การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วานนี้ (10 พ.ย.) คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.เป็นเจ้าของสำนวน จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้จำนวน 11 คน โดยหนึ่งในนั้น คือนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.
โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ มีความเห็นว่า นายอภิรักษ์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 เนื่องจากเห็นว่า การลงนามในข้อตกลงซึ่งมีผลผูกพันในการทำสัญญาที่มีมูลค่าถึง 6,687 ล้านบาทได้กระทำไปโดยขัดมติครม. หลายมติ เป็นกระทำไปโดยขาดความรอบคอบโดยไม่ฟังข้อท้วงติงของฝ่ายต่างๆ
แหล่งข่าวจากป.ป.ช. กล่าวว่า หาก ป.ป.ช.มีมติเสียงข้างมากให้นายอภิรักษ์ มีความผิดจะมีการวินิจฉัยว่า นายอภิรักษ์ ต้องยุติการปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 55 หรือไม่ด้วย ซึ่งหากที่ประชุมป.ป.ช.ไม่สามารถตกลงกันในเรื่องนี้ได้ อาจส่งเรื่องให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป หรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
"กรณีนี้ถือว่ามีซับซ้อนกว่ากรณีของ 3 รัฐมนตรีที่เป็นจำเลยในคดีหวยบนดินอย่างมาก เพราะกระทำของนายอภิรักษ์ เกิดขึ้นขณะที่เป็นผู้ว่าฯกทม. สมัยแรก โดยถ้าเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระ โดยที่ปัจจุบันนายอภิรักษ์ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.อาจตีความได้ว่า กฎหมายดังกล่าวไม่มีผลบังคับถึงในปัจจุบัน แต่กรณีนี้ปรากฎว่า นายอภิรักษ์ ยังคงดำรงตำแหน่งอีกหนึ่งสมัย ทำให้ต้องตีความว่า ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ของนายอภิรักษ์ จะเข้าไปมีผลต่อคดีหรือไม่" แหล่งข่าวป.ป.ช. ระบุ
**พร้อมรับคำตัดสินป.ป.ช.
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดคดีทุจริตจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิงของกทม. ในวันนี้(11 พ.ย.) ว่า ต้องให้ทางป.ป.ช. มีการพิจารณาตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งตนไม่ขอแสดงความเห็น ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ตนจะเป็น 1 ใน 11 คนที่จะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนั้น ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ ไม่ขอพูดถึงในรายละเอียดใดๆ
ต่อข้อถามว่า หากถูกชี้มูลจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเลยหรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า คงต้องรอดูผลการหารือของป.ป.ช. และข้อสรุปอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตอบอะไรไม่ได้
ด้านนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวว่า หากนายอภิรักษ์ ถูกชี้มูลความผิดในคดีนี้ ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯกทม. ทันที เพื่อแสดงสปิริตของผู้บริหาร รวมไปถึงรองผู้ว่าฯกทม. คณะที่ปรึกษา ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยนายอภิรักษ์ด้วย ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปพร้อมกัน ส่วนการรักษาราชการนั้นต้องให้เป็นหน้าที่ของ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. จะให้บุคคลใด บุคคลหนึ่งที่มีตำแหน่งในคณะผู้บริหารฝ่ายการเมืองมาปฏิบัติหน้าที่แทนไม่ได้ เพราะถือว่าผิดระเบียบ
**พร้อมพักงานหากถูกชี้มูล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จะรอฟังการพิจารณาของ ป.ป.ช. และขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาพรรคไม่เคยเข้าไปแทรกแซงกระบวนของป.ป.ช. ซึ่งไม่ว่าจะพิจารณามาอย่างไร พรรคพร้อมจะยอมรับ แต่ถ้าถูกชี้มูลนายอภิรักษ์ ก็จะหยุดปฏิบัติหน้าที่และ รอการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะไม่มีข้อกฎหมายระบุชัดว่า จะต้องลาออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า นายอภิรักษ์บริสุทธิ์ และไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อนายอภิรักษ์ เข้ามารับผิดชอบในฐานะผู้ว่าฯกทม. พรรคได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กัน และตนได้นำกรณีนี้ไปปรึกษาสำนักงานทนายความ คนึง ฤาชัย ซึ่งเป็นผู้มีความรู้เรื่องระหว่างประเทศ และได้รับคำแนะนำว่า ถ้านายอภิรักษ์ ไม่เปิดแอลซี จะต้องถูกเล่นงานอย่างแน่นอน และจะเสียเปรียบ ถ้ามีข้อขัดแย้งระหว่างผู้ซื้อ กับผู้ขาย ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการของอนุญาโตตุลาการ และถ้าขึ้นศาลระหว่างประเทศ ก็ไม่มีทางชนะ เพราะสัญญามีผลไปแล้ว ก่อนที่นายอภิรักษ์ จะมาเป็นผู้ว่าฯกทม.
