว่าเขารู้สึกและคิดอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า อังกฤษแสดงความชัดเจนในการถอนวีซ่าไปแล้ว แต่ทางประเทศไทยกลับไม่มีการดำเนินการอะไร ทั้งที่ศาลได้มีการตัดสินคดีไปแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าผู้ต้องหาที่ถูกพิจารณาคดีในศาลและหลบหนี ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ บ้านเมืองที่จะต้องติดตามนำตัวกลับมาลงโทษตามความผิด แต่ที่ปรากฎคือ ผู้ที่ถูกพิพากษาคืออดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นญาติพี่น้องกับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งหากหน่วยงานที่รับผิดชอบในการตามตัวไม่ทำงาน นายกฯก็จะต้องถูกสังคมวิจารณ์ เขาก็คงต้องโทษนายกฯ และไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ส่วนที่นายกฯ มักจะอ้างว่า อย่าเอาเรื่องคนๆเดียวมาเป็นปัญหาการเมือง จนทำให้ประเทศไม่พัฒนานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เพราะการดำเนินการทางการเมือง ของนายกฯและคนรอบๆ ข้าง ที่ทำให้เป็นปัญหาบ้านเมืองที่จะปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นควรที่จะต้องไปแก้ตรงจุดนี้
ฉะอ้างเรื่องปากท้องแต่ก็ยังไม่ทำ
"นายกฯ ต้องทำให้จริงจัง ส่วนที่จะได้ผลหรือไม่ ประชาชนก็เตรียมพร้อมที่จะทำความเข้าใจอยู่แล้ว เช่น สมมติว่า พ.ต.ท.ทักษิณหนีไปอยู่ประเทศไหน รัฐบาล ทำงานเต็มที่ที่จะไปขอตัวเขามารับโทษ แต่ประเทศนั้นไม่ส่งตัวให้ จะอธิบายกับประชาชนอย่างไรก็เข้าใจได้ แต่ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เกี่ยวไม่ทำ ประชาชนเขาก็ไม่สบายใจ"
ส่วนที่นายกฯระบุว่าการถอนพาสปอร์ตแดงเป็นเรื่องเล็ก ปัญหาปากท้อง ของประชาชนสำคัญกว่านั้นนายสุเทพ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยเรียกร้องว่าเงินงบประมาณกลางปี 1 แสนล้านบาท ที่จะเสนอต่อรัฐสภา แต่ไม่เห็นมีการเสนอเสียที อย่ารอไปจนถึงสมัยการประชุมหน้า และบอกว่าเงินจะถึงมือประชาชนในเดือนเมษายนก็จะสายเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องของ ปากท้องประชาชนก็ไม่ทำ แต่จะไปทำในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำลายความรู้สึกของประชาชนมาก นายกฯต้องพูดให้ตรงกันว่าจะเอาเรื่องปากท้องของประชาชน ก็ทำให้ดูสักที
ถอนวีซ่าไม่เกี่ยวขอ "แม้ว" กลับ
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่าการถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณและภริยาของทางการอังกฤษ เป็นสิทธิ์ขาดของอังกฤษ อาจเป็นเพราะเกรงว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนที่มีคนบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอถอนวีซ่าเองเพื่อให้ตามตัวยากนั้น คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะคงไม่สามารถไปก้าวล่วงรัฐบาลอังกฤษได้ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกับการขอตัว พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี และคนละส่วนกับเรื่องยากหรือง่ายในการนำตัว พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมา เพราะการนำตัวพ.ต.ท. ทักษิณ กลับมานั้น ต้องดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่ไหนเป็นประจำ อัยการสูงสุดของไทยจะเป็นคนดำเนินการในการหาตัว จากนั้นจึงส่งเรื่องไปประเทศนั้น และขึ้นกับประเทศนั้นจะพิจารณา
ส่วนที่หลายประเทศอ้าแขนรับ พ.ต.ทักษิณ นายวิชา กล่าวว่า ต้องดูว่าประเทศนั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องการ เจรจาระหว่างประเทศที่สามารถทำได้
สำหรับการขอคืนเครื่องราชฯกับเรื่องการถอนพาสปอร์ตแดงนั้น นายวิชา กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุดเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยังสามารถอุทธรณ์ คดีได้อีก 30 วัน ซึ่งไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะดำเนินการตามขั้นตอนหรือไม่
อัยการโยน สตช.แจ้งที่อยู่ "แม้ว"
นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการ ติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องคำพิพากษาคดีทุจริต ซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวว่า ภายหลังที่มีข่าวประเทศอังกฤษ ยกเลิกวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคณะทำงานอัยการได้หารือเตรียมความพร้อมการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต้องรอความชัดเจนทั้งการยื่นอุทธรณ์คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และแหล่งที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งหากปรากฏข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ย้ายไปพำนักประเทศอื่นที่ไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน อัยการต้องเตรียมการพิจารณาข้อกฎหมายเพิ่มเติมของประเทศนั้นเพื่อยื่นคำร้องโดยใช้หลักการต่างตอบแทน
ทั้งนี้ ความชัดเจนเรื่องแหล่งที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องรอว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร้องขอให้อัยการดำเนินการขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน จะแจ้งความชัดเจนได้เมื่อใด ส่วนอัยการกำลังหารือว่าจะประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่อยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศเพิ่มเติมด้วยหรือไม่
"ผมยืนยันได้ว่า อัยการจะตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และพยายามอย่างเต็มที่ ในการเป็นผู้ประสานงานกลาง ยื่นคำร้องขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน"
ไทย-บาฮามาสไม่มีสนธิสัญญา
ด้าน นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า ตามขั้นตอนการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจะดำเนินการได้ต่อเมื่อมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าบุคคลนั้นมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในประเทศใด แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน บางกระแสข่าวว่าไปที่ประเทศฟิลิปปินส์ บางกระแสก็บอกว่าอยู่ในประเทศจีน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ สตช.ในฐานะผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตามหมายจับของศาลที่จะสืบหาข้อมูลที่ชัดเจนว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ที่ใดโดย สตช.จะต้องประสานขอความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศที่จะดำเนินการเรื่องดังกล่าว หลังจากที่มีข้อมูลชัดเจนแล้ว อัยการในฐานะผู้ทำหน้าที่ยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะได้ดำเนินการต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานเข้ามาจากทาง สตช.แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพำนักอยู่ที่หมู่เกาะบาฮามาส ตามที่มีรายงานข่าวออกมาก่อนหน้านี้ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบประเทศไทยกับบาฮามาสไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่อัยการยังสามารถดำเนินการยื่นคำร้องได้โดยอาศัยการให้คำมั่นหลักต่างตอบแทน แลกเปลี่ยนกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย โดยการยื่นข้อเสนอว่าถ้ายินยอมส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไทยก็ยินดีพิจารณาอำนวยความสะดวกในเรื่องลักษณะเดียวกันหากมีการร้องขอเข้ามา ซึ่งก็ยอมรับว่าขั้นตอนการดำเนินการคงยุ่งยากกว่าประเทศที่มีสนธิสัญญาระหว่างกันในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน