“ดร.เหลิม” อวดฉลาดชี้พระวิหารไม่ถือทุจริต ครม.ไม่ได้เงินสักบาท

“เหลิม” ซัด ป.ป.ช.ตีความผิดทุจริตกับทำความผิด ใช้ กม.คนละฉบับ ยันคดีเขาพระวิหาร ครม.ไม่ทุจริต เหมือนกับคดีจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ ของนายหญิง ก็ไม่ทุจริต แค่ทำในสิ่งที่ห้ามเท่านั้น แขวะ “อภิรักษ์” สปิริตสูงส่ง โดนชี้มูลความผิดทุจริตคดีจัดซื้อรถ เรือดับเพลิง ลาออกทันที

วันนี้ (14 พ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติจะตรวจสอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีทำสัญญากับประเทศกัมพูชายกพื้นที่เขาพระวิหารให้กัมพูชา ว่า เป็นการดำเนินการที่ผิดรัฐธรรมนูญ มาตราที่ 190 ว่า เรื่องนี้ไม่ถือว่า ครม.ทุจริต แต่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งในการประชุม ครม.มีกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบแล้วว่าสามารถดำเนินการได้ไม่ผิดกฎหมาย และกองทัพระบุชัดเจนว่าไม่ได้เป็นการรุกล้ำดินแดน ดังนั้น ครม.จึงมีมติทำได้ข้อชี้แนะดังกล่าว

“หากกระทรวงการต่างประเทศ มีข้อเสนอในแนวทางหนึ่ง แต่ ครม.กลับเปลี่ยนแปลงไปอีกแนวทางหนึ่ง ก็ว่าไปอย่าง แต่เรื่องนี้ ครม.ทำตามข้อเสนอแนะจึงเป็นคนละประเด็นที่ ครม. ถูกกล่าวหาว่าทุจริต และสุดท้าย ยูเนสโกก็ไม่ได้ยึดถือเอามติ ครม.ของไทย เป็นหลักฐานสำคัญในการรับรองเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกด้วย” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ขั้นตอนต่อไป ป.ป.ช.ต้องแจ้งข้อกล่าวหากับ ครม.และตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งตนไม่คัดค้านใครจะเป็นกรรมการสอบสวนก็ได้ ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนในครม. จะต้องชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ซึ่งขณะนี้ยังเป็นแค่การตรวจสอบ ยังไม่ได้ชี้มูลความผิด

สำหรับกรณีที่ ครม.มีมติเรื่องเขาพระวิหารนั้น มีลักษณะเดียวกับคดีเรื่องการจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลพิพากษาว่ามีความผิดในการทุจริตจัดซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน ทั้ง 2 เรื่องนี้ ถือว่าไม่ใช่การทุจริต เพราะการทุจริตต้องเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้กับตนเอง หรือคนอื่น

“การซื้อที่ดินรัชดาฯ ไม่ได้เป็นการทำผิดกฎหมาย แต่เป็นเรื่องที่ทำโดยกฎหมายห้าม ต้องดูที่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเป็นหลัก ไม่ใช่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ตามที่ป.ป.ช. ยึดถือ เรื่องนี้ต้องแยกกัน ศาลพิพากษาความผิดได้ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องทุจริต ซึ่งกรณีเขาพระวิหาร นายกฯฮุนเซน เอาเงินให้ใคร ใครได้ผลประโยชน์ ไม่มีหลักฐาน ผมเป็น ครม.ยังไม่เห็นได้สักบาท”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว ไม่เหมือนกับคดีการทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ที่มีตัวเลขชัดเจน รถดับเพลิง 3,000 ล้านบาท แต่กลับซื้อในราคา 6,000 ล้านบาท ซึ่ง นายอภิรักษ์ มีสปริตสูงส่ง ลาออกทันทีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด โดยเรื่องนี้ สังคมต้องตั้งสติ สื่อมวลชนต้องมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ตนไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคที่มีมาตรฐานสูงส่ง