"ใครจะว่าอย่างไร ผมยังเชื่อว่า คุณอภิรักษ์บริสุทธิ์ และเชื่อว่าคณะทำงาน ป.ป.ช.และศาลฎีกาฯ จะพิจารณาตามข้อเท็จจริงตามหลักฐาน จึงไม่ต้องกังวลใจ ถ้าถูกชี้มูล พรรคต้องตอบตามข้อเท็จจริง และทำตรงไปตรงมา ซึ่งมีกฎเกณฑ์กติกาอยู่ ถ้าบอกให้พักงาน ก็ต้องพักงาน หากบอกให้ไปรับการพิจารณาคดี เราก็รอพิจารณาคดี แต่ตอนนี้เป็นการพูดไปก่อนเหตุทั้งนั้น จึงควรรอฟังในวันนี้(11 พ.ย.) ก่อน ถ้าพูดไปก่อนเหตุ จะทำให้คนฟังเสียกำลังใจ" นายสุเทพกล่าว
ส่วนข่าวที่ว่า ถ้านายอภิรักษ์ ถูกชี้มูลว่ามีความผิด พรรคจะให้นายอภิรักษ์ ลาออกหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายอภิรักษ์ ว่าถ้าถูกชี้มูลแล้วจะดำเนินการอย่างไร เพราะติดตามตั้งแต่ต้น จึงไม่ได้สนใจที่จะไปคุย ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าพรรคตัดสินใจถูกแล้วที่ส่งนายอภิรักษ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย เพราะถือว่านายอภิรักษ์ เป็นผู้ว่าฯกทม.ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง นับตั้งแต่มีผู้ว่าฯกทม.มา ซึ่งคนกรุงเทพฯ ก็เห็นแบบเดียวกันนี้ คะแนนสนับสนุนของนายอภิรักษ์ ในครั้งนี้ จึงมากกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่แล้ว ฉะนั้น ตนคิดว่าพรรคทำถูกแล้ว อย่าไปกังวลใจอะไร
**ไม่รับประกันชี้มูลวันนี้
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบคดีการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดังเพลิงของกทม. กล่าวถึงความคืบหน้าในการชี้มูลคดีรถดับเพลิงว่า ป.ป.ช.ประชุมไปแล้ว 1 ครั้ง และวันนี้ (11พ.ย.) จะพิจารณาต่อ ส่วนจะชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องเลยหรือไม่ ยังไม่แน่ อย่างพึ่งไปคาดเดา ขึ้นกับกรรมการ ป.ป.ช.ว่า อยากได้ข้อมูลเพิ่มหรือไม่ แต่อนุฯของตน ก็พยายามชี้ให้เห็นจุดต่างๆ ของพฤติกรรมของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องให้ป.ป.ช. ทราบแล้ว
เมื่อถามว่า จะชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาตามที่ปรากฏตามรายงานข่าวของสื่อทั้ง 11 คน หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า อย่าพึ่งให้ตนพูดอะไร เพราะต้องให้เกียรติกรรมการป.ป.ช. ทุกคน อย่างไรก็ตาม หากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ถูกชี้มูล ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย โดยหยุดปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นอย่าพึ่งไปกำหนดล่วงหน้า
โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ มีความเห็นว่า นายอภิรักษ์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 เนื่องจากเห็นว่า การลงนามในข้อตกลงซึ่งมีผลผูกพันในการทำสัญญาที่มีมูลค่าถึง 6,687 ล้านบาทได้กระทำไปโดยขัดมติครม. หลายมติ เป็นกระทำไปโดยขาดความรอบคอบโดยไม่ฟังข้อท้วงติงของฝ่ายต่างๆ
แหล่งข่าวจากป.ป.ช. กล่าวว่า หาก ป.ป.ช.มีมติเสียงข้างมากให้นายอภิรักษ์ มีความผิดจะมีการวินิจฉัยว่า นายอภิรักษ์ ต้องยุติการปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 55 หรือไม่ด้วย ซึ่งหากที่ประชุมป.ป.ช.ไม่สามารถตกลงกันในเรื่องนี้ได้ อาจส่งเรื่องให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป หรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
"กรณีนี้ถือว่ามีซับซ้อนกว่ากรณีของ 3 รัฐมนตรีที่เป็นจำเลยในคดีหวยบนดินอย่างมาก เพราะกระทำของนายอภิรักษ์ เกิดขึ้นขณะที่เป็นผู้ว่าฯกทม. สมัยแรก โดยถ้าเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระ โดยที่ปัจจุบันนายอภิรักษ์ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.อาจตีความได้ว่า กฎหมายดังกล่าวไม่มีผลบังคับถึงในปัจจุบัน แต่กรณีนี้ปรากฎว่า นายอภิรักษ์ ยังคงดำรงตำแหน่งอีกหนึ่งสมัย ทำให้ต้องตีความว่า ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ของนายอภิรักษ์ จะเข้าไปมีผลต่อคดีหรือไม่" แหล่งข่าวป.ป.ช. ระบุ
**พร้อมรับคำตัดสินป.ป.ช.
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดคดีทุจริตจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิงของกทม. ในวันนี้(11 พ.ย.) ว่า ต้องให้ทางป.ป.ช. มีการพิจารณาตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งตนไม่ขอแสดงความเห็น ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ตนจะเป็น 1 ใน 11 คนที่จะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนั้น ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ ไม่ขอพูดถึงในรายละเอียดใดๆ
ต่อข้อถามว่า หากถูกชี้มูลจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเลยหรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า คงต้องรอดูผลการหารือของป.ป.ช. และข้อสรุปอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตอบอะไรไม่ได้
ด้านนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวว่า หากนายอภิรักษ์ ถูกชี้มูลความผิดในคดีนี้ ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯกทม. ทันที เพื่อแสดงสปิริตของผู้บริหาร รวมไปถึงรองผู้ว่าฯกทม. คณะที่ปรึกษา ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยนายอภิรักษ์ด้วย ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปพร้อมกัน ส่วนการรักษาราชการนั้นต้องให้เป็นหน้าที่ของ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. จะให้บุคคลใด บุคคลหนึ่งที่มีตำแหน่งในคณะผู้บริหารฝ่ายการเมืองมาปฏิบัติหน้าที่แทนไม่ได้ เพราะถือว่าผิดระเบียบ
**พร้อมพักงานหากถูกชี้มูล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จะรอฟังการพิจารณาของ ป.ป.ช. และขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาพรรคไม่เคยเข้าไปแทรกแซงกระบวนของป.ป.ช. ซึ่งไม่ว่าจะพิจารณามาอย่างไร พรรคพร้อมจะยอมรับ แต่ถ้าถูกชี้มูลนายอภิรักษ์ ก็จะหยุดปฏิบัติหน้าที่และ รอการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะไม่มีข้อกฎหมายระบุชัดว่า จะต้องลาออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า นายอภิรักษ์บริสุทธิ์ และไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อนายอภิรักษ์ เข้ามารับผิดชอบในฐานะผู้ว่าฯกทม. พรรคได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กัน และตนได้นำกรณีนี้ไปปรึกษาสำนักงานทนายความ คนึง ฤาชัย ซึ่งเป็นผู้มีความรู้เรื่องระหว่างประเทศ และได้รับคำแนะนำว่า ถ้านายอภิรักษ์ ไม่เปิดแอลซี จะต้องถูกเล่นงานอย่างแน่นอน และจะเสียเปรียบ ถ้ามีข้อขัดแย้งระหว่างผู้ซื้อ กับผู้ขาย ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการของอนุญาโตตุลาการ และถ้าขึ้นศาลระหว่างประเทศ ก็ไม่มีทางชนะ เพราะสัญญามีผลไปแล้ว ก่อนที่นายอภิรักษ์ จะมาเป็นผู้ว่าฯกทม.
"ใครจะว่าอย่างไร ผมยังเชื่อว่า คุณอภิรักษ์บริสุทธิ์ และเชื่อว่าคณะทำงาน ป.ป.ช.และศาลฎีกาฯ จะพิจารณาตามข้อเท็จจริงตามหลักฐาน จึงไม่ต้องกังวลใจ ถ้าถูกชี้มูล พรรคต้องตอบตามข้อเท็จจริง และทำตรงไปตรงมา ซึ่งมีกฎเกณฑ์กติกาอยู่ ถ้าบอกให้พักงาน ก็ต้องพักงาน หากบอกให้ไปรับการพิจารณาคดี เราก็รอพิจารณาคดี แต่ตอนนี้เป็นการพูดไปก่อนเหตุทั้งนั้น จึงควรรอฟังในวันนี้(11 พ.ย.) ก่อน ถ้าพูดไปก่อนเหตุ จะทำให้คนฟังเสียกำลังใจ" นายสุเทพกล่าว
ส่วนข่าวที่ว่า ถ้านายอภิรักษ์ ถูกชี้มูลว่ามีความผิด พรรคจะให้นายอภิรักษ์ ลาออกหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายอภิรักษ์ ว่าถ้าถูกชี้มูลแล้วจะดำเนินการอย่างไร เพราะติดตามตั้งแต่ต้น จึงไม่ได้สนใจที่จะไปคุย ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าพรรคตัดสินใจถูกแล้วที่ส่งนายอภิรักษ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย เพราะถือว่านายอภิรักษ์ เป็นผู้ว่าฯกทม.ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง นับตั้งแต่มีผู้ว่าฯกทม.มา ซึ่งคนกรุงเทพฯ ก็เห็นแบบเดียวกันนี้ คะแนนสนับสนุนของนายอภิรักษ์ ในครั้งนี้ จึงมากกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่แล้ว ฉะนั้น ตนคิดว่าพรรคทำถูกแล้ว อย่าไปกังวลใจอะไร
**ไม่รับประกันชี้มูลวันนี้
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบคดีการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดังเพลิงของกทม. กล่าวถึงความคืบหน้าในการชี้มูลคดีรถดับเพลิงว่า ป.ป.ช.ประชุมไปแล้ว 1 ครั้ง และวันนี้ (11พ.ย.) จะพิจารณาต่อ ส่วนจะชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องเลยหรือไม่ ยังไม่แน่ อย่างพึ่งไปคาดเดา ขึ้นกับกรรมการ ป.ป.ช.ว่า อยากได้ข้อมูลเพิ่มหรือไม่ แต่อนุฯของตน ก็พยายามชี้ให้เห็นจุดต่างๆ ของพฤติกรรมของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องให้ป.ป.ช. ทราบแล้ว
เมื่อถามว่า จะชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาตามที่ปรากฏตามรายงานข่าวของสื่อทั้ง 11 คน หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า อย่าพึ่งให้ตนพูดอะไร เพราะต้องให้เกียรติกรรมการป.ป.ช. ทุกคน อย่างไรก็ตาม หากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ถูกชี้มูล ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย โดยหยุดปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นอย่าพึ่งไปกำหนดล่วงหน้า